เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 148

สรุปบท บบที่ 148: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

สรุปเนื้อหา บบที่ 148 – เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น

บท บบที่ 148 ของ เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ในหมวดนิยายการโต้แย้ง เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จิ่นอวิ๋น อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เฉินลู่ยืนนิ่งอยู่กับที่โดยไม่เคลื่อนไหว

แพทย์ฝึกหัดเอ่ยกับตัวเอง "แฟนของเขาน่าจะรำคาญเขา พวกเราฝึกงานอยู่ที่นี่มาเดือนหนึ่งแล้ว ไม่เห็นว่าแฟนของเขาจะมาหาเขาเลย ปกติแล้วก็ไม่เห็นจะโทรคุยกันทางโทรศัพท์ด้วย คู่รักปกติที่ไหนเป็นแบบนี้กัน"

ใบหน้ารูปไข่ที่หล่อเหลาของเฉินลู่สามารถดึงดูดผู้คนบางกลุ่มได้ แพทย์ฝึกหัดอีกคนมองไปทางเขาและเอ่ย "หมอเฉินเป็นเลิศขนาดนี้ หากเขาจีบเธอ เธอจะไม่ตอบตกลงไหมล่ะ?"

แพทย์ฝึกหัดคนนั้นเงียบ สีหน้าดูบูดบึ้งเล็กน้อย

"ฉันกลับคิดว่าเป็นหมอเฉินที่ไม่สนใจแฟนของเขา เธอดูเขาและคนในแผนกผู้ป่วยในคนนั้นสิ เหมือนมีกระแสใต้น้ำที่ไม่อาจบรรยายได้ ครั้งก่อนที่เขาโพสต์เว่ยป๋อ มองแวบแรกก็รู้แล้วว่าลายมือของแฟนเขา ประกาศตัวก็มา ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้หมอเฉินก็ไม่เคยแสดงท่าทีอะไรหรอกหรือไง แฟนสาวของเขาหาเรื่องก่อกวนเลยต้องโพสต์ยังไงล่ะ"

"ถ้าอย่างนั้นแฟนสาวของเขาดันทุรังสินะ ท้ายที่สุดแล้วใครไม่สนใจใครก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถระบุได้เลย"

ที่ไหนมีคน ที่นั่นยอมมีการซุบซิบนินทา

ทีมผู้ช่วยหมอเฉินและทีมสวีซุ่ยหนิงต่างก็ถกเถียงกันอย่างถึงพริกถึงขิง

เฉินลู่เดินไปยังแผนกผู้ป่วยในด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ทันทีที่เข้าไปในลิฟต์ เขาก็เห็นเซี่ยซี

เซี่ยซีจ้องมองเขาราวกับกำลังครุ่นคิดบางอย่าง จากนั้นหล่อนละสายตาไปและยักไหล่พร้อมกับเอ่ย "นิสัยของแก หากว่าไม่ชอบก็คือไม่ชอบจริงๆสินะ"

น้ำเสียงของเฉินลู่นิ่งเรียบเป็นอย่างมาก "นิสัยไม่ใช่สิ่งที่จะต้องทำให้ใครคนอื่นมาพอใจนี่ครับ อีกอย่าง ตอนผมเด็กก็ไม่ได้มีใครมาสั่งสอนผม"

รอยยิ้มของเซี่ยซีแข็งทื่ออยู่ชั่วขณะ เธอเอ่ยราวกับเป็นทองไม่รู้ร้อน "ดังนั้นแกกำลังจะกล่าวโทษที่ก่อนหน้านี้ฉันไม่สนใจแกใช่ไหม?"

“ก่อนหน้านี้จะเป็นยังไง สำหรับผมมันไม่ได้มีความสำคัญเลยสักนิด”

ใบหน้าของเฉินลู่เรียบเฉยมาก บางทีอาจเป็นเพราะว่ามันผ่านมานานแล้ว เรื่องในอดีตมันไม่มีความสำคัญแล้วจริงๆ

เซี่ยซีเองก็ไม่อยากพูดคุยเรื่องในอดีต เธอเพียงเอ่ย "คืนนี้ย่าบอกให้แกกลับไปกินข้าวที่บ้าน อย่าลืมล่ะ"

เฉินลู่ได้ยินแต่กลับไม่ตอบ เขาเดินตรงออกไปจากลิฟต์

คำพูดของคุณย่าเฉิน เฉินลู่ย่อมรับฟัง วันศุกร์เขาจะต้องหาเวลากลับบ้านอยู่แล้ว

เฉินเจ๋อชูไม่อยู่ เผชิญหน้าเพียงเซี่ยซี เฉินลู่ไม่ค่อยพูดอะไรเท่าไรนัก เมื่อกินข้าวเสร็จเขาก็ไปนั่งบนโซฟาเพียงลำพัง

ชิงช้านอกคฤหาสน์แกว่งไปมาเบาๆตามสายลม เฉินลู่พลักนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ในครั้งที่สวีซุ่ยหนิงมาที่บ้านตระกูลเฉินเป็นครั้งแรก เธอนั่งลงบนชิงช้าตัวนั้นพลางแสดงท่าทีทอดถอนหายใจ

สวีซุ่ยหนิงในตอนนั้นเธอนุ่มนวลและเป็นเด็กดีมีไหวพริบ

คุณย่าเฉินขมวดคิ้วและเอ่ย "จะกลับแล้วเหรอ?"

"ครับ วันหลังค่อยมาเยี่ยมใหม่นะครับ"

ที่ตั้งของคฤหาสน์ค่อนข้างเป็นเนิน เพื่อความสะดวกเฉินลู่จึงจอดรถไว้ด้านนอก จากคฤหาสน์ก็ใช้เวลาเดินสักพักใหญ่ เมื่อถึงบริเวณหัวมุมถนน ฝีเท้าของเขาหยุดลง

เขาเงยหน้าขึ้น ในระยะไม่ไกลนักเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งยองๆอยู่ด้านหน้า กำลังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือ แสงหน้าจอโทรศัพท์กระทบใบหน้าของเธอ จากโครงร่างเห็นได้เพียงเงา

ราวกับว่าเธอคนนั้นคือสวีซุ่ยหนิง

เฉินลู่ไม่ได้ตั้งใจจะสนใจเธอ ดังนั้นเขาจึงเดินผ่านเธอไป

แต่ทว่าเมื่อคนคนนั้นกลับไม่ได้ไล่ตามหลังมา เฉินลู่จึงหันกลับไปมอง จากนั้นพบว่าใช่สวีซุ่ยหนิงที่ไหนกัน เมื่อมองหน้าแล้วเขาไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ

เขาพลันรู้สึกขบขัน จะเป็นสวีซุ่ยหนิงได้อย่างไร หล่อนเข้าใกล้เขาเพียงแค่จงใจยั่วโมโหโจวอี้ก็เท่านั้น

หากว่าไม่มีโจวอี้ ในตอนนี้เกรงว่าสวีซุ่ยหนิงอาจจะทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับลั่วจือเห้อไปเสียนานแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน