เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 116

สรุปบท บทที่116 เปิดเผยหมดเปลือก: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

สรุปตอน บทที่116 เปิดเผยหมดเปลือก – จากเรื่อง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น

ตอน บทที่116 เปิดเผยหมดเปลือก ของนิยายการโต้แย้งเรื่องดัง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดยนักเขียน จิ่นอวิ๋น เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

สวีซุ่ยหนิงไม่คาดคิดว่าจู่ ๆ เฉินลู่จะพูดถึงเรื่องราวในอดีตกับเธอแบบนี้

ทั้งๆที่เมื่อก่อนเขาแทบไม่อยากเอ่ยปาก เธออดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจและรอให้เขาพูดต่อไปอย่างเงียบๆ

เฉินลู่เหลือบมองเธอและพูดต่อว่า “ต่อมา ฉันเป็นคนแรกที่รู้ว่าพ่อแม่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจริงๆ ในตอนที่พวกเขาสองคนเจอหน้ากัน แม่ฉันมักจะเย็นชาอยู่เสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลังเลิกเรียนกลับบ้าน ฉันเห็นรองเท้าของพ่อเหยียบอยู่บนใบหน้าของผู้ชายคนหนึ่ง ฉันรู้เลยว่าพ่อต้องการทำให้เขาอับอาย ส่วนแม่ก็นั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นพร้อมกับร้องไห้..."

ไม่มีสายตาของผู้ใดจับจ้องไปที่ร่างของเขา

เซี่ยซีหันกลับไปมองเขาครู่หนึ่ง ก่อนจะร้องไห้และด่าทอเฉินเจ๋อชูอย่างเอาเป็นเอาตาย หลังจากนั้นตะโกนเรียกชื่อชายหนุ่มด้วยความเจ็บปวด ดูน่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง

ชายคนนั้นไม่พูดอะไร เพียงจับมือเซี่ยซีไว้แน่น

เมื่อเห็นดังนั้น เฉินเจ๋อชูก็ยิ้มเย้ยหยันและยกเท้าขึ้น เหยียบลงบนนิ้วมือจนหัก ชายผู้นั้นเหงื่อออกด้วยความเจ็บปวด แต่เขายังไม่ยอมไม่ปล่อยมือ

ในทางตรงกันข้าม เซี่ยซีตะโกนร้องขออย่างบีบคั้นหัวใจ ร้องไห้อย่างขมขื่น คนที่ไม่เคยสนใจเฉินเจ๋อชูในตอนแรก แต่ตอนนี้กลับก้มหัวขอร้องเขาด้วยเสียงต่ำ

เฉินลู่ยังเป็นเด็กในเวลานั้น แต่เขาก็รู้ว่าไม่มีแม่คนไหนที่จะทำตัวไร้ค่าต่อหน้าลูกเช่นนี้

เขารู้สึกเจ็บปวด เสียงเล็กตะโกนออกไปว่า "แม่"

เซี่ยซีมองย้อนกลับไปที่เขาอย่างเย็นชา

เขากระชับสายกระเป๋านักเรียนด้วยความอึดอัดเล็กน้อย จากนั้นเฉินเจ๋อชูพูดขึ้นเบา ๆว่า “อาลู่ กลับไปที่ห้องก่อน”

เขาไม่ยอม ดังนั้นพี่เลี้ยงจึงบังคับพาเขากลับไป

หลังจากนั้น เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เฉินเจ๋อชูขอให้เซี่ยซีพาชายคนนั้นออกไป ขณะที่ทั้งสองเดินผ่านเฉินลู่ ไม่มีใครอยากมองเขาแม้แต่คนเดียว

ทุกคำพูดห่วงใยของเฉินลู่ติดอยู่ในลำคอของเขา เด็กมักจะคิดถึงแม่อยู่บ่อยๆ แต่เซี่ยซีไม่เคยพูดคำนั้นกับเขาเลยสักครั้ง เขาจึงรู้สึกผิดหวัง และเมื่อวิ่งไปหาเฉินเจ๋อชู ก็พบว่าเขานั่งสูบบุหรี่ตัวแล้วตัวเล่าอย่างเงียบๆในห้องหนังสือ

แต่เฉินเจ๋อชูรักเขามาก รีบกวักมือเรียกและกอดเขาเอาไว้ในอ้อมแขน

เฉินลู่ถามเขาว่าเซี่ยซีไม่ชอบตนเองหรือเปล่า

เฉินเจ๋อชูเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ไม่ใช่ว่าแม่ไม่ชอบแกหรอกนะ แม่แค่ขัดแย้งกับฉัน แต่เธอรักแกมากนะ"

แล้วแม่จะกลับมาหาผมเมื่อไร?

คิดถึงแม่จัง

เมื่อได้ยินดังนั้น สวีซุ่ยหนิงก็ทนไม่ไหว รีบจับมือเฉินลู่และมองดูเขาด้วยความเป็นห่วง

ใบหน้าของเขาสงบมาก ตอนนี้เขาคงไม่คิดอะไรแล้ว เขาเลื่อนเปิดภาพต่อไปแล้วพูดว่า "นี่เป็นภาพเดียวที่ฉันถ่ายคู่กับแม่"

สวีซุ่ยหนิงมองดู ในขณะนั้นเฉินลู่อายุเพียง 1 ขวบ ความสัมพันธ์ของเซี่ยซีกับเฉินเจ๋อชูในเวลานั้นไม่ได้แย่มากนัก เพราะเธอกำลังมองไปที่เฉินลู่ด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน

เมื่อตอนที่เฉินลู่ยังเด็ก เขาน่ารักและอ้วนท้วนมาก สวีซุ่ยหนิงไม่เคยเห็นเด็กที่น่ารักเท่านี้มาก่อน โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น มันช่างกลมโตมากเลย

สวีซุ่ยหนิงจินตนาการว่าท่าทางของเฉินลู่ที่มองเซี่ยซีด้วยความหวังนั้นเป็นอย่างไร และยังจินตนาการได้ว่าเขารู้สึกสูญเสียขนาดไหน หลังจากที่เขารู้ว่าเซี่ยซีไม่ชอบเขา

ไม่ว่าเฉินลู่จะมีเหตุผลแค่ไหนในตอนนี้ ก่อนหน้านี้เขาก็ยังเป็นแค่เด็ก เด็กมักจะรู้สึกไม่ปลอดภัยได้ง่าย พ่อแม่คือที่พึ่ง ถ้าไม่มีที่พึ่ง โลกทั้งใบของลูกคงจะพังทลาย

สวีซุ่ยหนิงกล่าวว่า "งั้นตอนที่พ่อแม่ของนายไม่อยู่ นายคิดถึงใครมากกว่ากัน?"

เฉินลู่หยุดครู่หนึ่งและในที่สุดก็พูดเบา ๆ ว่า “จะว่าไปมันแปลกนะ ถึงแม้พ่อจะใจดีกับฉันมาก แต่ทุกครั้งที่เกิดเรื่อง ฉันก็ยังคิดถึงแม่ก่อนตลอด จนถึงเหตุการณ์นั้น ฉันก็ไม่เคยคิดถึงแม่อีกเลย"

เหตุการณ์นั้นอาจเป็นสิ่งที่โจวอี้พูดถึง เขาเกือบถูกแทงด้วยเข็มปนเปื้อนโรคเอดส์ เมื่อขอความช่วยเหลือจากเซี่ยซี เธอกลับไม่ตอบรับคำขอใดๆ ทั้งยังแสดงออกอย่างเฉยเมย

เฉินลู่ได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง แต่เขาก็ยังให้โอกาสเซี่ยซีเสมอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน