บทที่ 236 – ตอนที่ต้องอ่านของ เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
ตอนนี้ของ เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการโต้แย้งทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 236 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เดิมทีสวีซุ่ยหนิงเพิกเฉยต่อเฉินลู่ ในขณะนี้อยู่ต่อหน้าโจวอี้ เธอกลับเป็นฝ่ายเริ่มคุยกับเขา "ฉันเสร็จธุระที่นี่แล้ว นายอยากจะไปส่งฉันไหม?"
แน่นอนว่าเธอกำลังแสดงละครอยู่ อย่างไรก็ตาม การแสดงทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้โจวอี้ได้เห็น
เธอดูสิ ผู้ชายที่เธอปรารถนาเขาดีกับฉันมากเพียงใด
เฉินลู่ชำเลืองสายตามองเธอ ในขณะนี้เขาไร้ซึ่งอารมณ์ใด เพียงแต่ตอบรับ'อืม'
ราวกับว่ากำลังสงสัยอะไรบางอย่าง
โจวอี้อ้าปาก ลังเลอยู่ชั่วขณะจากนั้นเอ่ย "เฉินลู่ ฉันสามารถอธิบายให้นายฟังได้ นายช่วยฟังฉันเล่าเรื่องเจียงเจ๋อและฟู่เล่อเล่อได้ไหม?"
สวีซุ่ยหนิงเอ่ยอย่างหมดความอดทน "เฉินลู่ ฉันต้องไปบริษัทแล้ว"
เฉินลู่กล่าว "ไปเถอะ"
โจวอี้คาดไม่ถึงเลยว่าเฉินลู่จะตัดสินใจไปกับสวีซุ่ยหนิง และเขานั้นแทบไม่ลังเลเลย เมื่อหล่อนเอ่ยว่าจะไป เขาก็ไป แม้ว่าภายในใจของเขาจะสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะสืบค้นเอาความ
เมื่อมองลึกลงไป เห็นได้ว่าสวีซุ่ยหนิงนั้นสามารถสร้างปัญหาได้และเธอรู้สึกไม่ยินยอม ดังนั้นเฉินลู่ทำได้เพียงยอมประนีประนอมกับเธอ
โจวอี้พลันนึกได้ว่าครั้งล่าสุด ภายในห้องพักผู้ป่วยเช่นกัน ต่อหน้าพ่อและแม่ของเธอ สวีซุ่ยหนิงก็ต้องการให้เฉินลู่ยอมรับในตัวตนของเธอ เฉินลู่ไม่เต็มใจนัก แต่ท้ายที่สุดก็ยอมประนีประนอมกับเธอเช่นนี้
แต่เฉินลู่เป็นคนแบบนี้ เห็นตัวเองเป็นสำคัญ โจวอี้คบกับเขามาเนิ่นนาน เธอไม่เคยกล้าทำอะไรเกินขอบเขตในสิ่งที่เขาไม่สนใจ ถ้ามันเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการ เขาจะจัดการกับสิ่งนั้นอย่างเย็นชาเสมอและไม่มีทางที่จะให้การตอบกลับเธอ
แต่ไหนแต่ไรโจวอี้ไม่กล้าที่จะขอ แต่ตอนนี้เขากลับอ่อนข้อให้กับสวีซุ่ยหนิงครั้งแล้วครั้งเล่า
นี่ไม่ใช่เฉินลู่ เฉินลู่ไม่ควรจะเป็นเช่นนี้
แต่ทว่าผู้ชายตรงหน้า เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคือเฉินลู่
โจวไม่สามารถยอมรับได้และพูดเอ่ยด้วยท่าทีจะขาดใจ "เฉินลู่ ฉันขอร้องนาย ขอร้อง นายช่วยรับฟังฉันหน่อยจะได้ไหม?"
สวีซุ่ยหนิงกลับเอ่ย 'เฮอะ' ออกมาอย่างหมดความอดทน
เฉินลู่ก้าวเท้าและเดินตรงออกไป
สวีซุ่ยหนิงหันกลับไปมองโจวอี้ ไม่สามารถอธิบายได้ว่าสายตานั้นหมายความว่าอย่างไร แต่โจวอี้กลับสัมผัสได้ว่าในสายตาของเธอนั่นคือรอยยิ้มแห่งชัยชนะ
เธอไม่รู้ว่าวันนี้ตัวเธอเองเยือกเย็นเช่นนี้ได้อย่างไร หลังจากที่ได้ฟังเรื่องนี้หัวใจของเธอนั้นสงบนิ่งเป็นอย่างมาก โดยปกติแล้ว เธอจะไม่สนใจเรื่องอื่น เพราะว่าชีวิตของมนุษย์ต้องมาก่อน แต่ในขณะนี้เธอไม่ได้รู้สึกถึงความเมตตาเลยแม้แต่น้อย
"ที่เธอทำแบบนี้ ก็เพราะว่ากำลังบีบบังคับให้นายกลับไป กว่าเธอจะมีสุขภาพที่ดีไม่ใช่เรื่องง่าย เธอคงไม่ทำเรื่องโง่เง่าหรอก และอยู่แค่ชั้นสอง ฉันไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาใหญ่อะไร" สวีซุ่ยหนิงกล่าว "ไม่ใช่ว่านายบอกว่าจะไปส่งฉันกลับหรอกเหรอ เราไปกันเถอะ"
เฉินลู่หยุดอยู่ชั่วขณะ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นพยักหน้า
พยาบาลที่วิ่งมานั้นกระวนกระวายมาก อารมณ์ตื่นตระหนกปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกาย "หมอเฉิน"
สวีซุ่ยหนิงกลัวว่าเฉินลู่จะกลับไป เมื่อนั้นสีหน้าโจวอี้จะมีรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจอีกครั้ง ดังนั้นเธอจึงเป็นฝ่ายเริ่มจับแขนเสื้อของเฉินลู่และเดินออกไปพร้อมกับเขา
แม้ว่าทุกคนกำลังให้ความสนใจกับห้องพักผู้ป่วยที่กำลังวุ่นวาย แต่เธอกลับนิ่งและไม่คิดจะเหลียวแลเลยแม้แต่น้อย ราวกับตัดขาดจากสถานการณ์ตื่นตระหนกเหล่านั้น
ร่างกายของเฉินลู่เห็นได้ชัดว่ากำลังประหม่า มีหน่วยดับเพลิงกำลังพยายามเกลี้ยกล่อมโจวอี้
ฝีเท้าของเฉินลู่หยุดลง
สวีซุ่ยหนิงกล่าวในทันใด "เฉินลู่ ฉันไม่อนุญาตให้นายไป"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...