เฉินลู่ลุกขึ้นยืน แล้วขยำทิชชูในมือให้เป็นก้อนกลม จากนั้นก็โยนมันลงถังขยะ
สวีซุ่ยหนิงทนต่อไปไม่ไหวจริงๆ เดิมทีปัญหานี้เฉินลู่ก็ปฏิบัติกับเธอไม่ดีนัก แต่เขาก็ยังคิดว่าเธอนั้นตั้งใจจะปั่นหัวเขา เรื่องที่เธอน้อยใจแต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกไว้ ทำได้แค่ปลอบใจตัวเอง เธอรับความรู้สึกแบบนั้นไม่ไหวอีกแล้ว
ดังนั้นคำพูดที่เอ่ยออกไป จึงฟังดูแรง
ต่อให้เธอจะแบ่งแยกได้อย่างชัดเจนว่า เฉินลู่ไม่พอใจเพราะเรื่องแหวนที่เธอทำให้เจียงเจ๋อ ตั้งใจจะชวนเธอทะเลาะ เธอก็ยังพูดถึงปัญหาที่แท้จริงที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเธออยู่ดี
มันหลุดออกมาเอง และดูเหมือนว่าเธอจะเก็บเอาไว้นานแล้ว
ทั้งความเคยชินในการใช้ชีวิตของพวกเธอทั้งสองคน ทั้งวิธีการพูด ไม่เหมาะที่จะคบกันโดยแท้จริง
ที่จริงถ้าให้ลองพูดจากอีกมุมหนึ่ง การที่สวีซุ่ยหนิงเอ่ยอะไรแบบนี้ออกมา ไม่ได้ทำเพื่อลองใจเท่านั้น ถ้าหากเฉินลู่ตั้งใจจะไม่ปล่อยเธอไป อย่างนั้นเธอก็คงหนีเขาไปไม่พ้น ดังนั้นเธอก็เลยลอง เพื่อดูว่าเขาจะเปลี่ยนความตั้งใจหรือเปล่า
เฉินลู่เอ่ยเสียงเย็น: “ฉันว่าเธอคงอยากจะให้ฉันบอกกับพ่อเธอ ว่าที่ฉันยอมช่วยก็เพราะเธอเอาตัวเข้าแลก”
“ถ้านายจะพูดออกไปจริงๆ ฉันจะห้ามนายได้เหรอ?” สวีซุ่ยหนิงเช็ดน้ำตาที่หางตา “นายคิดว่าฉันพูดจาแรง แล้วนายล่ะ ฉันนึกไม่ออกเลยว่ามีครั้งไหนบ้างที่นายไม่ใช้วิธีแบบนี้บังคับฉัน?”
เฉินลู่เอ่ย: “ถ้าเธอไม่ได้ทำไปเพราะความโลภ อย่างนั้นฉันจะเอามันมาขู่เธอได้ยังไง?”
สวีซุ่ยหนิงรู้ ถ้าเฉินลู่ต้องการเอาชนะเธอ เขามีเป็นหมื่นวิธีที่จะทำให้เธอเถียงไม่ได้
เธอไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับเขาต่อ เธอจินตนาการสิ่งที่จะเกิดถ้าหากพ่อสวีรู้เรื่องนี้เข้า อาจจะทรุดลงไปนั่ง ร้องไห้จนน้ำตาท่วม
เฉินลู่หันไปมองทางอื่นเมื่อน้ำตาหยดแรงของเธอไหลออกมา แววตาของเขาไหวระริก หลังจากนั้นก็นิ่งไป
บรรยากาศกดดันเสียจนแม้แต่สวีซุ่ยหนิงยังไม่กล้าส่งเสียงร้องไห้ออกมา
จนกระทั่งด้านหลังมีเสียงของแม่สวีดังขึ้น: “อาลู่ หนิงหนิง นี่พวกลูกทะเลาะอะไรกัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...