อ่านสรุป บทที่133 ผลกระทบ จาก เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น
บทที่ บทที่133 ผลกระทบ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการโต้แย้ง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จิ่นอวิ๋น อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
การที่เฉินซื่อกรุ๊ปได้รับผลกระทบเป็นสิ่งที่คาดไว้แล้ว เพราะความใกล้ชิดและสายสัมพันธ์ดั่งเครือญาติ
แต่ทว่าเฉินเจ๋อลู่กลับใจเย็นมากและไม่ได้แก้ตัวใดๆ ไม่รู้ว่าข่าวมาจากไหนเพียงแค่ข้ามคืน โดยบอกว่าปกติแล้วเฉินลู่ไม่ข้องแวะเจียงเจ๋อแม้แต่น้อย
นี่เป็นการพิสูจน์ว่าเฉินลู่กับเจียงเจ๋อไม่ได้อยู่ในแวดวงเดียวกัน เที่ยวเล่นด้วยกันไม่ได้ จะเพราะเหตุผลอะไรได้อีกล่ะ? คนส่วนใหญ่แค่มองก็รู้แล้วว่าเฉินลู่ไม่ชอบสไตล์ของเจียงเจ๋อ
ถ้าเฉินซื่อกรุ๊ปมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจียงซื่อกรุ๊ปจริงๆ เป็นไปไม่ได้ที่รุ่นน้องจะมีความสัมพันธ์ห่างเหินแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการเรียนของเฉินลู่ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ไม่เหมือนกับเจียงเจ๋ออย่างเห็นได้ชัด
ในทางกลับกัน หลายคนถูกดึงดูดและบอกว่าอยากจะเป็นลูกสะใภ้ของเฉินเจ๋อชู
วันหนึ่งนักข่าวถามเฉินเจ๋อชูเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่งานแถลงข่าวผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ เขายิ้มและบอกอีกว่าลูกชายของเขายังไม่แต่งงาน ยินดีต้อนรับสาวๆทุกคน
ดูเป็นกันเองมากๆ
คลื่นการตลาดหันเหความสนใจ และดึงเฉินซื่อกรุ๊ปออกจากพายุอย่างรวดเร็ว
ทางด้านของเฉินลู่ มีเด็กสาวหลายคนแอบมาที่โรงพยาบาลเพื่อหาเขา เมื่อเรื่องร้อนแรงก็ดึงดูดความสนใจมากยิ่งขึ้น
บวกกับเขาที่มักจะรักษาระยะห่างอยู่เสมอ จึงถือได้ว่ามีกลุ่มแฟนคลับไม่น้อยเลยทีเดียว
เรื่องที่เฉินลู่มักจะเข้าไปห้องพักผู้ป่วยของโจวอี้ ก็ถูกคนที่คอยแอบดูเขารู้เข้า
โจวอี้ยอมรับชีวิตที่ถูกจับตามองไม่ได้ จึงคุยเรื่องนี้กับเฉินลู่ "เฉินลู่ ช่วงนี้มีกลุ่มผู้หญิงมาหานายบ่อยมาก ฉันรู้สึกว่ามันส่งผลกระทบต่อการพักผ่อนของฉัน "
เฉินลู่ขมวดคิ้ว ในคืนนั้นเขาได้โพสต์เวยป๋อ โดยบอกว่าโรงพยาบาลเป็นสถานที่ช่วยชีวิตผู้คน เขาหวังว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบต่อระเบียบของโรงพยาบาลหรือรบกวนการพักผ่อนของผู้อื่น
ด้านล่างมีคนตอบกลับคอมเม้นต์ และไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดถึงโจวอี้
มีแอคเค้าท์หนึ่งบอกว่าพวกเขาเคยเป็นคู่รักกัน และยังโพสต์รูปคู่ของพวกเขาสองคนก่อนหน้านี้ โดยบอกว่าเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก รู้จักกันมาสิบปี รักกันมาหกปี ในตอนแรกไม่มีใครสามารถแทรกกลางระหว่างพวกเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้นเฉินลู่มักจะปฏิเสธที่จะพูดคุยกับคนอื่นมาโดยตลอด
ใครจะไม่ชอบหนุ่มหล่อสาวสวยกันล่ะ ด้านล่างมีแต่แฟนคลับคู่จิ้นของพวกเขา หลายคนเดาว่าเฉินลู่พูดประโยคเหล่านี้กับโจวอี้และการดูแลอดีตแฟนสาวนั้นยากที่จะห้ามไม่ให้คนอื่นคิดอะไร
เฉินลู่กับโจวอี้ยังถูกตั้งชื่อคู่จิ้นด้วยว่า “โจวลู่”
โจวอี้ยังโพสต์เวยป๋อ โดยบอกว่าเรื่องของเธอกับเฉินลู่เป็นเพียงเรื่องราวในอดีต หวังว่าทุกคนจะไม่คาดหวังความสัมพันธ์ของเราสองคน พวกเราเป็นแค่เพื่อนกันและช่วยเหลือกันเป็นธรรมดา
ด้านล่างมีคนคอมเม้นต์มากมาย ไม่มีใครที่มีความเป็นคู่จิ้นได้มากกว่านี้อีกแล้ว หวังว่าพวกเขาจะได้คืนดีกันนะ
มีแม้กระทั่งชาวเน็ตที่แอบถ่ายรูปตอนที่เฉินลู่เข้าไปในห้องพักผู้ป่วยของโจวอี้ แล้วซูมภาพไปที่ดวงตาของเฉินลู่ แล้วพูดว่า : ดูสิ เขายังห่วงใยเธออยู่เลย ในใจเขามีเธอ โจวอี้ เธออย่ายอมแพ้นะ พวกเธอควรเป็นคู่กันจริงๆ
สวีซุ่ยหนิงรู้สึกรำคาญพฤติกรรมของโจวอี้จริง ๆ เมื่อมองแวบแรก เธอดูเหมือนจะมีน้ำใจและออกมาชี้แจง แต่เธอตอบทุกคอมเม้นต์ที่เกี่ยวกับตัวเองและเฉินลู่ ทำให้ความคิดเห็นเหล่านี้ขึ้นไปอยู่ด้านบนสุด
ไม่รู้ว่าทำแบบนี้เพื่อให้สวีซุ่ยหนิงเห็นหรือไม่
แต่ในเวลานี้เธอดูใจแคบอย่างมากที่แคร์ความคิดเห็นของชาวเน็ต เป็นคู่จิ้นแล้วยังไง?
เวลาแบบนี้ต้องให้เฉินลู่ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ
แต่เฉินลู่น่ะเหรอ? เฉินลู่ตายไปแล้ว ไม่ตอบข้อความมาสองวัน ถ้ายังไม่ตายแล้วจะเป็นอะไรได้ล่ะ?
กว่าเฉินลู่จะตอบข้อความของเธอ สวีซุ่ยหนิงก็ไม่อยากจะอ่านแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...