คำพูดของเฉินลู่ทำให้สีหน้าของสวีซุ่ยหนิงย่ำแย่ นัยน์ตาของเธอมีความซับซ้อน และในที่สุดเธอก็พูดอย่างห่างเหินว่า"เฉินลู่ ฉันทำเพื่อนายนะ นายอย่าเสียเวลาอีกเลย"
“ฉันแค่ทำตามความคิดในใจของฉัน ถ้าวันใดวันหนึ่งฉันรู้สึกเบื่อขึ้นมา ฉันจะยอมแพ้ไปเอง” เฉินลู่ทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินจากไป
อันที่จะสวีซุ่ยหนิงค่อนข้างกลัวการตามจีบของเฉินลู่ เพราะความน่าจะเป็นนั้นหมายถึงการพัวพันไม่รู้จบ และถ้าเฉินลู่เล่นอะไรลับหลังเธอมากกว่านี้ เธอคงจะไม่มีอำนาจที่จะต่อต้าน
ลึกๆในใจเธอไม่คิดว่าเฉินลู่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ นิสัยที่ถูกหล่อหลอมมากว่า 20 ปีนั้นยากที่จะเปลี่ยนแปลง เฉินลู่เห็นแก่ตัวจนเข้ากระดูก เธอไม่คิดว่าตัวเองจะมีเสน่ห์จนทำให้เขามีเธอเป็นศูนย์กลางของหัวใจ
สวีซุ่ยหนิงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเฉินลู่กำลังคิดอะไรอยู่ในขณะนี้ เธอกังวลว่าการตามจีบของเขาจะสร้างปัญหาให้กับตัวเธอเอง แต่ในสัปดาห์ต่อมา เฉินลู่กลับมาหาเธอแค่สองครั้งเท่านั้น
ในสองครั้งนั้น เขามักจะนั่งอยู่ในห้องทำงานของเธอโดยไม่รบกวน
นี่ควรจะถือเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่เขาไม่ได้กวนประสาทเธอ เพียงแต่ลูกค้าที่มาบริษัทมักจะเหลือบมองเฉินลู่แล้วแสดงท่าทางครุ่นคิด
บางครั้งเฉินลู่ก็ตอบกลับอีกฝ่ายหนึ่งสองสามคำ แม้ว่าเขาจะไม่สนใจเกี่ยวกับธุรกิจของครอบครัว แต่เขาก็คุ้นเคยกับเรื่องนี้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่ามีทักษะการสนทนาดีกว่าเธอซะอีก
และอีกฝ่ายยังต้องดูแลสวีซุ่ยหนิงเพราะเห็นแก่หน้าเขาอีกด้วย
เฉินลู่ยังเชิญอีกฝ่ายมาทานอาหารเย็นเป็นพิเศษ คงรู้นะว่า ปกติแล้วเฉินลู่ไม่ค่อยเชิญคนอื่นมาทานอาหารเย็นก่อน
การแสดงน้ำใจของเขาทำให้ทุกคนในบริษัทของสวีซุ่ยหนิงมีเวลาเหลือเฟือมากขึ้น ทุกคนต่างก็รู้สึกขอบคุณเขา และคนที่อายุน้อยกว่าก็เรียกเขาว่า "พี่"
ด้วยความช่วยเหลือของเขาในครั้งนี้จึงกลายเป็นแบบอย่าง ทุกคนเริ่มเรียกหาเฉินลู่เมื่อมีปัญหา ทุกครั้งที่เฉินลู่กลับมา เขาจะนำอาหารมาด้วยไม่มากก็น้อย ทำให้ครั้งหนึ่งเขาค่อนข้างได้รับความนิยมในบริษัทนี้มากทีเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...