เมื่อสวีซุ่ยหนิงออกมาจากสถานีตำรวจพร้อมกับหญิงวัยกลางคน จากนั้นเธอก็ไปส่งหล่อนกลับบ้าน
ระหว่างทางหญิงสาวคนนั้นร่ำไห้สะอึกสะอื้นและกล่าวขอบคุณเธอตลอดทาง
สวีซุ่ยหนิงได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมดจากเธอ ในปีนั้นลูกสาวของเธอเพิ่งจบมหาวิทยาลัย เป็นช่วงเวลาที่บทบาทใหม่ในชีวิตของเธอได้เริ่มต้นขึ้น แต่กลับประสบอุบัติเหตุรถยนต์ชนจนเสียชีวิต ผู้กระทำผิดคือเจียงเจ๋อ อย่างไรก็ตามในเวลานั้นได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นความผิดพลาดของชิ้นส่วนรถยนต์ที่นำไปสู่อุบัติเหตุ
ในเวลานั้นตระกูลเจียงมอบเงินชดเชยให้เธอเป็นเงินจำนวนมหาศาลและให้เธอยอมความ เธอเองไม่มีหลักฐานก็ต้องยอมจำนน
แต่ไม่ว่าเงินจะมากมายแค่ไหนก็ไม่สามารถแลกกับชีวิตของลูกสาวเธอได้
หญิงสาวคนนั้นเอ่ยอย่างโศกเศร้า "หลายปีที่ผ่านมา ฉันมักจะฝันถึงเธอ เธอกล่าวว่าเธอไม่ยินยอม คาดไม่ถึงเลยว่าเธอจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงๆ ลูกที่น่าสงสารของแม่ต้องจากไปอย่างไม่เป็นธรรมแบบนี้"
สวีซุ่ยหนิงตบไหล่ของหญิงสาวเป็นการปลอบโยน "ตำรวจจะตัดสินคดีอย่างยุติธรรมค่ะ"
สวีซุ่ยหนิงไปสืบสาวเรื่องราวในตอนนั้นมา ในตอนนั้นเจียงเจ๋อหนีไปหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ไม่สามารถตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ได้ทันท่วงที บริเวณนั้นมีกล้องวงจรปิดไม่มากนัก ไร้หลักฐานและไม่มีใครเห็นเหตุการณ์จึงเป็นการยากที่ตำรวจจะจัดการได้
และตระกูลเจียงยินดีที่จะจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อที่จะได้สนทนากันแบบส่วนตัว อุบัติเหตุบนท้องถนนเมื่อทั้งสองฝ่ายเคลียร์กันได้ ย่อมไม่เป็นคดีความอะไรและปล่อยผ่านไปได้
สิ่งที่ลั่วจือเห้อมอบให้เธอนั้นเป็นเพียงคลิปวิดีโอในคืนวันนั้นที่เจียงเจ๋อดื่มเหล้า ว่ากันว่าในคืนวันนั้นมีเหล่าดาราคนดังมาร่วมดื่มด้วย เหล่าแฟนคลับจึงแอบบันทึกวิดีโอเอาไว้
ใครจะล่วงรู้ได้ เวลาผ่านไปนานหลายปีกลับถูกเปิดเผยเสียแล้ว
หลังจากที่สวีซุ่ยหนิงส่งเธอกลับแล้ว ค่ำคืนวันนั้นเธอก็จองตั๋วเครื่องบินและบินกลับไปยังเมืองh
แม้ว่าเรื่องราวที่เมืองนี้ยังไม่เสร็จสิ้น เธอก็ต้องการจะไป สวีซุ่ยหนิงรู้สึกผิดหวังมาก เธอจะไม่ยอมเสียเวลางานของเธอเพื่อคนอื่นอีกแล้ว
....
เมื่อเฉินลู่ออกจากห้องพักผู้ป่วยของโจวอี้ แวบแรกเขาเห็นตะกร้าผลไม้ที่วางอยู่หน้าประตู
เขาชะงักไปชั่วขณะ ในขณะที่เขาจากไป เขาเอ่ยถามเพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมงานต่างก็รู้จักสวีซุ่ยหนิง ในไม่ช้าก็มีคนบอกว่าเป็นเธอและตะกร้าผลไม้นั่นก็เป็นเธอที่นำมันมา
เฉินลู่เอ่ย "แล้วเธออยู่ไหน?"
"เมื่อสักครู่เพิ่งเห็นเธอเดินออกไป" เพื่อนร่วมงานครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ จากนั้นเอ่ยอีกว่า "ดูเหมือนว่าเธอจะโกรธด้วยนะ"
เฉินลู่ลองคิดคำนวณเวลาและรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เขาขมวดคิ้วแน่น แต่นับว่ายังโชคดีที่สวีซุ่ยหนิงไม่ได้บุ่มบ่ามเข้าไปภายในเวลานั้น ไม่อย่างนั้นบางทีอาจจะทำให้เรื่องแย่ลงได้ สำหรับผลประโยชน์ในปัจจุบัน เขาเองก็ต้องคิดพิจารณา
"ฉันเข้าใจแล้ว" เฉินลู่เอ่ยอย่างไร้อารมณ์
แต่หลังจากที่ว่างได้เพียงไม่นาน เขาก็ได้รับสายโทรศัพท์จากแม่เจียง เห็นได้ชัดว่าเธอดูร้อนรนและเอ่ย "อาลู่ เรื่องของอาเจ๋อในปีนั้น คนในครอบครัวได้เปิดเผยหลักฐานบางอย่าง"
เฉินลู่ขมวดคิ้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...