แต่พูดขึ้นมาแล้ว หลายปีมาแล้ว สวีซุ่ยหนิงก็ยังไม่เปลี่ยนเลย ดูไม่แก่เลย
ลั่วจือเห้อเบนสายตากลับมา ขับไปซื้อไก่ทอดมาชุดหนึ่ง ถึงได้ลงมาจากรถ
สวีซุ่ยหนิงกำลังจะส่งไปถามลั่วจือเห้อว่าเขาอยู่ที่ไหน ก็เห็นว่าเขาถือกล่องไก่ทอดแล้วโผล่มาพอดี
"นายเร็วจัง" สวีซุ่ยหนิงเอ่ย
ลั่วจือเห้อยกยิ้มขึ้น จากนั้นก็เอ่ยหยอกล้อ: "ฉันไม่ชอบให้คนบอกว่าฉันเร็ว"
สวีซุ่ยหนิงพยักหน้า พูดเสริม: "นายมาเร็วจัง"
ลั่วจือเห้อนั่งลงข้างๆ แล้วเปิดขวดเบียร์ เขาถาม: "อารมณ์ไม่ดีเหรอ?"
สวีซุ่ยหนิงไม่ตอบ เธอสวมถุงมือเริ่มลงมือกินไก่ทอด แล้วหยิบอีกชิ้นให้เขา ลั่วจือเห้อมองไก่ทอดในมือเธอ แล้วเอ่ยว่า: "ฉันไม่กินอาหารเด็กน้อยแบบนี้หรอก"
สวีซุ่ยหนิงหดมือกลับ "ฉันก็ไม่เด็ก"
เธอยื่นมือไปตั้งใจจะหยิบเบียร์มาเปิดดื่ม แต่พอถือมาใกล้ กลับกลายเป็นกระป๋องโค้กแทน เธอถาม: "ทำไมถึงไม่ใช่เบียร์ล่ะ"
ลั่วจือเห้อมองเธอเล็กน้อย: "เป็นเด็กจะดื่มได้ยังไง"
สวีซุ่ยหนิงเอ่ยเตือนเขา: "นายเองก็ไม่ได้แก่กว่าฉันเท่าไหร่"
ลั่วจือเห้อเอ่ยออกมาเสียงยานคาง: "คนที่เด็กกว่าฉันเกินหนึ่งปี ก็เป็นเด็กทั้งนั้นแหละ"
ก็ได้
สวีซุ่ยหนิงตั้งใจกินไก่ทอด ลั่วจือเห้อเพียงแต่ดื่มเบียร์เท่านั้น ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงได้ขมวดคิ้วแล้วถามขึ้น: "ดึกแบบนี้เฉินลู่ยอมให้เธอออกมานั่งข้างนอกคนเดียว?"
"เขาทะเลาะกับฉันเพราะว่าเรื่องของโจวอี้" เธอเอ่ย "วันนี้ฉันไปหาโจวอี้โดยไม่บอกเขาก่อน บังคับให้เขาพูดต่อหน้าทุกคนว่าฉันเป็นแฟน เขาก็เลยไม่พอใจ ในเมื่อเขาขอให้ฉันเป็นแฟน ในฐานะแฟนคนหนึ่งฉันแค่ขอให้เขารักษาระยะห่างจากผู้หญิงคนอื่นไม่ได้เหรอ?"
ลั่วจือเห้อคิดอยู่ครู่นึ่ง ถึงจะเอ่ย: "ความคิดของหมอ ผู้ป่วยน่าจะสำคัญที่สุด แต่ว่าถ้าเป็นฉัน ฉันคงจะเข้าข้างแฟน"
สวีซุ่ยหนิงหลุบตาลงแล้วเอ่ย: "เขาดีกับพ่อแม่ของเธอ แต่ว่าตอนที่อยู่ต่อหน้าญาติของฉัน เขากลับทำตัวเฉยชา เขากำลังลำเอียงอยู่หรือเปล่า?"
ลั่วจือเห้อพยักหน้า: "เธอดูสิ เธอเองก็มีคำตอบในใจแล้วไม่ใช่เหรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...