เมื่อเซี่ยซีมาหาเฉินลู่ โจวอี้ก็อยู่ที่นั่นด้วย เท้าของเธอกำลังวางพาดลูกชายของเธอราวกับว่าเป็นราชินี
เมื่อได้เห็น หัวใจของเซี่ยซีราวกับมีเปลวเพลิงปะทุ
กระทั่งโจวอี้หันศีรษะมาและเห็นเธอ เธอสำรวมเล็กน้อย คิดจะลุกขึ้นมาทักทาย เซี่ยซีกลับเอ่ยอย่างเย็นชา "ฉันมาหาเฉินลู่"
เฉินลู่หันกลับมาและมองเธออย่างไม่ใส่ใจ เขาลุกขึ้น ทั้งสองเดินออกมาด้านนอก เขาเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน "มีอะไรครับ?"
เซี่ยซีเอ่ย "แกรังแกสวีซุ่ยหนิง แล้วแกไม่รับผิดชอบงั้นเหรอ?"
เขาชะงักงัน จากนั้นภายในเวลาอันรวดเร็วเขาก็สามารถคาดเดาได้ว่าทำไมเธอถึงได้รู้เรื่องนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่าคำพูดที่หลุดออกจากปากแม่เจียง
เฉินลู่เอ่ยอย่างสงบ "ก็แค่สนองความต้องการของทั้งสองฝ่ายก็เท่านั้น"
เซี่ยซีเอ่ย "ความต้องการทั้งสองฝ่ายหรือไม่ แน่นอนว่าแกพูดนับว่าใช่ เธอจะกล้าขัดแกงั้นเหรอ? หากว่าเป็นความต้องการทั้งสองฝ่ายจริงๆ ทันทีที่เธอเห็นแก เธอจะหลบหน้าหนีแบบนั้นเหรอ? ฉันจะไปหาเธอและถามเธอให้แน่ชัด หากเธอต้องการให้แกรับผิกชอบ แกจะต้องแต่งงานกับเธอ"
นัยต์ตาของเขาเย็นเยียบ
เข้าใจแล้วว่าเธอไม่อยากให้โจวอี้เข้ามายุ่งเกี่ยว
"สวีซุ่ยหนิงไม่มีทางยินยอม" เฉินลู่ไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในช่วงที่ใกล้จะถึงวันแต่งงาน เขาเอ่ย "หากคุณไม่เชื่อ ผมจะไปถามเป็นเพื่อนคุณด้วย"
เมื่อสวีซุ่ยหนิงพบเฉินลู่อีกครั้งในขณะที่เธออยู่บ้านตระกูลจาง เธอรู้สึกเสียใจมากที่เธอย้ายมาอยู่บ้านตระกูลจาง
แต่ทว่าในตอนนี้เธอจำเป็นจะต้องเดินไปด้านข้างเซี่ยซีและเอ่ย "คุณป้า สวัสดีค่ะ"
เซี่ยซียิ้มและมองเธอ "หนิงหนิง เรื่องระหว่างเธอและเฉินลู่ ฉันได้ฟังมาแล้ว ได้ยินว่าเธอคบกับเจียงเจ๋อมาหนึ่งปี ไม่มีเรื่องเลยเถิดอะไรเกิดขึ้นเลย เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นเด็กที่ได้รับการสั่งสอนมาอย่างดี หากเธอต้องการ เราตระกูลเฉินยินดีจะรับผิดชอบ"
สวีซุ่ยหนิงมองเฉินลู่ ราวกับว่าเขากำลังนั่งดื่มชาอย่างไรอย่างนั้น ทว่าสายตาของเขาจ้องมองเธอคล้ายจะไม่ตั้งใจ ความหมายของคำเตือนนั้นไม่ควรจะชัดเจนจนเกินไป
"ครอบครัวฉันไม่ได้สั่งสอนมาดีหรอกค่ะ" สวีซุ่ยหนิงเอ่ยคำพูดให้ความร่วมมือ "ฉันไม่คิดอยากจะแต่งงานกับเฉินลู่ เขาและโจวอี้ดูเหมาะสมกันดีแล้วค่ะ คุณป้าทำให้พวกเขาสมปรารถนาเถอะค่ะ"
เซี่ยซีขมวดคิ้วแน่น "เธอไม่ยินยอมจริงๆหรือ?"
สวีซุ่ยหนิงส่ายหน้า "ไม่ยินยอมค่ะ"
เฉินลู่ยังเอ่ยเพิ่มเติมอีกว่า "เธอมีคนในใจอยู่แล้ว"
สวีซุ่ยหนิงชำเลืองมองเฉินลู่ จากนั้นเธอพยักหน้าให้กับเซี่ยซี
เซี่ยซีค่อนข้างผิดหวัง ยิ่งใกล้วันแต่งงานของเฉินลู่และโจวอี้ เธอยิ่งร้อนใจ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถหาใครสักคนมาทำลายงานแต่งงานนี้ ทว่าเธอก็ไม่อาจบังคับฝืนใจผู้หญิงคนอื่นได้
ท้ายที่สุดเมื่อเธอจากไป สีหน้าเธอดูไม่สู้ดีนัก ในทางตรงกันข้ามสีหน้าของเฉินลู่กลับดูสบายใจไร้กังวล
ไม่กี่วันต่อมา สวีซุ่ยหนิงพักอยู่ภายในบ้านตระกูลจางอย่างสงบ จางอวี้มีนิสัยรักความสนุก เธอมักออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านอยู่บ่อยครั้งและจะพาเธอไปด้วยเสมอ ดังนั้นสวีซุ่ยหนิงจึงได้พบกับลั่วจือเห้ออีกครั้ง
ภายในร้านสนุกเกอร์แห่งหนึ่ง เพียงพริบตาลั่วจือเห้อก็สังเกตเห็นเธอ เขาตกตะลึงครู่หนึ่งจากนั้นใบหน้าก็ประดับด้วยรอยยิ้ม "แม่สาวหน้าอกใหญ่"
สวีซุ่ยหนิงมองผู้คนรอบตัวเธอ เธอรู้สึกได้ว่าสายตาของพวกเขากำลังจับจ้องไปยังสถานที่แห่งหนึ่งเพียงเพราะคำพูดของเขา เธอหน้าแดงระเรื่อและเอ่ยขอร้อง "ลั่วจือเห้อ นายหยุดเรียกฉันแบบนั้นเถอะ"
"ไม่ดีเหรอ?" เขาเอ่ยถามด้วยท่าทีสบายใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...