สรุปเนื้อหา บทที่ 195 – เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น
บท บทที่ 195 ของ เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ในหมวดนิยายการโต้แย้ง เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จิ่นอวิ๋น อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
สวีซุ่ยหนิงคาดไม่ถึงว่าวันหนึ่งเธอจะได้รับข้อความชวนไปดื่มเหล้าจากซูหว่านจิ้ง
ในความคิดของเธอซูหว่านจิ้งน่าจะเป็นผู้หญิงที่อุทิศตนให้กับธุรกิจและจะไม่สูญเสียตัวตนของการผู้หญิงเก่ง นอกจากเรื่องงานแล้ว การดื่มเหล้าเพื่อความสนุกดูเหมือนไม่ใช่สไตล์ของเธอ
ตอนนี้สวีซุ่ยหนิงกำลังจะเริ่มต้นบริหารบริษัท ในอนาคตเธออาจจะต้องเรียนรู้บางสิ่งจากซูหว่านจิ้ง การไปสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับซูหว่านจิ้งก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร
ดังนั้นสวีซุ่ยหนิงจึงเดินทางไปตามนัด
เมื่อสวีซุ่ยหนิงไปถึงที่นัดหมายซูหว่านจิ้งได้นั่งดื่มคนเดียวเงียบๆ อยู่มุมหนึ่งแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะชื่อเสียงของเธอหรือเปล่า เลยไม่มีใครกล้าเข้าไปคุยกับเธอ
เมื่อสวีซุ่ยหนิงเดินเข้าไปจึงได้รู้ว่าเธอดื่มไปมากแล้ว แต่เธอไม่ได้หน้าแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ดังนั้นเธอจึงดูเหมือนคนปกติทั่วไป
“คุณนี่คอแข็งใช้ได้เลยนะคะ” สวีซุ่ยหนิงพูดยกย่องและมองดูขวดเหล้าที่อยู่ตรงหน้า
ซูหว่านจิ้งเหลือบมองสวีซุ่ยหนิง การดื่มมากเกินไปทำให้รู้สึกไม่สบายตัว เธอนวดที่ขมับไม่หยุดและพูดว่า "ฉันอารมณ์ไม่ดีค่ะ"
"เป็นเพราะอะไรคะ?"
ไม่ว่ายังไงเศรษฐินีก็ดูไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องทุกข์ใจ
น้ำเสียงของซูหว่านจิ้งไม่เปลี่ยน เพราะว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์เธอจึงพูดช้าลงไปบ้าง "เฉินเหลียน เขากลับมาแล้ว"
“คุณคงไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นทุกคนเชียร์พวกเราแค่ไหน ผู้ใหญ่ของทั้งสองตระกูลต่างก็ยอมรับเรื่องพวกเรา ถึงขนาดจับคู่ให้พวกเรา ทุกคนคิดว่าพวกเราเหมาะสมเหมือนกิ่งทองกับใบหยก เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้ไม่ชอบฉัน” ซูหว่านจิ้งยิ้มอย่างขมขื่น ก่อนจะพูดอีกประโยคว่า“เขาชอบโจวอี้”
สำหรับสวีซุ่ยหนิงนี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจมากจนอยากจะช็อก
“เพียงแต่ว่าโจวอี้คบกับเฉินลู่ ดังนั้นเขาทำได้เพียงห้ามใจตัวเอง สมน้ำหน้าเขาจริงๆ” สีหน้าของซูหว่านจิ้งมีความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก “และฉันก็สมน้ำหน้าตัวเองด้วยเช่นกัน หลังจากที่ฉันรู้ความลับของเฉินเหลียนฉันก็ไม่ได้คิดมากอะไร มักจะรู้สึกว่าฉันเป็นคนที่สามารถเปลี่ยนเขาได้”
เปลี่ยนแปลงผู้ชายเป็นเรื่องที่ยากมากถึงมากที่สุด
สวีซุ่ยหนิงก็เคยมีความคิดแบบนี้เหมือนกัน เมื่อก่อนเธอก็เคยให้เฉินลู่เปลี่ยนแปลงนิสัยที่ไม่ดี เธอจึงรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ยากมาก และพวกเขาทั้งสองเป็นคนของตระกูลเฉิน เธอคิดว่าเฉินเหลียนก็น่าจะพอๆ กัน
“เถ้าแกซู อยากดื่มแค่ไหนก็ดื่มไปเลยนะคะ เดี๋ยวฉันไปส่งคุณเอง”
ซูหว่านจิ้งพูดขึ้นว่า "ยังคิดว่าอยากจะทำให้โจวอี้อยู่ไม่เป็นสุขอยู่ไหม?"
