สวีซุ่ยหนิงพยักหน้าอย่างเข้าใจ “จริงค่ะ”
ซูหว่านจิ้งพูดแบบตั้งใจทั้งไม่ตั้งใจว่า “คุณเป็นฝ่ายรุกเข้าหาเฉินลู่ก่อน แต่เขาปฏิบัติกับคุณแบบทั่วไป หากวันหนึ่งคุณไม่สนใจเขา เขาจะเป็นฝ่ายรุกเข้าหาคุณกลับไหม?”
สวีซุ่ยหนิงคิดในใจว่าเฉินลู่ยังคงแตกต่างออกไป
สิ่งที่เฉินลู่ชอบมากที่สุดคือการเชื่อฟังเขา การที่เฉินลู่เป็นฝ่ายรุกเข้าหามีความหมายแฝงของการกดขี่ข่มเหง
เมื่อนึกถึงเฉินลู่สวีซุ่ยหนิงก็รู้สึกเบื่อเซ็งเล็กน้อย เธอคิดว่าเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับพ่อแม่ควรจะปล่อยผ่านไปได้แล้ว แต่ไม่คิดว่าเขาจะยังเก็บเรื่องเก่าๆ มาพูดอีก
ซูหว่านจิ้งแค่เปรียบเทียบกฎแรงดึงดูดระหว่างชายและหญิงเท่านั้น เธอไม่คิดว่าเฉินลู่เป็นคนประเภทเดียวกันกับผู้ช่วยของเธอ
หลังจากที่สวีซุ่ยหนิงลงจากรถ เธอพบว่าสถานที่ที่ซูหว่านจิ้งพาเธอมาคือวิลล่าที่ใช้จัดงานแต่งงาน เธอกำลังนึกถึงเซียวหร่านก็เห็นเขานั่งสูบบุหรี่อยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นพอดี มองออกไปนอกประตูอย่างไร้อารมณ์
เมื่อซูหว่านจิ้งพาเธอเข้ามา เซียวหร่านก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มแบบขี้เกียจ "แขกที่นานๆ จะมา"
ซูหว่านจิ้งไม่สนใจเขา เดินตรงขึ้นไปที่ชั้นสองพร้อมกับสวีซุ่ยหนิง จากนั้นก็ได้เลือกห้องพักให้เธอ
สวีซุ่ยหนิงพูดอย่างอ่อนไหว “คุณพาฉันมาด้วย เพราะคุณไม่ต้องการเจอหน้าเซียวหร่านเพียงลำพังใช่ไหม?”
"อืม"
เมื่อเห็นว่าซูหว่านจิ้งดูไม่อยากจะพูดอะไรมากกว่านี้ สวีซุ่ยหนิงจึงไม่ถามอะไรอีก ซูหว่านจิ้งรีบตรงไปที่ห้องของตัวเอง ส่วนสวีซุ่ยหนิงได้รับข้อความจากเซียวหร่าน: ลงมาคุยกันแป๊บหนึ่งสิ
เมื่อสวีซุ่ยหนิงลงไปถึงชั้นล่างเซียวหร่านได้รินน้ำชาไว้รอเธอแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาคุ้นเคยกับวิลล่ามากกว่าซูหว่านจิ้งเสียอีก
“เธอพาคุณกลับมาด้วยจริงๆ” เซียวหร่านมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า “เธอเกลียดโจวอี้ และคุณก็เกลียดโจวอี้เหมือนกัน พวกคุณช่างเป็นเพื่อนกันได้จริงๆ”
“ที่เธอเกลียดโจวอี้ก็เพราะคุณยังไงล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...