สรุปตอน บทที่ 164 – จากเรื่อง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น
ตอน บทที่ 164 ของนิยายการโต้แย้งเรื่องดัง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดยนักเขียน จิ่นอวิ๋น เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เฉินลู่ลุกขึ้นยืน แล้วขยำทิชชูในมือให้เป็นก้อนกลม จากนั้นก็โยนมันลงถังขยะ
สวีซุ่ยหนิงทนต่อไปไม่ไหวจริงๆ เดิมทีปัญหานี้เฉินลู่ก็ปฏิบัติกับเธอไม่ดีนัก แต่เขาก็ยังคิดว่าเธอนั้นตั้งใจจะปั่นหัวเขา เรื่องที่เธอน้อยใจแต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกไว้ ทำได้แค่ปลอบใจตัวเอง เธอรับความรู้สึกแบบนั้นไม่ไหวอีกแล้ว
ดังนั้นคำพูดที่เอ่ยออกไป จึงฟังดูแรง
ต่อให้เธอจะแบ่งแยกได้อย่างชัดเจนว่า เฉินลู่ไม่พอใจเพราะเรื่องแหวนที่เธอทำให้เจียงเจ๋อ ตั้งใจจะชวนเธอทะเลาะ เธอก็ยังพูดถึงปัญหาที่แท้จริงที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเธออยู่ดี
มันหลุดออกมาเอง และดูเหมือนว่าเธอจะเก็บเอาไว้นานแล้ว
ทั้งความเคยชินในการใช้ชีวิตของพวกเธอทั้งสองคน ทั้งวิธีการพูด ไม่เหมาะที่จะคบกันโดยแท้จริง
ที่จริงถ้าให้ลองพูดจากอีกมุมหนึ่ง การที่สวีซุ่ยหนิงเอ่ยอะไรแบบนี้ออกมา ไม่ได้ทำเพื่อลองใจเท่านั้น ถ้าหากเฉินลู่ตั้งใจจะไม่ปล่อยเธอไป อย่างนั้นเธอก็คงหนีเขาไปไม่พ้น ดังนั้นเธอก็เลยลอง เพื่อดูว่าเขาจะเปลี่ยนความตั้งใจหรือเปล่า
เฉินลู่เอ่ยเสียงเย็น: “ฉันว่าเธอคงอยากจะให้ฉันบอกกับพ่อเธอ ว่าที่ฉันยอมช่วยก็เพราะเธอเอาตัวเข้าแลก”
“ถ้านายจะพูดออกไปจริงๆ ฉันจะห้ามนายได้เหรอ?” สวีซุ่ยหนิงเช็ดน้ำตาที่หางตา “นายคิดว่าฉันพูดจาแรง แล้วนายล่ะ ฉันนึกไม่ออกเลยว่ามีครั้งไหนบ้างที่นายไม่ใช้วิธีแบบนี้บังคับฉัน?”
เฉินลู่เอ่ย: “ถ้าเธอไม่ได้ทำไปเพราะความโลภ อย่างนั้นฉันจะเอามันมาขู่เธอได้ยังไง?”
สวีซุ่ยหนิงรู้ ถ้าเฉินลู่ต้องการเอาชนะเธอ เขามีเป็นหมื่นวิธีที่จะทำให้เธอเถียงไม่ได้
เธอไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับเขาต่อ เธอจินตนาการสิ่งที่จะเกิดถ้าหากพ่อสวีรู้เรื่องนี้เข้า อาจจะทรุดลงไปนั่ง ร้องไห้จนน้ำตาท่วม
เฉินลู่หันไปมองทางอื่นเมื่อน้ำตาหยดแรงของเธอไหลออกมา แววตาของเขาไหวระริก หลังจากนั้นก็นิ่งไป
บรรยากาศกดดันเสียจนแม้แต่สวีซุ่ยหนิงยังไม่กล้าส่งเสียงร้องไห้ออกมา
จนกระทั่งด้านหลังมีเสียงของแม่สวีดังขึ้น: “อาลู่ หนิงหนิง นี่พวกลูกทะเลาะอะไรกัน?”
สวีซุ่ยหนิงไม่ตอบ
“ครั้งก่อนที่บ้านคุณย่า เขาก็ทำตัวไม่ดีใส่พวกญาติๆ แม่นึกว่าเขาก็แค่หงุดหงิดเพราะอากาศร้อน เลยไม่ชิน วันนี้ตอนเขาเพิ่งมา เห็นว่าเขาดูเกรงอกเกรงใจดีอยู่ แม่ยังแอบกลัวว่าครอบครัวเขารวยแล้วอาจจะดูถูกพวกเรา กลัวว่าเขาจะเสียเปรียบ แต่ว่าเขาในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ทำไมถึงได้เอาอารมณ์มาลงที่ลูกล่ะ?”
แม่สวีคือคนที่รักสวีซุ่ยหนิงมากที่สุดบนโลกใบนี้แล้ว รักมากกว่าที่สวีซุ่ยหนิงรักตัวเองอีก พูดไปๆ เสียงของแม่สวีก็สั่นเครือ
“แม่ ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องหนูกับเขาขอให้พวกเราคุยกันเองนะคะ แม่ไม่ต้องคิดมาก” สวีซุ่ยหนิงเอ่ย
แม่สวียิ่งเป็นห่วงสวีซุ่ยหนิงมากขึ้นไปอีก: “หนิงหนิง ลูกโดนพ่อแม่เอาใจมาตั้งแต่เด็ก แค่แม่คิดว่าลูกต้องเสียใจเพราะคนอื่น แค่นี้แม่ก็รับไม่ได้แล้ว นี่ลูกยังไม่ทันแต่งงานกันนะ ถ้าแต่งงานกันไปแล้วเขาจะยิ่งไม่เกรงใจลูกมากกว่านี้อีกหรือเปล่า?”
สวีซุ่ยหนิงปลอบใจเธออยู่ครู่ใหญ่
ตอนนี้แม่สวีนั้นจะหันไปทางไหนก็ลำบากใจ การกระทำของเฉินลู่ ทำให้คนเป็นแม่แบบเธอเสียใจมากจริงๆ
ตอนแรกที่เฉินลู่มาเยี่ยมเธอ เพื่อนบ้านยังชมเขาอยู่เลยว่าเอาใจใส่ เธอดีใจมาก ไม่นึกเลยว่านั่นมันก็แค่ผิวเผิน หากต้องแลกมาด้วยความสุขของลูกสาว ลูกสาวเธอต้องเสียใจ เธอยินดีที่จะไม่รับคำชมพวกนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...