สวีซุ่ยหนิงจ้องมองเงินที่ได้รับมาอยู่ชั่วขณะหนึ่ง เธอพลันยิ้มเย้ยหยัน ระงับความคับข้องใจไว้และเอ่ย "นายอย่าลืมสิ ฉันไปหานาย เงินค่าตั๋วเครื่องบินก็ไม่ใช่น้อยๆนะ"
เฉินลู่ชะงักไปชั่วขณะแล้วโอนเงินสองหมื่นหยวนให้เธออีกครา น้ำเสียงของเขาเหินห่าง "พอหรือยัง?"
สวีซุ่ยหนิงกล่าว "ทั้งหมดเป็นเงินเจ็ดพันหกร้อยหยวน หากว่าคุณหมอเฉินมีเงินขนาดนั้นก็ควรจะจ่ายให้ฉันเป็นสิบเท่า"
เฉินลู่กลับไม่ได้โอนเงินให้เธออีก เขาเพียงเอ่ย "เธอนี่ทำเงินได้เก่งจริงๆนะ"
เขาพูดของเขาเรียบง่าย แต่ทว่าภายในประโยคนั้นกลับมีคำพูดเสียดสีที่ไม่อาจอธิบายได้
สวีซุ่ยหนิงกล่าว "ก็ตั้งแต่ได้พบกับนายไง ความใจกว้างของหมอเฉินนั้นออกจะเลื่องลือ ใครไม่รู้บ้างว่าเส้นทางการหาเงินที่ดีที่สุดนั้นก็คือการรับเงินจากหมอเฉิน"
เธอเองก็เอ่ยเยาะเย้ยเขา คนโง่ที่มีเงินมันก็แค่นั้นแหละ
เฉินลู่จ้องมองเธอด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก
สวีซุ่ยหนิงสูดลมหายใจเข้าและกล่าว "ไม่ใช่ว่าต้องการจะไปหรอกเหรอ ก็รีบไปสิ"
เฉินลู่หันหลังและจากไปโดยไม่ลังเล เมื่อเขาจากไป เสียงประตูที่ปิดกระแทกนั้นดังมาก
เมื่อเพื่อนข้างบ้านได้ยินเสียงก็นึกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจึงรีบออกมาดู เห็นเฉินลู่กำลังยืนนิ่งราวกับว่าถูกแช่แข็ง เพื่อนข้างบ้านก็นิ่งเงียบไม่กล้าพูดอะไร
หลังจากที่เขาจากไป หญิงสาวที่เป็นเพื่อนข้างบ้านก็รีบมาเคาะประตูห้องของสวีซุ่ยหนิง
เมื่อสวีซุ่ยหนิงเปิดประตูออกมา หญิงสาวคนนั้นก็มองเธอด้วยสีหน้าเป็นกังวล "เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ผู้ชายคนนั้นรังแกเธอหรือเปล่า?"
แม้ว่าสวีซุ่ยหนิงจะยิ้ม แต่เมื่อมองดูแล้วเธอกำลังฝืน เธอโบกมือไปมาพลางกล่าว "ไม่หรอก ทะเลาะกันนิดหน่อย"
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นอย่างสงสัย เธอพลันนึกได้ว่าชายคนนั้นแต่งตัวดูมีภูมิฐานและไม่เหมือนคนเลวอะไร เธอจึงเอ่ยปลอบ "หลายครั้งที่การทะเลาะกันมันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา ฉันคิดว่าเธอกับเขาควรจะสงบสติอารมณ์กันก่อนแล้วค่อยมาพูดคุยกัน แบบนั้นน่าจะดีกว่า"
สวีซุ่ยหนิงส่ายหน้าและกล่าว "ไม่มีประโยชน์หรอก พวกเราทะเลาะกันเรื่องแฟนเก่าของเขา เขาคอยช่วยเหลือแฟนเก่าของเขา"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...