สุดท้ายซูหว่านจิ้งเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน "กลับไปเถอะ"
แต่เซียวหร่านกลับตะโกนเรียกคนขับรถแทน
ซูหว่านจิ้งเหลือบมองเขา ทั้งสองต่างดื่มจนเมา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ควรขับรถจริงๆ เธอเอนตัวนอนพลางหลับตาลง ในสมองของเธอเต็มไปด้วยภาพสายตาของเฉินเหลียนที่เห็นเธอจูบกับเซียวหร่านเมื่อครู่
ไม่รู้ว่าเธอเข้าใจผิดไปเองหรือเปล่า เขาในนาทีนั้นดูไม่ค่อยสงบเลย
“แฟนเก่าของคุณยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะ” เซียวหร่านแซว “ผู้ชายตระกูลเฉินรู้สึกอะไรกับคุณจริงๆสินะ ใช่ไหม?”
ซูหว่านจิ้งกล่าวเพียงว่า "สวีซุ่ยหนิงกำลังเริ่มต้นทำธุรกิจ ฉันเป็นคนลงทุน นายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ถ้ามีเวลาก็ไปช่วยเธอสิ"
เซียวหร่านตอบ "อืม มีอะไรอีกไหม?"
ซูหว่านจิ้งกล่าว "ช่วงนี้ฉันกลับไปไม่ได้ นายอย่าทำให้เสียเวลาเลย"
เซียวหร่านกล่าวต่อ “มีอะไรอีกไหม?”
ซูหว่านจิ้งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดเบา ๆ ว่า "ฉันจะไม่ทำให้เธอลำบากใจอีกต่อไป ฉันปล่อยนายไปก็ได้ถ้าหากนายต้องการ นายจะได้ไปอยู่กับเธอ"
รอยยิ้มของเซียวหร่านดูจริงใจ เขากล่าวว่า "ใจกว้างมากเลยนะครับ เถ้าแก่ซู"
เขาโน้มตัวไปข้างหน้าเธอและพูดทีเล่นทีจริง “เถ้าแก้ซู คุณลองคิดให้ดีก่อน คุณมีคนในใจ ผมเองก็มีแสงจันทร์ขาว[1]ของผม พวกเราดูเหมาะกันดีไม่ใช่เหรอครับ?”
ซูหว่านจิ้งพูดอย่างใจเย็น "ฉันผิดเองที่บีบบังคับให้พวกนายเลิกกัน พอมาคิดดูแล้ว มันเป็นกรรมของฉันเองที่ไม่ได้รับความรัก ฉันดื้อดึงเกินไปจนทำลายความสุขของนาย"
เซียวหร่านยิ้มและกล่าวว่า “ก็คุณเองไม่ใช่หรือไงที่ทำลายความสุขของผม”
ในที่สุดคนขับรถก็มาถึงในสิบนาทีต่อมา เซียวหร่านปลดเข็มขัดนิรภัย เงยหน้าขึ้นมองเธอ และพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ผมจะไสหัวไปให้พ้นสายตาเถ้าแก่ซู ถ้าผมได้แต่งงานกับแสงจันทร์ขาวของตัวเองแล้วละก็...ถึงเวลานั้นเชิญมาร่วมดื่มเหล้ามงคล[2]ด้วยนะครับ "
พูดจบเขาก็เดินออกไป
ซูหว่านจิ้งมองตามแผ่นหลังของเขาและนึกถึงตอนที่เขาปรากฏตัวครั้งแรกต่อหน้าเธอเมื่อหลายปีก่อน เขาแนะนำตัวเองในหมู่ผู้ชายด้วยดวงตาที่สดใสว่า “เถ้าแก่ซู เลือกผมสิครับ ผมจะดีกับคุณมากกว่าใครๆ”
เธอจ้องเข้าไปในดวงตาที่ชัดเจนของเขาและถามว่า “นายรู้ไหมว่าผู้ช่วยส่วนตัวต้องทำอะไรบ้าง?”
เขายิ้มมุมปาก ดวงตาเต็มไปด้วยความสุขและพูดอย่างหนักแน่น "ผมโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะครับ เถ้าแก่ซู"
ต่อมา เซียวหร่านติดตามเธอเป็นเวลาห้าปี ความแน่วแน่ในตอนแรก กลับกลายเป็นปฏิเสธที่จะเข้าใกล้เธอในภายหลัง ไม่รู้ว่าตอนนั้นไม่เข้าใจจริงๆ หรือแค่ต้องการเริ่มวางแผนต่อต้านเธอ
ซูหว่านจิ้งไม่เคยเข้าใจเขาเลยจนกระทั่งในตอนนี้
เธอเอนตัวและหลับตาลงอีกครั้ง
...
ทางด้านเฉินลู่ เมื่อเห็นว่าถึงเวลาต้องทายาของสวีซุ่ยหนิง เขาก็บอกลาเฉินเหลียน
สำหรับเรื่องระหว่างเฉินเหลียนกับสวีซุ่ยหนิง เขาขี้เกียจเกินกว่าจะเข้าไปยุ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...