ไม่นานใบหน้าของลั่วจือเห้อนั้นได้เปลี่ยนเป็นสีขาวซีดแล้ว ตามสัญชาตญาณของสวีซุ่ยหนิงนั้นคิดว่าเขาคงทรมานมาก จึงได้ก้มลงจับไปที่หน้าผากของเขา ไม่มีไข้นี่
“นายจะดื่มน้ำหน่อยไหม?” เธอพูด
จริงๆ ลั่วจือเห้อก็คอแห้งมาก เหนื่อย ไม่มีแรงพูด จึงได้แต่พยักหน้าเท่านั้น
โดยธรรมชาติแล้วสวีซุ่ยหนิงไม่อาจให้เขาดื่มน้ำเปล่าธรรมดา ธรรมเนียมของคนในประเทศเรา คนป่วยต้องดื่มน้ำร้อน เธอจึงจะลงไปซื้อกระติกน้ำร้อนที่ชั้นล่างให้เขา
หลังจากที่เธอออกไป ลั่วจือเห้อจึงได้ส่งข้อความหาลูกน้อง แม้ว่าตระกูลหลินไม่อาจจะยั่วกันได้ง่ายๆ แต่ความคิดได้ตกอยู่บนตัวเขา นั้นหมายถึงว่ากำลังล้วงคองูเห่าอยู่
หลังจากที่ลั่วจือเห้อได้สานต่อธุรกิจของครอบครัว ได้เดินตามรอยพ่อเสมอมา ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผน ทำให้ผู้อื่นคิดว่าเขาไม่มีความคิดเป็นของตัวเองอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เดิมทีเขาให้ความสนใจที่จะเหลือหนทางไว้ในการทำธุรกิจ ไม่เคยทำสิ่งที่เกินพอดี ไม่สร้างศัตรูให้ตัวเอง เช่นนี้ทำให้คิดว่าจะลงมือกับตระกูลหลินนั้นง่ายมาก
ถึงแม้ตระกูลหลินได้ยั่วยุมาที่เขาแล้ว โชคดีที่ลั่วจือเห้อนั้นได้ลงมือเล่นงานเขาแล้ว
……
ขณะที่สวีซุ่ยหนิงกำลังเลือกกระติกน้ำร้อนที่ชั้นล่างอยู่นั้น ได้รับสายโทรศัพท์จากเฉินลู่
เธอเลือกอย่างตั้งใจ ไม่ได้สนใจฟังว่าเขากำลังพูดอะไร จนกระทั่งเขาได้เงียบลง เธอจึงได้รู้ตัวและถามออกไป “เมื่อครู่นายพูดอะไรนะ?”
สิ่งที่ตอบกลับเธอมาเป็นเสียงกระแอมของเฉินลู่
สวีซุ่ยหนิงนิ่งไปเล็กน้อย ค่อยพูดว่า “อาการป่วยของนายมันหนักมากเหรอ?”
ทางนั้นได้ถามกลับมาอย่างเย็นชา “เธอกำลังทำอะไร?”
น้ำเสียงของเขาแหบมาก แทบจะไม่มีเสียงดังออกมาเลย
ป่วยหนักไม่ใช่น้อยเลยจริงๆ
มือที่หยิบกระติกน้ำร้อนของสวีซุ่ยหนิงได้หยุดนิ่ง แล้วเก็บกลับไป
“กลับไปแล้ว?” น้ำเสียงของเขาตึงเครียดเล็กน้อย ไม่รู้กำลังอดกลั้นกับอะไร
“ยังเลย” ในใจสวีซุ่ยหนิงได้มีการแจ้งเตือนขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงถือว่ายังปกติ “พลาดเที่ยวบินน่ะ เลยอยู่อีกหนึ่งวัน”
เพียงแค่เธอไม่ยอมอ่อนข้อให้เขา แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะเลิกรากับเขาจริงๆ
สวีซุ่ยหนิงสงบจิตใจลงครุ่นคิด เรื่องราวทุกอย่างต่างมีสองด้าน เขาไม่ได้ปฏิเสธเธอ แต่ก็ยินยอมที่จะย้อนกลับ ด้านหนึ่งเห็นได้ชัดว่าโจวอี้มีสถานะอยู่ในสังคมจริงๆ อีกด้านก็แสดงให้เห็นว่า ในใจของเฉินลู่นั้นค่อนข้างที่จะแตกต่างเช่นกัน
ดังนั้นเธอจึงไม่ประนีประนอม อาจจะได้ผลกว่า
สวีซุ่ยหนิงเลือกกระติกน้ำเสร็จ ได้ไปจ่ายเงิน “นายดูแลตัวเองดีๆ เถอะ ฉันวางก่อนนะ”
เฉินลู่ไม่พูดอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...