เฉินลู่ยืนนิ่งอยู่กับที่โดยไม่เคลื่อนไหว
แพทย์ฝึกหัดเอ่ยกับตัวเอง "แฟนของเขาน่าจะรำคาญเขา พวกเราฝึกงานอยู่ที่นี่มาเดือนหนึ่งแล้ว ไม่เห็นว่าแฟนของเขาจะมาหาเขาเลย ปกติแล้วก็ไม่เห็นจะโทรคุยกันทางโทรศัพท์ด้วย คู่รักปกติที่ไหนเป็นแบบนี้กัน"
ใบหน้ารูปไข่ที่หล่อเหลาของเฉินลู่สามารถดึงดูดผู้คนบางกลุ่มได้ แพทย์ฝึกหัดอีกคนมองไปทางเขาและเอ่ย "หมอเฉินเป็นเลิศขนาดนี้ หากเขาจีบเธอ เธอจะไม่ตอบตกลงไหมล่ะ?"
แพทย์ฝึกหัดคนนั้นเงียบ สีหน้าดูบูดบึ้งเล็กน้อย
"ฉันกลับคิดว่าเป็นหมอเฉินที่ไม่สนใจแฟนของเขา เธอดูเขาและคนในแผนกผู้ป่วยในคนนั้นสิ เหมือนมีกระแสใต้น้ำที่ไม่อาจบรรยายได้ ครั้งก่อนที่เขาโพสต์เว่ยป๋อ มองแวบแรกก็รู้แล้วว่าลายมือของแฟนเขา ประกาศตัวก็มา ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้หมอเฉินก็ไม่เคยแสดงท่าทีอะไรหรอกหรือไง แฟนสาวของเขาหาเรื่องก่อกวนเลยต้องโพสต์ยังไงล่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นแฟนสาวของเขาดันทุรังสินะ ท้ายที่สุดแล้วใครไม่สนใจใครก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถระบุได้เลย"
ที่ไหนมีคน ที่นั่นยอมมีการซุบซิบนินทา
ทีมผู้ช่วยหมอเฉินและทีมสวีซุ่ยหนิงต่างก็ถกเถียงกันอย่างถึงพริกถึงขิง
เฉินลู่เดินไปยังแผนกผู้ป่วยในด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ทันทีที่เข้าไปในลิฟต์ เขาก็เห็นเซี่ยซี
เซี่ยซีจ้องมองเขาราวกับกำลังครุ่นคิดบางอย่าง จากนั้นหล่อนละสายตาไปและยักไหล่พร้อมกับเอ่ย "นิสัยของแก หากว่าไม่ชอบก็คือไม่ชอบจริงๆสินะ"
น้ำเสียงของเฉินลู่นิ่งเรียบเป็นอย่างมาก "นิสัยไม่ใช่สิ่งที่จะต้องทำให้ใครคนอื่นมาพอใจนี่ครับ อีกอย่าง ตอนผมเด็กก็ไม่ได้มีใครมาสั่งสอนผม"
รอยยิ้มของเซี่ยซีแข็งทื่ออยู่ชั่วขณะ เธอเอ่ยราวกับเป็นทองไม่รู้ร้อน "ดังนั้นแกกำลังจะกล่าวโทษที่ก่อนหน้านี้ฉันไม่สนใจแกใช่ไหม?"
“ก่อนหน้านี้จะเป็นยังไง สำหรับผมมันไม่ได้มีความสำคัญเลยสักนิด”
ใบหน้าของเฉินลู่เรียบเฉยมาก บางทีอาจเป็นเพราะว่ามันผ่านมานานแล้ว เรื่องในอดีตมันไม่มีความสำคัญแล้วจริงๆ
เซี่ยซีเองก็ไม่อยากพูดคุยเรื่องในอดีต เธอเพียงเอ่ย "คืนนี้ย่าบอกให้แกกลับไปกินข้าวที่บ้าน อย่าลืมล่ะ"
เฉินลู่ได้ยินแต่กลับไม่ตอบ เขาเดินตรงออกไปจากลิฟต์
คำพูดของคุณย่าเฉิน เฉินลู่ย่อมรับฟัง วันศุกร์เขาจะต้องหาเวลากลับบ้านอยู่แล้ว
เฉินเจ๋อชูไม่อยู่ เผชิญหน้าเพียงเซี่ยซี เฉินลู่ไม่ค่อยพูดอะไรเท่าไรนัก เมื่อกินข้าวเสร็จเขาก็ไปนั่งบนโซฟาเพียงลำพัง
ชิงช้านอกคฤหาสน์แกว่งไปมาเบาๆตามสายลม เฉินลู่พลักนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ในครั้งที่สวีซุ่ยหนิงมาที่บ้านตระกูลเฉินเป็นครั้งแรก เธอนั่งลงบนชิงช้าตัวนั้นพลางแสดงท่าทีทอดถอนหายใจ
สวีซุ่ยหนิงในตอนนั้นเธอนุ่มนวลและเป็นเด็กดีมีไหวพริบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...