ตอนนั้น ที่เฉินลู่บอกเธอออกมาตรงๆ ว่า เขาไม่ได้ชอบผู้หญิงแบบเธอ เธอก็ไม่เคยคิดแบบนั้นอีกเลย
ประมาณตน ตอนเด็ก สวีซุ่ยหนิงยังไม่รู้จักคำนี้ ก่อนที่เธอจะเรียนมหาวิทยาลัย เธอแอบหลงตัวเองอยู่พอสมควร คิดว่าใครๆ ก็ชอบเธอ แต่แปลก พอเข้ามหาวิทยาลัย ออกมาจากบ้านเกิดที่เคยอยู่ เธอกลับเข้าใจคำนี้ได้ดีกว่าใคร
หลังจากนั้น สวีซุ่ยหนิงกับเฉินลู่ก็แทบจะไม่ยุ่งกันอีก
มีแค่ครั้งเดียว ก็คือวันที่เฉินลู่เรียนจบ งานปาร์ตี้เย็นวันนั้น เธอได้สบตากับเขาที่นั่งอยู่ด้านล่างเวที
ตอนนั้นสวีซุ่ยหนิงโดนลากไปร่วมการแสดงร้องเพลงพอดี เธอไปช่วยเป็นนักเต้นประกอบเพลง
อย่างที่เห็น ผู้หญิงที่หน้าอกใหญ่ เวลาเต้นมีแต่จะสร้างความยุ่งยากใจ
สวีซุ่ยหนิงไม่เพียงแค่เหนื่อย แต่หลังจากนั้นยังโดนเด็กที่เข้ามาใหม่เรียกว่าสาวเซ็กซี่ ส่วนมากก็พวกเด็กที่เพิ่งจะเรียนจบมัธยมมา เลยยังไม่เคยเห็นความเซ็กซี่ของจริง ถึงได้เข้าใจผิดว่าเธอนั้นเซ็กซี่
แน่นอน นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
กลับไปงานเลี้ยงเย็นวันนั้น เทียบสวีซุ่ยหนิงกับคนอื่น เธอนั้นได้รับความสนใจมากทีเดียว
ตอนที่เธอเหนื่อยจนหายใจหอบ สายตาของเธอก็มองลงไปด้านล่างเวที ก็เจอเข้ากับสายตาลุ่มลึกสีเข้มของเฉินลู่กำลังจ้องเธออยู่ ที่จริงตอนนั้นเธอรู้สึกว่าสายตาของเขาดูผิดจากปกติไปบ้าง จะว่ายังไงดี แววตาของเขาไม่ได้ส่อแววเรื่องอย่างว่า แต่มันดูเย็นชา เหมือนกำลังแสดงออกว่าเธอเต้นออกมาได้ยั่วยวน
มันทำให้เธอไม่เป็นตัวเองอย่างมาก
แต่ว่าเธอก็แค่บังเอิญเห็นมัน แป๊บเดียวเธอก็มองอย่างอื่นแทน
สวีซุ่ยหนิงรู้จักประมาณตน แน่นอนจึงไม่ได้คิดว่าเฉินลู่นั้นมีเวลาว่างมานั่งจ้องเธอ
สวีซุ่ยหนิงค่อยๆ พาตัวเองออกมาจากความทรงจำ: "ความชอบของคนเรา เปลี่ยนแปลงไปเสมอ ตอนยังเป็นวัยรุ่นคิดว่านายหล่อจริงๆ แต่นายก็ไม่ได้ชอบฉัน เรื่องแบบนี้มีอะไรให้คิดมากกัน ก่อนหน้านี้นายเองก็ไม่สนใจฉัน หลายปีหลังจากนั้นก็สนใจร่างกายของฉันไม่ใช่เหรอ"
เฉินลู่นวดหัวคิ้วตัวเอง เขาไม่พูดอะไร
สวีซุ่ยหนิงเอ่ย: "นายลองอ่านหลักฐานพวกนี้ของฉันดูก่อน ตอนนั้นโจวอี้บอกว่าเธอไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน แต่ว่านายลองดูประวัติการสนทนานี่ เห็นๆ อยู่ว่าเธอรู้ ฉันพูดจบแล้ว จะเชื่อไม่เชื่อแล้วแต่นาย"
เฉินลู่มองเธอ ในที่สุดเขาก็ยอมหันหน้ามามองเธอเต็มตา: "อย่างนั้นที่เธอพูดว่าอยากเลิกกับฉัน แต่เลิกได้ไม่ขาดเสียที มันหมายความว่ายังไง?"
สวีซุ่ยหนิงชะงักไปแป๊บหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า: "หมายความว่าอยากเลิกไง"
เธอเงียบไป วินาทีถัดไปก็เอ่ยต่อ "ไม่มีทางชอบลั่วจือเห้อคือเรื่องจริง อยากเลิกก็เรื่องจริงเหมือนกัน ฉันว่าฉันทนคบกับนายต่อไปไม่ไหวแล้ว ที่ฉันบอกว่าอยากเลิก ฉันไม่ได้พูดเล่น"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...