ปฏิกิริยาแรกที่ลั่วจือเห้อได้เห็นสวีซุ่ยหนิงคือ อยากจะหลบ
เหมือนทำเรื่องไม่ดีแล้วถูกอาจารย์ประจำชั้นจับได้อย่างไรอย่างนั้น
แต่เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเขาไม่มีเหตุผลที่จะหลบ จึงได้ยิ้มไปทางสวีซุ่ยหนิง
หลังจากนั้นเขาโบกมือให้สวีซุ่ยหนิง และเชิญเธอเข้ามานั่งลง
แต่สวีซุ่ยหนิงจะรบกวนการแต่งงานของคนอื่นได้อย่างไรกันล่ะ จึงได้ยิ้มให้ลั่วจือเห้ออย่างล้อกันเล่น และรีบออกไปอย่างรวดเร็ว
ลั่วจือเห้อมองดูรอยยิ้มของสวีซุ่ยหนิง รู้สึกแค่ว่ามันแสบตาเล็กน้อย โดยปกติเมื่อเธอยิ้มให้เขา เขาจะรู้สึกพอใจ และมีเพียงครั้งนี้เท่านั้น ที่ทำให้เขารู้สึกต่อต้านเล็กน้อย
แน่นอนว่าผู้หญิงคนนั้นก็เห็นเช่นกัน แต่เธอสามารถแยกได้ว่า ความหมายของสวีซุ่ยหนิงคือการอวยพร กล่าวอีกนัยหนึ่ง ไม่ใช่คู่ต่อสู้ในความรัก เธอจึงยิ้ม และพูดว่า "นั่นเพื่อนคุณใช่ไหม?"
ลั่วจือเห้อเอ่ย "อืม" ออกมาโดยไม่ตั้งใจ
“บังเอิญจริง ทำไมบังเอิญเจอเพื่อนของคุณล่ะ” หญิงสาวยิ้ม
ไม่นานนัก ลั่วจือเห้อได้บอกว่าตัวเองมีธุระบางอย่าง แล้วให้เธอกลับเอง
ผู้หญิงคนนั้นจึงได้ขับรถกลับเอง
เมื่อลั่วจือเห้อกลับไปหาสวีซุ่ยหนิง ได้พบว่าเธอกำลังเล่นเกมยิงลูกโป่งอยู่ที่ริมถนน
“เธอยังไม่กลับไปบริษัทอีกเหรอ?” ลั่วจือเห้อก้าวไปข้างหน้าจนถึงข้างๆ เธอ
“ยัง ฉันจะไปพรุ่งนี้” สวีซุ่ยหนิงมองกลับมาที่เขาด้วยรอยยิ้ม “ทั้งที่มาที่นี่เพื่อนัดบอด ทำไมยังต้องพูดมาทำงานนอกสถานที่ล่ะ นายไม่จำเป็นต้องปิดบังฉันเหรอนะ?”
น้ำเสียงลั่วจือเห้อเบาลง "ฉันคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้เธอรู้ และไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรด้วย"
“นี่ไม่สำคัญได้ยังไงล่ะ ลั่วจือเห้อ เรื่องนี้มันเกี่ยวกับความสุขของนาย อย่างไรมันก็สำคัญกว่างานไหม?” สวีซุ่ยหนิงดูมีความสุขมากกว่าเขา “ผู้หญิงคนนั้นดูมีลักษณะที่พิเศษนะ ผู้ชายรวยๆ ช่างมีความสุขจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...