“อยากสิคะ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้สมองคิดทำอะไรเธอหรอก เพราะแค่นี้เธอก็เจ็บปวดทรมานมากพอแล้วค่ะ หลังจากนี้เธอกับเฉินลู่ก็ไม่น่ามีอะไรที่เป็นไปได้แล้วค่ะ เธออาจจะพบจุดจบที่ต้องมองดูคนที่รักเคียงคู่กับคนอื่น”
ในชีวิตนี้ไม่มีอะไรเป็นของเธอเลย
ไม่กี่วันต่อมาสวีซุ่ยหนิงได้จดทะเบียนบริษัทด้วยเงินทุนจำนวนหนึ่งแสนหยวน
สวีซุ่ยหนิงวางแผนจะใช้วิธีการตลาดที่จัดลำดับความสำคัญ และจุดสำคัญของการตลาดจะมุ่งเน้นไปที่ความรู้สึกในการใช้ผลิตภัณฑ์แล้วเห็นผลจริง มีการโปรโมตวิธีการส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น จัดอีเวนต์ โซเชียลมีเดีย และการเสิร์ชค้นหา กลยุทธ์ด้านราคาคือเอากำไรน้อย แต่เน้นยอดขายก่อนในตอนแรก และเริ่มแรกเธอจะใช้ "การลงทุนในแบรนด์เครื่องสำอางบางแบรนด์" ของซูหว่านจิ้งเพื่อสร้างแรงผลักดันหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือเกาะกระแสความนิยม
ในแง่ของช่องทางสวีซุ่ยหนิงมุ่งเน้นไปที่ช่องทางออนไลน์ ร้านใหญ่ของแบรนด์ และร้านตัวแทนจำหน่าย
ต้องบอกเลยว่าเมื่อเริ่มทำธุรกิจก็ต้องเข้าหาคน ทั้งพบตัวแทนจำหน่าย หาฝ่ายประชาสัมพันธ์และทีมการตลาด ทั้งหมดเธอต้องเข้าไปเจรจาพูดคุยด้วยตัวเอง
แต่ในส่วนของโฆษณาค่อนข้างสบายมาก เพราะสวีซุ่ยหนิงเคยทำงานในบริษัทโฆษณามาก่อนและยังพอมีคอนเนคชั่นอยู่บ้าง
แต่สิ่งที่สวีซุ่ยหนิงคาดไม่ถึงก็คือบริษัทสื่อที่เธอเข้าไปเจรจาพูดคุยด้วยเป็นเพื่อนสนิทของฟู่เล่อเล่อ
ในช่วงเริ่มเจรจาพูดคุยอีกฝ่ายทำให้เธอรู้สึกลำบากใจ แต่สวีซุ่ยหนิงก็ไม่ได้คิดมากอะไร คิดแค่ว่าอีกฝ่ายอาจต้องการผลประโยชน์มากกว่านี้ จนกระทั่งถึงเวลาที่เธอต้องเจอผู้มีความสามารถพิเศษ เธอได้เจอเข้ากับฟู่เล่อเล่อ ถึงตอนนี้เธอก็เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ปฏิกิริยาแรกของสวีซุ่ยหนิงเมื่อเจอฟู่เล่อเล่อก็คือต้องรีบออกไปจากที่นี่ แต่ฟู่เล่อเล่อกลับเข้ามาขวางเธอไว้ “เธอห้ามเฉินลู่ไม่ให้มาเจอฉันใช่ไหม?”
"ฉันอยากจะให้พวกคุณแต่งงานกันจนใจจะขาดอยู่ล่ะ" สวีซุ่ยหนิงถอนหายใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...