เซี่ยซีฉีกยิ้ม จากนั้นจุดบุหรี่อีกมวนหนึ่งและเอ่ย "แกดูสิ ต่อให้เงื่อนไขแกจะดีมากก็ตาม แต่ไม่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะหมุนรอบตัวแก"
เฉินลู่เอ่ยด้วยท่าทีนิ่งสงบ "เคยลองหยั่งเชิงเธอแล้ว ในตอนแรกเธอดูประหม่า หลังจากที่ได้ยินว่าผมไม่จริงจัง ท่าทีก็ดูโล่งใจ"
เซี่ยซีรู้สึกว่ามันค่อนข้างตลก เธอถอนหายใจพลางเอ่ย "อึดอัดมากเลยใช่ไหม? ตอนนั้นฉันพบเธอครั้งแรกที่บ้านของแก ฉันก็รู้ได้ว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องแตกต่าง แกคบกับโจวอี้มาตั้งหลายปี ระหว่างทางไม่ใช่ว่าจะไม่มีการเลิกรา แต่เธอกล่าวว่าเธอนั้นได้เข้ามาแทรกแซง ฉันสับสนและมึนงงมากเลยไปค้นหาภูมิหลังของเธอ จากนั้นฉันพบว่า....."
สายตาของเธอเริ่มซับซ้อน เธอหยุดชะงักไปชั่วขณะจากนั้นเอ่ย "เห็นกันอยู่ว่าแกรู้จักเธอมานานแล้ว ใช่ไหม? คุณป้าที่คอยดูแลแกที่นั่นบอกว่าเห็นแกเกาะแกะเธออยู่บ่อยครั้งและเธอก็กลั่นแกล้งแก"
เฉินลู่ไม่พูดอะไรและไม่ได้ปฏิเสธ เขาเพียงเอ่ย "ผมจะลงไปด้านล่างแล้ว"
"เช่นนั้นแล้วแกคิดจะยอมแพ้เรื่องของสวีซุ่ยหนิงใช่ไหม?" ราวกับว่าเซี่ยซีนั้นเกลี้ยกล่อมให้เขาคิดเกี่ยวกับมันอีกครั้ง "จะยอมแพ้แบบนี้จริงเหรอ?"
ฝีเท้าของเฉินลู่หยุดนิ่งไปชั่วขณะ เขายังคงนิ่งเงียบและเดินลงไปยังชั้นล่าง
เฉินเจ๋อชูเอ่ยถาม "แม่ของแกกับแกพูดคุยกันในเรื่องของสวีซุ่ยหนิงใช่ไหม?"
เฉินลู่ยกเปลือกตาขึ้นและเหลือบมองเขา
"ฉันไม่รู้ว่าทำไมหล่อนถึงสนับสนุนสวีซุ่ยหนิงที่เคยเป็นของเก่าของเจียงเจ๋อ" เฉินเจ๋อชูเอ่ย "หากว่าเรื่องระหว่างพี่น้องนี้แพร่กระจายออกไป จะไม่ทำให้ผู้อื่นหัวเราะเยาะเราหรอกหรือ"
ใบหน้าของเฉินลู่ดูเยือกเย็นขึ้นเล็กน้อย เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ "ตอนที่เธอคบกับผมเธอบริสุทธิ์ คุณไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงเธอในรูปแบบนั้น"
เฉินเจ๋อชูเอ่ยด้วยท่าทีสงบนิ่ง "คำพูดนี้หยาบคายหรือเปล่าไม่รู้ แต่หากคนนอกรู้ว่าแกกับสวีซุ่ยหนิงคบหากัน พวกเขาต่างก็ย่อมมีความคิดแบบนี้"
เฉินลู่คิดจะดื่มซุปเสียหน่อย แต่ทว่าคำพูดของเฉินเจ๋อชูทำให้เขานั้นหมดอารมณ์ เขาเพียงแค่ยืนขึ้นและพูด "ขอตัวก่อน"
เมื่อเซี่ยซีลงมายังชั้นล่าง เฉินลู่ก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว
คุณย่าเฉินยังคงครุ่นคิดในเรื่องงานแต่งของเฉินลู่ เธอเอ่ยด้วยความกังวลใจ "เรื่องนี้มอบให้หญิงชราอย่างฉัน ฉันไม่รู้จริงๆว่าควรจะทำอย่างไร สะใภ้ของอาลู่ ฉันเลือกไม่ถูกหรอก"
เฉินเจ๋อชูเอ่ย "คุณก็แค่เลือกลูกสาวที่ยังเป็นโสดของตระกูลผู้ลากมากดีก็เพียงพอแล้ว"
เซี่ยซีเย้ยหยัน "นี่มันยุคสมัยไหนกันแล้วยังให้ความสนใจในเรื่องนี้อยู่อีก เด็กชมชอบกันไม่ดีกว่าหรือยังไง?"
"นี่คือความคิดของอาลู่เอง ผู้ชายย่อมไม่เหมือนผู้หญิงอย่างพวกคุณหรอก รูปแบบความคิดไม่ได้คับแคบเท่าพวกคุณ ก็แค่ความรู้สึกจะไปพัฒนาเฉินซื่อกรุ๊ปได้อย่างไร?"
เซี่ยซีเอ่ยอย่างเย็นชา "ก็เพราะคุณปลูกฝังนิสัยของคุณให้กับเขาตั้งแต่เขายังเด็กไง ดังนั้นแล้วเขาก็เลยเปลี่ยนเป็นแบบคุณ แต่เขาไม่ใช่คุณ เขามีความรู้สึก คำว่าพัฒนาเฉินซื่อกรุ๊ปของคุณมันก็เป็นเพียงสิ่งที่ทำให้เขาต้องเสียสละตัวเอง"
เฉินเจ๋อชูกล่าว "แต่ไหนแต่ไรคุณไม่เคยสนใจเรื่องของเขาเลยนี่ ตอนนี้คุณเองก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวหรือแทรกแซงเรื่องนี้"
คำพูดนี้ เห็นได้ชัดว่าเซี่ยซีผงะไปชั่วขณะ การแสดงออกทางสีหน้าของเธอดูแย่มาก โดยไม่รีรอให้คุณย่าเฉินได้ทำการไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองได้เข้าใจกัน เธอก็เดินตรงขึ้นไปยังชั้นบน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...