เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 16

สำหรับข่าวเฉินลู่และโจวอี้คืนดีกัน ภายในใจของสวีซุ่ยหนิงรู้สึกไม่ค่อยมีความสุขเท่าไรนัก

เธอค่อนข้างกลัวว่าเฉินลู่จะให้ความสนใจเพียงผู้หญิงคนนั้น ส่วนเรื่องที่เคยรับปากกับเธอไว้ว่าจะช่วยเธอจัดการเจียงเจ๋อคงถูกลืม

สวีซุ่ยหนิงครุ่นคิด แม้ว่าเจียงเจ๋อจะมีผู้หนุนหลัง แต่ถ้ามีหลักฐานการทำผิดกฎหมายเพียงพอ ครอบครัวของเขาก็ไม่อาจช่วยเขาได้ ดังนั้นตอนนี้เธอคิดว่าจะรวบรวมหลักฐานการกระทำที่ผิดศีลธรรมทั้งหมดของเขาได้อย่างไร

เธอต้องการพึ่งพิงอิทธิพลของเฉินลู่ นั่นเป็นเพียงสิ่งเดียว ชี้ทางสว่างให้แก่เธอแล้วเรื่องหลังจากนั้นเธอจะทำด้วยตัวเธอเอง

การที่จางอวี้มาพูดคุยกับสวีซุ่ยหนิงในครานี้ เธอเองก็ไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วพวกเขาคืนดีกันหรือไม่ จางอวี้และเฉินลู่นั้นไม่ได้สนิทสนมกันถึงขั้นนั้น

สวีซุ่ยหนิงบังเอิญถามออกไปครั้งหนึ่งโดยไม่ตั้งใจขณะที่นัดทานข้าวกับเธอ

จางอวี้เอ่ย "เธอไม่ต้องพูดแต่คำว่าเฉินลู่ เฉินลู่แล้ว โจวอี้น่ะก่อนหน้านี้เธอเป็นผู้หญิงไม่ยอมคน หากว่าเธอรู้เรื่องระหว่างเธอและเฉินลู่เข้า คาดว่าเธอคงลำบากแน่"

ไม่รู้ว่าอะไรจะบังเอิญขนาดนั้น ทั้งสองคนเพิ่งเอ่ยถึงเฉินลู่ ในระหว่างที่กำลังช็อปปิ้งก็เผอิญเจอกับเขา

เขามากับโจวอี้ ทั้งสองเดินกุมมือกัน กำลังช็อปปิ้งในร้านสุดหรู ในมือของเฉินลู่ถือถุงใบเล็กใบน้อยไว้นับไม่ถ้วน

สวีซุ่ยหนิงคิดว่ากระเป๋าเงินแพทย์ของเฉินลู่นั้นไม่อาจใช้จ่ายของสุดหรูฟุ่มเฟือยแบบนี้ได้ คาดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นผู้ริเริ่มซื้อของให้แก่ผู้อื่น

"นายว่ารองเท้าส้นสูงสองคู่นี้ คู่ไหนสวยกว่ากัน?"

เฉินลู่ไม่ได้มีท่าเพิกเฉย เขามองมันอย่างจริงจัง สุดท้ายเขาก็เลือกสีดำให้แก่เธอ "เหมาะกับเธอ"

"น่าเสียดาย ฉันอยากได้ทั้งสอง ไปจ่ายเงินเถอะหมอเฉิน" เสียงที่เธอร้องเรียกหมอเฉินนั้นบางเบามาก ทว่ากลับเซ็กซี่จนต้องร้องขอชีวิต ความเซ็กซี่ที่เยือกเย็น

เฉินลู่จ่ายเงินโดยไม่กะพริบตาเลยแม้แต่น้อย

เมื่อเขาชำระเงินเสร็จเรียบร้อย เขาชำเลืองมองด้านนอกด้วยท่าทีเหม่อลอย สายตาของเขาสบสายตาเข้ากับสวีซุ่ยหนิง

เฉินลู่หยุดชะงักเล็กน้อย

สวีซุ่ยหนิงกำลังหลับตาลงจากนั้นจางอวี้ก็ลากเธอไป

"เฉินลู่รวยมาก โจวอี้ใช้จ่ายในค่ำคืนนี้ก็น่าจะประมาณหกแสนหยวนได้แล้ว แค่กระเป๋านั้นก็สามแสนแล้ว" จางอวี้รู้สึกริษยาตาร้อน

สวีซุ่ยหนิงไม่พูดอะไร จากนั้นเธอถูกลากเข้าไปในร้านเครื่องสำอาง

สวีซุ่ยหนิงมีความชอบอีกอย่างหนึ่งก็คือการสะสมลิปสติก เธอนั้นเป็นคนที่เก่งกาจมาก ไม่ว่าจะสีอะไรเธอก็เอาอยู่

ในขณะที่เธอกำลังลองสีลิปสติก เธอเห็นโจวอี้และเฉินลู่กำลังเดินเข้ามาผ่านกระจก

"จางอวี้?" โจวอี้ตะโกนเรียก

"พี่โจวอี้ บังเอิญจัง" จางอวี้ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทักทาย เธอดึงสวีซุ่ยหนิงมาด้านหน้าและกล่าว "นี่คือเพื่อนของฉัน"

โจวอี้ชำเลืองมองสวีซุ่ยหนิงจากมุมหางตา จากนั้นมองเฉินลู่ "เพื่อนของจางอวี้คนนี้หน้าตาดีเกินไปแล้ว ใช่ไม่?"

เฉินลู่ไม่มองสวีซุ่ยหนิงเลยแม้แต่น้อย จากนั้นเอ่ยแสดงความเห็นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "ฉันชมคนอื่น เธอรับได้เหรอ?"

โจวอี้ยิ้ม "ไม่ได้หรอก"

สวีซุ่ยหนิงนิ่งเงียบ เมื่อเฉินลู่อยู่ต่อหน้าคนคนนี้ เขาดูเชื่อฟังภรรยาเป็นอย่างมาก

"แต่ทว่า ฉันรู้สึกว่าเธอสวยใช้ได้ มีแฟนหรือยัง?" โจวอี้เริ่มมองมาที่เธอ "ฉันมีเพื่อนสายเปย์อยู่สองสามคน ทุกคนโสด"

"ฉันเพิ่งเลิกกับแฟน ยังไม่คิดจะหาใหม่"

ขณะนั้นระยะของสวีซุ่ยหนิงเข้าใกล้ยิ่งขึ้น ฉับพลันเธอเห็นรอยสักบนแขนของเธอ คล้ายกับนกอินทรีบริเวณเอวของเฉินลู่ แต่ทว่าดูอ่อนแอและน่าปกป้อง

ดูดีมาก

เฉินลู่ทั้งเหี้ยมโหดและดุร้ายเป็นอย่างมาก

สวีซุ่ยหนิงเคยเจอหลายครั้ง มักรู้สึกว่าเฉินลู่เป็นผู้ที่มีการศึกษาและรับบทบาทเป็นคนโหดเหี้ยม

เมื่อมองเพียงแวบเดียวก็รู้ได้ว่านี่คือรอยสักของคู่รัก

ผ่านไปครู่หนึ่ง โจวอี้เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ "ไปเลือกซื้อเครื่องสำอางเถอะ ฉันให้พวกเธอ ผู้ชายของฉันจะจ่ายเงินให้เอง"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน