เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 25

สวีซุ่ยหนิงกลับบ้าน อาบน้ำ จากนั้นเธอต้มน้ำขิงให้กับตัวเอง

เธอนั่งบนโซฟาอยู่ครู่หนึ่ง ต่อมาเธอหยิบเสื้อสูทของเฉินลู่ทิ้งลงถังขยะ เธอเช็คราคาเสื้อตัวนั้นและโอนเงินให้กับเขา

หมื่นหยวน เงินเดือนของสวีซุ่ยหนิงรวมกันสองเดือน แต่เธอไม่อยากพบหน้าโจวอี้ เธอไม่มีทางนำมันไปคืนอย่างแน่นอน หากวันนี้ไม่ใช่ว่าเธอไม่ได้พกโทรศัพท์และไม่มีเงินติดตัวไป ให้ตายอย่างไรเธอก็จะไม่ขึ้นไปนั่งบนรถของพวกเขา

หลังจากนั้นไม่กี่นาที เฉินลู่ได้ทำการโอนเงินคืนให้กับเธอ

สวีซุ่ยหนิงกล่าว : ฉันไม่ทันระวังทำเสื้อผ้านายหล่นลงในถังขยะ หากว่านายไม่ถือ ฉันจะเก็บมันขึ้นมาให้และส่งกลับไปให้นาย

จริงอยู่ที่เฉินลู่ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่ทว่าเธอชอบมีปฏิสัมพันธ์ เนื่องจากโจวอี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขยะแขยงเขา

ไม่มีคำตอบจากเฉินลู่ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีเวลามาพูดคุยกับเธอ

สวีซุ่ยหนิงถ่ายภาพบาดแผลทั้งหมดที่ถูกเจียงเจ๋อกระทำในวันนี้ บันทึกทุกสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความระมัดระวัง เมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น เธอโทรหาจางอวี้มาช่วยใส่ยาให้กับเธอ

เมื่อจางอวี้เห็นไหล่ของเธอ สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปในทันใดทั้งยังเอ่ย "เจียงเจ๋อไม่ใช่คนจริงๆ ผู้ชายแบบนี้ ต่อให้รักฉันมาก รักจนตายแทนได้ ฉันก็ไม่มีทางเข้าใกล้เขา"

ในตอนนั้นที่สวีซุ่ยหนิงเลิกกับเจียงเจ๋อ เนื่องจากหลายครั้งที่อารมณ์ของเขาแปรปรวน ในตอนนั้นที่เธอเลิกรา เธอรู้สึกเจ็บปวดอยู่หลายวัน ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่เมามายและเกิดเรื่องเหนือความคาดหมายกับเฉินลู่

จางอวี้เป็นกังวลเกี่ยวกับเธอ เธอเอ่ย "สองสามวันนี้เธอไปนอนกับฉันเถอะ ไม่อย่างนั้นหากเจียงเจ๋อปรากฏตัวขึ้นมา ชีวิตน้อยๆของเธออาจจะไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้นะ"

สองวันถัดมา เธอมารับสวีซุ่ยหนิง

ตระกูลจางนับว่าเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงและมีฐานะทางสังคม เมื่อสวีซุ่ยหนิงกลับมากับจางอวี้ เธอพบกับแม่จางที่กำลังนั่งเล่นไพ่ หนึ่งโต๊ะมีผู้หญิงนั่งรวมตัวกันสี่คน ทุกคนต่างดูดีมีฐานะ

จางอวี้ชี้ไปยังคนคนหนึ่งที่นั่งอยู่ภายในกลุ่มนั้น "นั่นคือแม่ของเฉินลู่"

เซี่ยซีได้ยินคนเอ่ยถึงตนเอง เธอหันมาและชำเลืองมอง จางอวี้เธอย่อมรู้จัก ทว่าเด็กสาวตัวสูงโปร่งผิวขาวสะอาดสะอ้านที่ยืนอยู่ข้างเธอ เธอไม่เคยพบเห็นมาก่อน

ทว่าจางอวี้เอ่ยคำว่า 'แม่ของเฉินลู่' นั่นหมายความว่าผู้หญิงคนนี้รู้จักเฉินลู่

เซี่ยซีมองสำรวจสวีซุ่ยหนิงด้วยแววตาจริงจัง จากนั้นเธอละสายตากลับไป

จางอวี้พาสวีซุ่ยหนิงขึ้นไปยังชั้นบนก่อน เมื่อเธอลงมา เซี่ยซีเอ่ยเรียกเธอ "หญิงสาวคนนั้นคือใคร?"

"เพื่อนสนิทของหนูค่ะ" จางอวี้เอ่ยอย่างระมัดระวัง

"รู้จักเฉินลู่งั้นเหรอ?"

"........" จางอวี้รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย น้อยมากที่เธอจะโป้ปดผู้ใหญ่ เธออ้ำๆอึ้งๆ "กับเฉินลู่ ความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีเท่าไรค่ะ"

เซี่ยซีเข้าใจ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการตามจีบลูกชายของเธอและจีบไม่ติด อย่างไรเสียโจวอี้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ แม้แต่เธอก็ไม่อาจโน้มน้าวได้

โจวอี้มักจะมาหาเธอบ่อยครั้งและแสดงให้เธอเห็นถึงคุณงามความดี ทว่าเซี่ยซีเกียจคร้านเกินกว่าจะชายตามองเธอ

แม่ของจางอวี้เอ่ย "แกอย่าทิ้งเพื่อนของแกไว้ชั้นบนตามลำพัง พาเธอมาพบหน้ากันหน่อย"

สวีซุ่ยหนิงยังคงมีมารยาท ในไม่ช้าเธอก็เร่งรุดลงมาแสดงความเคารพต่อผู้ใหญ่ทุกคน แท้จริงแล้วมารยาทเป็นคุณธรรมที่วัยรุ่นในยุคปัจจุบันต่างก็มีติดตัว ทว่าสะใภ้ในอนาคตของเซี่ยซีคือโจวอี้ เมื่อได้ลองเปรียบเทียบ สวีซุ่ยหนิงในสายตาของเธอนั้นดูมีมารยาทที่ดี มีความเฉลียวฉลาดและดูเป็นที่รักของผู้คน

เซี่ยซีพูดคุยกับสวีซุ่ยหนิงไปมากกว่าสองประโยค ทว่าสวีซุ่ยหนิง เนื่องจากเฉินลู่ เธอจึงไม่ค่อยกระตือรือร้นกับเธอเท่ากับผู้ใหญ่อีกสามท่าม

เซี่ยซีเป็นคนตรงไปตรงมา เธอเอ่ยอย่างสงบนิ่ง "ลูกชายของฉันก็คือลูกชายของฉัน เขาปฏิเสธเธอนั่นคือเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวข้องกับฉัน"

สวีซุ่ยหนิงไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไร เธอเพียงพยักหน้าและนั่งลงด้านข้างอย่างเชื่อฟัง

เมื่อเฉินลู่เข้ามา เขาเห็นสวีซุ่ยหนิงกำลังนั่งบิดเอวของเธอและกำลังนั่งข้างแม่ของเขา

กระโปรงสั้นหดจนเห็นต้นขา

"แม่ พ่อให้ผมมารับคุณกลับบ้าน" เขาละสายตาและเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ

ทันทีที่สวีซุ่ยหนิงได้ยินเสียงนั้น ร่างกายของเธอแข็งทื่อและไม่ขยับ

เซี่ยซีไม่มองเขาแม้แต่น้อย เธอเอ่ย "รีบอะไรกัน?"

จากนั้นหันไปเอ่ยกับสวีซุ่ยหนิง "เธอคิดว่าฉันควรออกอะไร?"

"เก้าว่านค่ะ" สวีซุ่ยหนิงเอ่ยอย่างขอไปทีจากนั้นเธอรีบร้อนขึ้นไปยังชั้นบน "คุณป้าคะ หนูขอตัวขึ้นไปด้านบนก่อนนะคะ"

เธอรีบลุกขึ้นอย่างร้อนรน กระโปรงของเธอติดกับเก้าอี้ เธอเสียการทรงตัวและได้รับการประคองจากเฉินลู่

"ขอบคุณ"

"อืม" เขาปล่อยเธอในทันใดและนั่งลงบนที่นั่งของเธอ

เซี่ยซีชำเลืองมองเขา รู้สึกว่าวันนี้เขาดูกระตือรือร้นเล็กน้อย

จากนั้นเธอมองขึ้นไปยังชั้นบนอีกครั้ง เอวบางทว่าทรงบั้นท้ายกลับดี เธอได้พบเห็นก็รู้สึกรักใคร่เอ็นดู เธอสูดลมหายใจอย่างเย็นชา "นี่ไม่ดีกว่าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั้นเหรอ?"

เฉินลู่ขมวดคิ้วและเอ่ยด้วยท่าทีสงบนิ่ง "คนนั้นไม่ใช่จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ แต่เป็นลูกสะใภ้ของคุณ"

ผู้อาวุโสรอบข้างต่างก็เอ่ยปากบอกให้ต่างคนต่างใจเย็นๆ

เซี่ยซียิ้มเย็นยะเยือกอีกครา ทว่าก่อนจากไป กลับเอ่ยปากถามจางอวี้ถึงช่องทางการติดต่อของสวีซุ่ยหนิง

เฉินลู่แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องนี้

แน่นอนว่าเซี่ยซีไม่ได้คิดจะแนะนำให้เฉินลู่ เธอคิดอยากจะแนะนำให้กับเจียงเจ๋อ เมื่อเอ่ยเรื่องนี้กับแม่เจียง แม่เจียงก็สนใจอกสนใจ ทว่าเมื่อได้เห็นภาพของสวีซุ่ยหนิงกลับต้องส่ายหน้า

"แม่หนูคนนี้ เกรงว่าจะไม่ได้" แม่เจียงเอ่ยด้วยท่าทีเศร้าใจ

"ฐานะของครอบครัวนับว่ายังไม่ดีพร้อม" เซี่ยซีเอ่ย

"หากอาเจ๋อชมชอบ มีเหรอที่เราจะสนใจฐานะ พูดตามตรงไม่ปิดบัง แม่หนูคนนี้ อาเจ๋อน่ะชอบ" แม่เจียงเอ่ยอย่างช่วยไม่ได้ "ทว่าเฉินลู่ของคุณพี่น่ะ ไม่ค่อยยินยอมเสียเท่าไร"

เซี่ยซีเอ่ย "แล้วเกี่ยวอะไรกับเฉินลู่เหรอ?"

"เฉินลู่ของคุณพี่และเธอคนนี้ ระหว่างพวกเขานั้นไร้ซึ่งความบริสุทธิ์แล้วน่ะสิคะ" แม่เจียงเอ่ยด้วยคำพูดอ้อมค้อม "ฉันดูแล้ว เหมือนกับว่าเขาไม่ค่อยอยากให้เธอเข้าใกล้เจียงเจ๋อมากนัก ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่กันแน่"

เซี่ยซีตกตะลึงทันใด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน