เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 135

สรุปบท บทที่ 135: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

สรุปเนื้อหา บทที่ 135 – เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น

บท บทที่ 135 ของ เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ในหมวดนิยายการโต้แย้ง เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จิ่นอวิ๋น อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

คำพูดนี้ของสวีซุ่ยหนิงไม่ใช่ว่าเธอพูดออกมาโดยไร้มูลเหตุ

ครั้งล่าสุดเธอแสดงท่าทียกตนข่มท่านภายในห้องพักผู้ป่วยของโจวอี้ บีบบังคับให้เฉินลู่ยอมรับเธอต่อหน้าคนอื่น ในตอนนั้นเห็นได้เลยว่าเธอกำลังเย้ยหยันโจวอี้

เฉินลู่ชำเลืองมองเธอหลายคราและเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบ "ฉันยังไม่ได้เอ่ยปากว่าเธอเป็นคนทำเลย ต่อให้เธอจะทำหรือไม่ทำ ฉันก็ไม่ได้สนใจ"

"ใช่ไง นายไม่ได้พูด แต่ภายในใจของนายก็สงสัยว่าฉันเป็นคนทำ" สวีซุ่ยหนิงพูดประชดประชัน

ประโยคสุดท้ายของเขา ไม่ใช่หมายความว่าแบบนี้หรอกเหรอ

เฉินลู่กล่าว "เธอพูดจาดีๆไม่ได้หรือไง? เธอลองดูตัวเองบ้าง ทุกวันนี้เราทะเลาะกับบ่อยมาก สามสี่วันก็ทะเลาะกันครั้งหนึ่ง แม้แต่วัวก็คงทนเธอไม่ไหว"

อารมณ์ของสวีซุ่ยหนิงกำลังจะพังทลาย เธอเชิญให้เขาออกไป เห็นกันอยู่ว่าเธอก็พูดจาดีกับเขา เธอไม่ได้พูดจารุนแรงกับเขาเลยแม้แต่ประโยคเดียว สำหรับเรื่องที่เธอไล่เขา ที่นี่เป็นสถานที่ที่เธอจ่ายค่าเช่าเอง การที่เธอให้เขาออกไปมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดบาปและเลวร้ายนี่ ตรงกันข้าม มันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลมากและไม่มีอะไรที่จะสมเหตุสมผลไปมากกว่านี้อีกแล้ว

เธอไม่ต้องการคุยกับเฉินลู่แล้ว เธอหันหลังและล้มตัวลงบนเตียงนอน ร่างกายของเธอซุกอยู่ภายใต้ผ้าห่ม

เฉินลู่เอ่ย "ทีรามิสุเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ อยากจะชิมสักสองคำไหม?"

สวีซุ่ยหนิงไม่สนใจเขา

เฉินลู่นำขนมหวานที่เขานำกลับมาไปแช่ตู้เย็น จากนั้นเขาหันหลังกลับและนำเกี๊ยวแช่แข็งเข้าไปภายในครัว

ไม่นานนัก สวีซุ่ยหนิงก็ได้กลิ่นหอมของเกี๊ยว พูดได้เลยว่าเกี๊ยวคือชนวน เธอลุกขึ้นจากเตียงในทันใด 'ฟึ่บ' จากนั้นเธอพุ่งตัวไปยังห้องครัวอีกครั้ง

เกี๊ยวของเฉินลู่ใกล้จะสุกแล้ว

สวีซุ่ยหนิงกลับเทเกี๊ยวทิ้งไปจริงๆ

ขณะนั้นสีหน้าของเฉินลู่อดไม่ได้ที่จะมืดมน เขาเอ่ย "สวีซุ่ยหนิง ทำไมเธอไร้เหตุผลและสร้างปัญหาแบบนี้?"

"ฉันบอกแล้วว่านั่นคืออาหารเช้าของฉัน"

"นี่ไม่ใช่ว่าเธอเททิ้งหรอกเหรอ? หรือว่าพรุ่งนี้เธอจะคุ้ยมันออกมาจากถังขยะแล้วนำมันมากินงั้นเหรอ?" เฉินลู่เอ่ยด้วยเสียงเย็นเยียบ

"ใช่ไง ฉันไม่อยากให้นายกิน" สวีซุ่ยหนิงกล่าว

เฉินลู่ชะงักงัน เขาหันหลังให้กับเธอและหยุดนิ่ง เนิ่นนานผ่านไปเขาเอ่ย "ไม่มีความรู้สึกอะไรกับฉันเลยงั้นสินะ?"

"อย่าว่าแต่ฉันเลย นายเองก็ไม่เห็นจะดีกว่าฉันตรงไหน"

เฉินลู่หันกลับมามองเธอ นัยต์ตาของเขาราวกับว่ากำลังเย้ยหยันตนเอง เขาเอ่ย "ในวันที่ฉันป่วย โทรหาเธอนั่นหมายความว่าอย่างไร ความหมายที่ฉันอยากให้เธอมาหาฉัน เธอคาดเดามันไม่ได้เลยงั้นเหรอ วันนั้นเธอดูแลลั่วจือเห้อ จงใจแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจว่าฉันหมายถึงอะไรใช่ไหม?"

สวีซุ่ยหนิงยังไม่ทันเอ่ยปาก เฉินลู่พูดขึ้นอีกครั้ง "ยังไงมันก็เป็นวิธีที่เธอชอบใช้มาตลอดอยู่แล้วนี่ การที่เธอสละเวลามาดูแลฉันเพื่อจุดประสงค์ของเธอ เรื่องนั้นก็ทำให้เธอลำบากแทบแย่อยู่แล้ว"

สวีซุ่ยหนิงรู้สึกว่าหัวใจของเธอหนาวยะเยือก เธอลาพักงาน เดินทางไกลมาอย่างยากลำบากเพื่อมาดูแลเขา ท้ายที่สุดกลับได้คำพูดแบบนี้ มองข้ามความสำคัญทุกอย่างและกล่าวว่าเธอสละเวลามาดูแลเขาเพื่อจุดประสงค์ของเธอ

"เฉินลู่ นายไม่รู้สึกขอบคุณก็ไม่เป็นไร แต่พูดจาประชดประชันให้น้อยลงหน่อย" สวีซุ่ยหนิงกล่าว "แม้ว่าฉันจะดูแลนายเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง แต่ฉันก็ทำด้วยแรงกายและแรงใจ"

"เธอสบายใจได้ ตามหลักเงินเดือนของพนักงาน ฉันจะมอบให้เธอเพิ่มอีกสิบเท่า" เฉินลู่เอ่ย

เหมือนกับว่าเขาแทบรอไม่ไหวที่จะทำเรื่องการโอนเงินให้เธอ ทันใดนั้นเขาก็โอนเงินให้เธอห้าหมื่นหยวน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน