ภายในห้องรับรอง สวีซุ่ยหนิงรู้สึกว่าขาของเธอไร้เรี่ยวแรง
เฉินลู่ผ่านไปได้ครึ่งทาง เมื่อเขาเห็นหมายเลขบนหน้าจอโทรศัพท์ ทันใดนั้นเขาก็ผละตัวออกไป
สวีซุ่ยหนิงมองใบหน้าที่เย็นชาของเขา เขากำลังจ้องมองโทรศัพท์ จากนั้นเขารับสายและเอ่ยด้วยเสียงเย็นเยียบ "โทรมาทำไม?"
เธอนั่งอยู่ด้านข้างและได้ยิน เธอตะลึงงัน
ไม่รู้ว่าเธอเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า น้ำเสียงของเขานั้นเย็นชา ทั้งยังมีน้ำเสียงคับข้องใจที่แทบจะไม่อาจสังเกตได้อีกด้วย
ฉับพลันสวีซุ่ยหนิงก็นึกถึงคนที่เขาตามจีบอยู่นานหลายปี อดีตแฟนสาวคนนั้นที่ทำให้เขาเป็นเสมือนคนที่ตายทั้งเป็น
ในเวลาอันรวดเร็วเฉินลู่รีบวางสาย จากนั้นเขานั่งลงบนโซฟาอีกด้านหนึ่ง ราวกับว่าเขาอยู่ในภวังค์
กระทั่งสวีซุ่ยหนิงลุกขึ้นและสวมชุดโดยไม่พูดจา เขายกมือขึ้นและรูดซิปให้กับเธอ
เธอไม่ถามคำถามใด เพียงแค่เอ่ย "นายบอกว่าเรื่องของเจียงเจ๋อ นายจะช่วยฉัน นายจะไม่กลับคำใช่ไหม?"
จิตใจของเฉินลู่นั้นไม่สงบ เขาตอบรับเพียงคำว่า 'อืม' และเอ่ย "วันนี้ฉัน ดื่มมากไปหน่อย เลยทำเรื่องแบบนี้ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ"
ที่สำคัญ เธอสวมชุดดำแบบนี้แล้วค่อนข้างคล้ายกับใครบางคน
อีกอย่าง การพูดให้ร้ายของสวีซุ่ยหนิง ทำให้เขารู้สึกว่าเธอไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เขาเกิดความคิดอยากจะสั่งสอนเธอเสียหน่อย
ดังนั้นแล้วเฉินลู่จึงหุนหันพลันแล่นไปหน่อย
เดิมทีระหว่างเขาและเธอนั้นไม่ได้คิดว่าจะให้เกิดเรื่องขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง แต่เรื่องก็เลยเถิดมาถึงขั้นนี้แล้ว สิ่งนี้ทำให้เขาขมวดคิ้วแน่น
เฉินลู่ไม่ชอบสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของเขา
เขารู้สึกเบื่อหน่ายเธอขึ้นมานิดหน่อย
"อ่อ" สวีซุ่ยหนิงจ้องมองท่าทีของเขา จากนั้นเธอเอ่ย "ทิ้งหมายเลขโทรศัพท์ไว้ ฉันดูออก หลังจากนี้นายก็คงไม่คิดจะเข้าใกล้ฉันอีกในอนาคต แต่เรื่องของเจียงเจ๋อ นายตอบรับแล้วว่าจะช่วยฉัน ในอนาคตระหว่างเราคงได้ติดต่อกันอีกแน่นอน"
ไม่เจอหน้าก็โทรศัพท์ติดต่อกัน
เฉินลู่ขมวดคิ้วแน่น บอกตัวเลขโทรศัพท์ให้แก่เธอ "นี่คือเบอร์เลขาของฉัน"
ระมัดระวังตัวจากเธอจริงๆ แม้แต่เบอร์ส่วนตัวของเขา เขาก็ไม่ให้เธอ
สวีซุ่ยหนิงคาดหวังว่าเขาจะลองถามใจตัวเองดู วันนี้ใครกันแน่ที่เป็นคนริเริ่ม เธอไม่ได้ยั่วยวนเขาเลยแม้แต่น้อย
"อืม" เธอพยักหน้า เอ่ยอย่างอ่อนโยน "หมอเฉิน หวังว่านายจะพูดจริงทำจริง ฉันเป็นเด็กซื่อสัตย์ นายพูดอะไร ฉันก็เชื่อทั้งนั้น ถ้านายโกหกฉัน ฉันก็คงจะสิ้นไร้ไม้ตอก อาจจะวิ่งไปห้องทำงานของนายแล้วคิดสั้นฆ่าตัวตายก็เป็นได้"
เฉินลู่หรี่สายตาจ้องมองเธออย่างเย็นชา
โทรศัพท์ที่เขาวางสายไปเมื่อครู่ดังขึ้นอีกครั้ง
เขาไม่รับสายและไม่ตัดสาย
เวลานี้ เธอคิดว่าตัวเองพอจะรู้จักผู้ชายคนนี้อยู่บ้าง ดูเหมือนว่าเฉินลู่กำลังรำคาญคนคนนั้น แต่ความเป็นจริงแล้วเขากลับรอคนคนนั้น ไม่เช่นนั้นบล็อกไปก็สิ้นเรื่องแล้ว
ผู้ชายอย่างเฉินลู่ เขารู้ดีว่าจะตัดขาดความสัมพันธ์ของคนสองคนได้อย่างไร
เช่น ท่าทีเบื่อหน่ายที่แสดงออกอย่างชัดเจนของเขาเมื่อครู่นี้ ทำให้สวีซุ่ยหนิงรู้ตัวดีว่าเธอนั้นควรจะหยุดเข้าใกล้เขา
หลังจากเฉินลู่จากไป สวีซุ่ยหนิงได้รับข้อความวีแชทจากจางอวี้ ให้เธอนำเครื่องสำอางไปเติมหน้าให้เธอ
เมื่อจางอวี้เห็นเธอยังมีท่าหวาดผวาอยู่จึงเอ่ย "เมื่อกี้เจียงเจ๋ออยู่ที่หน้าประตู เขาน่าจะรู้เรื่องนี้แล้ว ไม่รู้ว่าจะมีปัญหาอะไรบ้าง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...