ทางด้านสวีซุ่ยหนิง กลับมีความล่าช้าทางด้านเวลา เดิมทีจะต้องออกเดินทางไปทำงานต่างเมือง แต่เมื่อขอความช่วยเหลือจากซูหว่านจิ้ง อีกฝ่ายก็ให้เธอไปที่บริษัทหากว่ามีเวลาว่าง
เธอทำได้เพียงต้องไปตามนัดหมาย
ซูหว่านจิ้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า เธอทำงานหนักมานานนับสิบปี แต่ทว่าการตกแต่งแบบโบราณของสำนักงานนี้ทำให้จิตใจของผู้คนสงบลง ทันทีที่มองไปทุกอย่างเป็นสีของไม้
เมื่อสวีซุ่ยหนิงมาถึง เธอกำลังจัดการกับเอกสาร เธอดูสง่างาม เข้มงวดจริงจังและพิถีพิถันมาก
บริเวณลำคอของเธอมีรอยตำหนิ รอยตำหนิบนผิวขาวราวกับหิมะเมื่อมองแล้วดูน่าตกใจไม่น้อย
"เถ้าแก่ซู" สวีซุ่ยหนิงเอ่ยปาก
ซูหว่านจิ้งแสดงท่าทีกวักมือ ในไม่ช้าก็มีคนเดินเข้ามา อาจจะเป็นผู้ช่วย รูปร่างสูงใหญ่ ราวกับเป็นนายแบบชาย มุมปากของเขากระตุกยิ้มเล็กน้อย เขาวางเครื่องดื่มลงบนถาดและเอ่ย "คุณสวี เชิญดื่มชา"
สวีซุ่ยหนิงพยักหน้า หากพูดตามหลักเหตุและผลแล้ว หากเป็นผู้ช่วยธรรมดาเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจของตนก็ย่อมต้องจากไป จะไม่รบกวนเจ้านาย ยามที่เจ้านายพูดคุยเรื่องธุรกิจ แต่ทว่าคนตรงหน้าเธอกลับตรงไปหาซูหว่านจิ้งถอดเสื้อคลุมของเธอออกพลางกล่าว "เถ้าแก่ ผมจะนวดไหล่ให้คุณ"
สวีซุ่ยหนิงสัมผัสได้อย่างชัดเจน เมื่อเขาเห็นรอยตำหนิบริเวณคอของเธอ เขาหรี่สายตาลง แต่ไม่อาจแยกแยะได้ว่านั่นคือความสุขหรือความทุกข์
หากว่าเป็นความสุข ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเป็นคนทำ
ซูหว่านจิ้งยังคงนิ่งไม่ขยับ ดูเหมือนเธอจะเคยชินกับมันแล้ว เปลือกตาของเธอก็ไม่ได้เงยขึ้นมามองเลยแม้แต่น้อย
สวีซุ่ยหนิงครุ่นคิด ข้างกายซูหว่านจิ้งห้อมล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อ แม้ว่าเซียวหร่านจะมีสถานะเป็นสามีแต่นั่นก็ไม่ได้สำคัญ
"เถ้าแก่ เหนื่อยใช่ไหม? พักสักครู่เถอะครับ ผมจะปอกผลไม้มาให้" ผู้ช่วยก้มศีรษะ ร่างกายของเขาแทบจะแนบชิดกับใบหูของหล่อนแล้ว
"ไม่ต้อง" ซูหว่านจิ้งเอ่ยอย่างรวบรัด "นายไปนั่งเถอะ"
นี่สินะถึงจะเรียกว่าต้องตาและต้องใจ
ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีคนมากมายอยากใช้ชีวิตร่ำรวย
ผู้ชายรูปหล่อคอยเป็นห่วงเป็นใยและเอาใจใส่แบบนี้ ใครจะไม่ชอบบ้างล่ะ
ผู้ช่วยคนนั้นจากไปอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...