สวีซุ่ยหนิงไม่ได้ตอบปัญหานี้ ก่อนหน้านี้จะชอบหรือไม่ชอบ ราวกับว่ามันไม่ได้สำคัญอะไร
เฉินลู่ไม่ได้ไล่ถามเธออีก เพียงแต่เขาไม่ยินดีที่จะปล่อยเธอ ยังคงกอดเธอไว้
สวีซุ่ยหนิงกล่าว "ฉันจะไปนอนแล้ว อ่อใช่ ฉันใกล้จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว งานนายเองก็คงยุ่ง ไม่ต้องมาหาฉันหรอก ฉันอยู่คนเดียวได้ บาดแผลนี้ฉันยังสามารถขยับตัวได้อยู่"
เฉินลู่จ้องมองสวีซุ่ยหนิงอย่างไม่เชื่อสายตา นัยต์ตาของเขาดูซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เธอกำลังกีดกันไม่ให้โอกาสเขาพบเธออีก
"ช่วงนี้งานของฉันไม่ค่อยยุ่ง" เฉินลู่กลับไม่ยอมอ่อนข้อ
สวีซุ่ยหนิงกล่าว "กลางวันเจี่ยงหนานตั๋วแวะมาเยี่ยมฉันครั้งหนึ่ง เขาบอกว่าช่วงนี้งานของพวกนายยุ่งมาก ช่วงนี้คนไข้เยอะเป็นพิเศษ"
"เขาย้ายแผนกไปแล้ว ฉันไม่ได้อยู่กับเขา"
สวีซุ่ยหนิงถอนหายใจและกล่าว "นายน่าจะเข้าใจความหมายของฉัน ฉันก็กลัวว่าหากจะให้พูดตรงๆเกรงว่าจะเสียมารยาท"
ครั้งนี้เป็นเฉินลู่ที่ช่วยเธอไว้ วิธีการพูดชักแม่น้ำทั้งห้านั้นไม่ใช่เรื่องที่สวีซุ่ยหนิงชื่นชมเลยแม้แต่น้อย
เฉินลู่กล่าว "อืม แต่ฉันไม่ยินยอม"
สวีซุ่ยหนิงไม่พูดอะไรอีก
เฉินลู่สัมผัสใบหน้าของเธอและเอ่ย "ฉันไม่สามารถรับได้ที่เธอไม่ให้ฉันไปเจอเธออีก ตอนที่เลิกราในตอนนั้น ฉันเองก็ไม่เต็มใจ แต่เธอนั้นไม่ยอมลดละ ไม่ให้โอกาสฉันเลยแม้แต่น้อย ฉันตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอาย ทุกครั้งถูกเธอโกรธและโมโหท้ายที่สุดเธอก็จากฉันไป"
สวีซุ่ยหนิงกล่าว "พอแล้ว ปัญหาที่มีมันก็เป็นเพราะทัศนคติของนาย"
กระทั่งเธอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เฉินลู่ก็จากไปแล้ว
กระทั่งรอยแผลบนแขนของสวีซุ่ยหนิงไม่มีอาการติดเชื้อ เธอก็ได้ออกจากโรงพยาบาล หลังจากที่กลับมายังบริษัท เธอเห็นข้อมูลการขายของไป่เหวิน ไม่พบแบรนด์อื่นใด มีเพียงครีมบำรุงผิวเท่านั้นที่ขึ้นชาร์ตใน 30 อันดับแรกของหมวดหมู่สกินแคร์
พูดตามหลักเหตุผล เป็นเรื่องยากที่จะสร้างแบรนด์เครื่องสำอางใหม่ แต่ส่วนผสมและสูตรของสวีซุ่ยหนิงอยู่ในกำมือของลั่วจือเห้อและสินค้าทั้งหมดนำมาจากตัวเมือง ในขณะเดียวกับกระแสของสินค้าก็อยู่ในกำมือของซูหว่านจิ้ง เห็นได้ชัดว่าเป็นความสัมพันธ์ในการลงทุน แต่กลับถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแบรนด์ย่อย แต่เรื่องนี้เธอก็ไม่ได้อธิบายอะไร เข็นเรือตามน้ำ[1]เข้าสู่ประเด็นร้อน
เมื่อทั้งสองมารวมกัน อันที่จริงจุดสำคัญคือการตลาด
แนวทางของสวีซุ่ยหนิง เธอได้ทำการจดทะเบียนการค้าแบรนด์เครื่องสำอางพร้อมกับบริษัทอีกแห่งหนึ่ง สินค้าชนิดเดียวกันแต่ชื่อไม่เหมือนกันนั่นคือหนึ่งเหตุผล หากบริษัทหนึ่งพังทลาย อีกบริษัทก็สามารถดำเนินการต่อได้ทันที สิ่งที่สวีซุ่ยหนิงต้องการคือการบอกต่อ
เข็นเรือตามน้ำ[1] อุปมาว่า ดำเนินการตามสถานการณ์ที่เป็นไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...