สวีซุ่ยหนิงอึ้งไปสักพัก จากนั้นได้มือไม้อ่อนไปหมด และพูดอย่างอายๆ ว่า "จริงๆ นายไม่พูด ฉันคงลืมไปหมดแล้ว”
เฉินลู่กลับไม่เชื่อ และเหลือบมองเธออย่างแผ่วเบา "ฉันรู้ว่าเธอแคร์มาก”
สวีซุ่ยหนิงทื่ออยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวยอมรับ "โธ่ ที่จริงฉันแคร์มาก ตอนนั้นฉันรู้สึกเศร้ามาก เมื่อฉันเห็นนายเทลงในอ่างล้างหน้า ฉันเครียดมาก และตอนนั้น ฉันอยากร้องไห้จริงๆ”
เธอหวนนึกถึงภาพวันนั้น “ตั้งแต่เด็กจนโต ฉันไม่เคยได้รับความลำบากใจเลย พ่อแม่ฉันไม่เคยทำให้ฉันเสียใจมาก่อน ไม่ว่าอะไรล้วนตามใจฉันตลอด คบกับเจียงเจ๋อ บอกตรงๆ เขาพูดได้ดีมาก ก็ในครั้งนั้น ฉันได้เสียใจจริงๆ เพราะก่อนหน้านั้นฉันถือว่านายเป็นเถ้าแก่ นายจะทำกับฉันอย่างไร ฉันสามารถเข้าใจได้ อย่างไรแล้วเถ้าแก่ก็โหดเหี้ยมไม่ไว้หน้าอยู่ดี
แต่จากตอนที่ฉันออกไปเที่ยวกับคุณย่าในครั้งนั้น คืนที่เกิดอุบัติเหตุ นายดูแลฉันเป็นพิเศษ และเวลาต่อมา นายใจดีกับฉันมาตลอด จากนั้นฉันก็......”
สวีซุ่ยหนิงหลับตาลง ไม่พูดอะไรอีก
แต่ก็ง่ายที่จะเดาได้ว่า ในเวลานั้นเธอตกหลุมรักเฉินลู่เข้าแล้ว
ผู้หญิงคนหนึ่ง กับผู้ชายคนหนึ่ง นอนด้วยกันทุกวัน ร่างกายได้มีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือแล้ว เพียงแค่ผู้ชายให้การปรนเปรอเล็กน้อย จะไม่ให้ตกหลุมรักมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับ
เมื่อได้ตกลงไปแล้ว นั้นจะเป็นช่วงที่เปราะบางที่สุด รับไม่ได้ ซึ่งไม่สามารถต้านทานความเย็นชาได้แม้เพียงเล็กน้อย
ช่วงเวลาที่เธออยู่ในอารมณ์ที่มัวหมองและเปราะบางที่สุด เฉินลู่ได้เย็นชาลงทันที
เดิมทีพวกเขาล้วนนอนอยู่ชั้นบนด้วยกัน และข้างหูเธอเต็มไปด้วยเสียงหายใจของเขา และทันใดนั้นก็ได้เปลี่ยนเป็นว่าเธอนอนอยู่ในวิลล่าขนาดใหญ่เพียงตัวคนเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...