เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 26

สรุปบท บทที่ 26: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

สรุปเนื้อหา บทที่ 26 – เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น

บท บทที่ 26 ของ เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ในหมวดนิยายการโต้แย้ง เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จิ่นอวิ๋น อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เมื่อเซี่ยซีมาหาเฉินลู่ โจวอี้ก็อยู่ที่นั่นด้วย เท้าของเธอกำลังวางพาดลูกชายของเธอราวกับว่าเป็นราชินี

เมื่อได้เห็น หัวใจของเซี่ยซีราวกับมีเปลวเพลิงปะทุ

กระทั่งโจวอี้หันศีรษะมาและเห็นเธอ เธอสำรวมเล็กน้อย คิดจะลุกขึ้นมาทักทาย เซี่ยซีกลับเอ่ยอย่างเย็นชา "ฉันมาหาเฉินลู่"

เฉินลู่หันกลับมาและมองเธออย่างไม่ใส่ใจ เขาลุกขึ้น ทั้งสองเดินออกมาด้านนอก เขาเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน "มีอะไรครับ?"

เซี่ยซีเอ่ย "แกรังแกสวีซุ่ยหนิง แล้วแกไม่รับผิดชอบงั้นเหรอ?"

เขาชะงักงัน จากนั้นภายในเวลาอันรวดเร็วเขาก็สามารถคาดเดาได้ว่าทำไมเธอถึงได้รู้เรื่องนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่าคำพูดที่หลุดออกจากปากแม่เจียง

เฉินลู่เอ่ยอย่างสงบ "ก็แค่สนองความต้องการของทั้งสองฝ่ายก็เท่านั้น"

เซี่ยซีเอ่ย "ความต้องการทั้งสองฝ่ายหรือไม่ แน่นอนว่าแกพูดนับว่าใช่ เธอจะกล้าขัดแกงั้นเหรอ? หากว่าเป็นความต้องการทั้งสองฝ่ายจริงๆ ทันทีที่เธอเห็นแก เธอจะหลบหน้าหนีแบบนั้นเหรอ? ฉันจะไปหาเธอและถามเธอให้แน่ชัด หากเธอต้องการให้แกรับผิกชอบ แกจะต้องแต่งงานกับเธอ"

นัยต์ตาของเขาเย็นเยียบ

เข้าใจแล้วว่าเธอไม่อยากให้โจวอี้เข้ามายุ่งเกี่ยว

"สวีซุ่ยหนิงไม่มีทางยินยอม" เฉินลู่ไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในช่วงที่ใกล้จะถึงวันแต่งงาน เขาเอ่ย "หากคุณไม่เชื่อ ผมจะไปถามเป็นเพื่อนคุณด้วย"

เมื่อสวีซุ่ยหนิงพบเฉินลู่อีกครั้งในขณะที่เธออยู่บ้านตระกูลจาง เธอรู้สึกเสียใจมากที่เธอย้ายมาอยู่บ้านตระกูลจาง

แต่ทว่าในตอนนี้เธอจำเป็นจะต้องเดินไปด้านข้างเซี่ยซีและเอ่ย "คุณป้า สวัสดีค่ะ"

เซี่ยซียิ้มและมองเธอ "หนิงหนิง เรื่องระหว่างเธอและเฉินลู่ ฉันได้ฟังมาแล้ว ได้ยินว่าเธอคบกับเจียงเจ๋อมาหนึ่งปี ไม่มีเรื่องเลยเถิดอะไรเกิดขึ้นเลย เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นเด็กที่ได้รับการสั่งสอนมาอย่างดี หากเธอต้องการ เราตระกูลเฉินยินดีจะรับผิดชอบ"

สวีซุ่ยหนิงมองเฉินลู่ ราวกับว่าเขากำลังนั่งดื่มชาอย่างไรอย่างนั้น ทว่าสายตาของเขาจ้องมองเธอคล้ายจะไม่ตั้งใจ ความหมายของคำเตือนนั้นไม่ควรจะชัดเจนจนเกินไป

"ครอบครัวฉันไม่ได้สั่งสอนมาดีหรอกค่ะ" สวีซุ่ยหนิงเอ่ยคำพูดให้ความร่วมมือ "ฉันไม่คิดอยากจะแต่งงานกับเฉินลู่ เขาและโจวอี้ดูเหมาะสมกันดีแล้วค่ะ คุณป้าทำให้พวกเขาสมปรารถนาเถอะค่ะ"

เซี่ยซีขมวดคิ้วแน่น "เธอไม่ยินยอมจริงๆหรือ?"

สวีซุ่ยหนิงส่ายหน้า "ไม่ยินยอมค่ะ"

เฉินลู่ยังเอ่ยเพิ่มเติมอีกว่า "เธอมีคนในใจอยู่แล้ว"

สวีซุ่ยหนิงชำเลืองมองเฉินลู่ จากนั้นเธอพยักหน้าให้กับเซี่ยซี

เซี่ยซีค่อนข้างผิดหวัง ยิ่งใกล้วันแต่งงานของเฉินลู่และโจวอี้ เธอยิ่งร้อนใจ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถหาใครสักคนมาทำลายงานแต่งงานนี้ ทว่าเธอก็ไม่อาจบังคับฝืนใจผู้หญิงคนอื่นได้

ท้ายที่สุดเมื่อเธอจากไป สีหน้าเธอดูไม่สู้ดีนัก ในทางตรงกันข้ามสีหน้าของเฉินลู่กลับดูสบายใจไร้กังวล

ไม่กี่วันต่อมา สวีซุ่ยหนิงพักอยู่ภายในบ้านตระกูลจางอย่างสงบ จางอวี้มีนิสัยรักความสนุก เธอมักออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านอยู่บ่อยครั้งและจะพาเธอไปด้วยเสมอ ดังนั้นสวีซุ่ยหนิงจึงได้พบกับลั่วจือเห้ออีกครั้ง

ภายในร้านสนุกเกอร์แห่งหนึ่ง เพียงพริบตาลั่วจือเห้อก็สังเกตเห็นเธอ เขาตกตะลึงครู่หนึ่งจากนั้นใบหน้าก็ประดับด้วยรอยยิ้ม "แม่สาวหน้าอกใหญ่"

สวีซุ่ยหนิงมองผู้คนรอบตัวเธอ เธอรู้สึกได้ว่าสายตาของพวกเขากำลังจับจ้องไปยังสถานที่แห่งหนึ่งเพียงเพราะคำพูดของเขา เธอหน้าแดงระเรื่อและเอ่ยขอร้อง "ลั่วจือเห้อ นายหยุดเรียกฉันแบบนั้นเถอะ"

"ไม่ดีเหรอ?" เขาเอ่ยถามด้วยท่าทีสบายใจ

หัวใจของสวีซุ่ยหนิงจมดิ่ง เธอรู้ว่าเขากำลังเอ่ยเตือนความคิดของเธออีกครั้ง แม้ว่าเธอจะชื่นชมเขา แต่เธอก็ไม่เคยคิดจะคบหากับเขา

สวีซุ่ยหนิงรู้สึกเศร้าเล็กน้อย ทว่าสีหน้าของเธอยังคงสงบนิ่ง เธอยิ้มและเอ่ย "ฉันยังไม่คิดวางแผนจะมีความรักหรอกนะ เฮ้ จางอวี้ พวกเธอเล่นกันไปเลย ฉันขอตัวก่อน"

ลั่วจือเห้อขมวดคิ้วแน่น เอื้อมมือคว้ามือของเธอไว้ สวีซุ่ยหนิงกลับเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อยพร้อมกับเอ่ย "ลั่วจือเห้อ หากว่าฉันคิดจะยั่วยวนนาย ขอให้ฟ้าผ่าตาย"

เขาชะงักไปชั่วขณะ

เธอยิ้มอย่างสุภาพ "งั้นฉันขอตัวก่อนนะ"

ลั่วจือเห้อนั่งอยู่เช่นนั้นพักใหญ่ จากนั้นเขาลุกขึ้นและเดินออกไป

เฉินลู่คาดไม่ถึงว่าหน้าประตูร้านสนุกเกอร์จะได้พบกับสวีซุ่ยหนิงที่กำลังนั่งยองอยู่บนพื้น มือทั้งสองของเธอกำลังกุมศีรษะและทอดถอนหายใจ

ท่าทีดูกลัดกลุ้มเป็นอย่างมาก

เฉินลู่เพิ่งผ่าตัดเสร็จและเพิ่งเลิกงาน เมื่อผ่านมาทางนี้ เผอิญพบกับเธอเข้าก็เลยจอดแวะเสียหน่อย เมื่อนึกถึงตอนที่เธอช่วยเขาในเรื่องของเซี่ยซี ไปส่งเธอสักหน่อยก็ได้

ทว่าเขายังไม่ทันจะลงจากรถ เขาเห็นลั่วจือเห้อเดินออกมาและนั่งยองๆลงข้างกายเธอ จากนั้นยกมือขึ้นและลูบศีรษะของเธอพลางเอ่ย "ขอโทษนะ"

เมื่อเฉินลู่ได้ฟังเสียงของลั่วจือเห้อ เขาสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที่ทุกข์ใจ

หญ้าข้างรัง[1] หมายถึง หาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน