อันที่จริงสวีซุ่ยหนิงรู้ว่าเฉินลู่กำลังยุ่งอยู่กับอะไร ไม่เพียงแต่จะต้องเข้าทำงานในโรงพยาบาล บริษัทของตระกูลเขาในช่วงนี้ก็มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น ปัญหาเรื่องภาษีต่างๆจะต้องได้รับการแก้ไข เขาเองก็ต้องสนใจในเรื่องนี้เช่นกัน
สิ่งเหล่านั้นบนอินเทอร์เน็ต ไม่มีเวลามาสนใจก็คงเป็นเรื่องปกติ
แต่ทว่าสวีซุ่ยหนิงก็ยังรู้สึกว่าการที่ได้พบเห็นโจวอี้นั้นไม่ใช่เรื่องเจริญหูเจริญตา
ไม่กี่วันต่อมา จู่ๆบนโลกอินเทอร์เน็ตก็มีข่าวเรื่องที่โจวอี้แต่งงานแล้วปรากฏขึ้น รวมถึงภาพวิดีโอที่เธอแต่งกายโชว์เนื้อหนัง มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยที่ก่นด่าเธอว่าเธอเป็นเสมือนอีตัว
ทางด้านโจวอี้ก็ตอบกลับอย่างใจกว้างและเปิดเผย : เป็นความจริงที่ฉันแต่งงานแล้ว แต่ฉันไม่ได้รู้สึกว่านี่จะเป็นปัญหาอะไร อีกอย่างเรื่องสไตล์การแต่งตัว นั่นคืออิสระของฉัน
มีคนถามเธอว่าใครเป็นคนโพสต์รูปเหล่านี้ โจวอี้ตอบอย่างแฝงความนัย : ฉันเองก็ไม่แน่ใจ อาจจะเป็นคนที่คอยตามจีบเฉินลู่หรือไม่ก็เป็นคนที่ชื่นชอบเขา พวกคุณอย่ามาคุยเรื่องไร้สาระเหล่านี้บนโลกอินเทอร์เน็ตเลย ข้างกายเฉินลู่ก็มีคนของเขาอยู่แล้ว พวกคุณบอกว่าฉันและเฉินลู่เหมาะสม ภายในใจของเธอคนนั้นจะต้องไม่มีความสุขอย่างแน่นอน
ชาวเน็ตแสดงความเห็น : นี่คือสิ่งที่เรากำลังพูดว่าทำไมเธอถึงเพ่งเล็งคุณ?
อีกประเด็นหนึ่ง มีคนถามเธอ เหตุใดจึงต้องแต่งงานกับเฒ่าชรา
คำตอบของโจวนี้นั้นกระชับและรวบรัด : เพื่อเงิน
คนสมัยนี้ต่างก็ชอบความแตกต่าง โจวอี้นั้นตรงไปตรงมา แต่กลับเป็นที่ชื่นชอบ
สวีซุ่ยหนิงกลับรู้ดี โจวอี้ไม่ได้แต่งงานกับเฒ่าชราคนนั้นเพื่อเงิน เฉินลู่เคยพูดไว้ เขานั้นเข้าใจผิดว่าเธอนอกใจและทำให้เธอไปแต่งงานกับคนคนนั้น มีความเป็นไปได้สูงมากที่โจวอี้ทำไปก็เพราะว่าโกรธเคืองเฉินลู่
เธอกำลังปกป้องชื่อเสียงของเฉินลู่
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เฉินลู่จะเชื่อมั่นในตัวเธอมาก เนื่องจากเธอและเฉินลู่คบกันมานาน แต่ไหนแต่ไรกลับไม่เคยต่อว่าเขา แต่ช่วยพูดแทนเขาในทุกๆเรื่อง นี่ทำให้ได้รู้ว่าเบื้องหลังนั้นเธอได้ทำเพื่อเฉินลู่มากแค่ไหน?
สวีซุ่ยหนิงไม่ได้อ่านเว่ยป๋ออีก เพียงแต่ในค่ำคืนนั้นเมื่อเธอกลับไป เธอเห็นว่าคำพูดที่ดุด่าโจวอี้ทั้งหมด รวมถึงวิดีโอรูปภาพเหล่านั้นที่ดูไม่สุภาพของหล่อนได้หายไปแล้ว
ใครจะสามารถใช้จ่ายเงินเพื่อเธอได้อีก นอกเสียจากเฉินลู่ก็ไม่มีทางเป็นใครอื่นได้
สวีซุ่ยหนิงรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูงที่โจวอี้จะชนะเธอ เนื่องจากเห็นกันอยู่ว่าเฉินลู่ได้ลบเนื้อหาข่าวในด้านลบให้แก่เธอ แต่กลับไม่ได้เอ่ยปากพูดอธิบายถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน
เธออยู่ในบริษัทและปิดปากเงียบไม่เอ่ยถึงเฉินลู่
เพื่อนร่วมงานของเธอ เมื่ออยู่ต่อหน้าเธอก็ไม่มีใครเอ่ยถึงโจวอี้เลย มีแต่ครั้งหนึ่ง เธออยู่ในโซนพักผ่อนของพนักงาน มีคนเอ่ยว่าโจวอี้และเฉินลู่เป็นคู่ที่ดูดีมากที่สุด ค่อนข้างน่าประทับใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...