เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 27

"คำพูดนั้น ฉันพูดแรงไปหน่อย ฉันจะไปส่งเธอกลับ" ลั่วจือเห้อลุกขึ้น พาสวีซุ่ยหนิงเดินไปยังลานจอดรถ

เฉินลู่มองดูชายหญิงที่อยู่ไม่ไกล ส่วนลึกภายในใจรู้สึกว่าระหว่างสวีซุ่ยหนิงและลั่วจือเห้อมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น

เพียงแต่ว่าเขานั้นไม่คาดคิดว่าอารมณ์ของลั่วจือเห้อจะสั่นคลอน

เขาละสายตากลับและขับรถจากไป

สองสามวันถัดมา สวีซุ่ยหนิงได้รับสายโทรศัพท์จากแม่สวี เธอบอกว่ามีเถ้าแก่คนหนึ่งสกุลเฉิน ได้นำตัวพ่อสวีย้ายไปยังโรงพยาบาลขนาดใหญ่

เธอเข้าใจแล้ว สำหรับการที่เธอผลักไสเซี่ยซี นี่คือ 'ค่าตอบแทน' ที่เฉินลู่มอบให้กับเธอ

สวีซุ่ยหนิงได้ยื่นเรื่องลาเพื่อที่จะกลับบ้าน โรงพยาบาลที่พ่อสวีพักรักษาตัวอยู่ในตอนนี้ ต่อให้สวีซุ่ยหนิงลำบากหาเงินทั้งชีวิตก็ไม่อาจจ่ายค่ารักษาได้

ระหว่างเธอและเฉินลู่นี่อาจเป็นการเจรจาธุรกิจที่คุ้มค่าที่สุด

สวีซุ่ยหนิงกล่าวขอบคุณเฉินลู่ ทว่าอีกฝ่ายไม่มีการตอบกลับ

เธอเองก็ไม่ได้ใส่ใจ เมื่อเธอกลับมา เธอต้องช่วยแบ่งเบาภาระแม่สวี ดังนั้นเวลาทั้งหมดเธอก็ใช้ไปกับการดูแลพ่อสวี

ประมาณหนึ่งสัปดาห์ถัดมา จางอวี้พูดกับเธอด้วยท่าทีมีลับลมคมใน "เฉินลู่และโจวอี้ไม่ได้แต่งงานกันแล้ว"

สวีซุ่ยหนิงชะงักและเอ่ยถาม "โจวอี้ทิ้งเฉินลู่อีกแล้วงั้นเหรอ?"

"เฉินลู่ทิ้งโจวอี้ค่ะรอบนี้" จางอวี้เอ่ย "เหตุผลน่ะฉันไม่รู้ แต่ฉันเดาว่าสิ่งที่ทำให้เฉินลู่มาถึงจุดนี้ได้อาจเป็นเพราะว่าโจวอี้แอบเล่นชู้กับผู้ชายคนอื่นอยู่ หล่อนทำลายความรู้สึกเขาจนพัง โจวอี้ไม่ทะนุถนอมความรู้สึกกันบ้างเลย เฉินลู่น่ะ เพื่อที่จะได้แต่งงาน เขายอมทำอะไรหลายอย่าง....."

ผู้ใดจะคาดคิด หลังจากการเลิกราในครั้งนั้น เฉินลู่ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน สวีซุ่ยหนิงเผอิญเจอกับหญิงสาวไม่ซ้ำหน้าที่นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้กับเฉินลู่

มีทั้งเน็ตไอดอล ดารา นางแบบ และเหล่าคนดังอีกมากมาย แต่ละคนดูโดดเด่นสะดุดตา

เฉินลู่นั้นเติบโตมาอย่างดี รูปร่างหน้าตาดี นิสัยดี ทั้งยังมีภูมิหลังครอบครัวที่เพียบพร้อม ก่อนหน้านี้การจีบเขานั้นเป็นเรื่องยาก ทว่าเมื่อเขาเป็นฝ่ายเริ่ม การจีบผู้หญิงกลับกลายเป็นเรื่องง่าย

การเปลี่ยนแปลงของเขา เธอรับรู้อยู่เสมอ แหล่งข่าวก็คือจางอวี้ เธอกล่าวว่าภายในระยะเวลาสามเดือน เขาเปลี่ยนผู้หญิงไปแล้วกว่าสิบคน

จุดเปลี่ยนระหว่างสวีซุ่ยหนิงและเฉินลู่ในเวลาสามเดือนนี้ก็คือเมื่อสัปดาห์ก่อน เขาตอบข้อความของเธอกลับมา : เธอคือใคร?

แชทด้านบนคือเธอส่งไปว่าขอบคุณ ขอบคุณที่เขาช่วยย้ายโรงพยาบาลให้กับพ่อของเธอ

สวีซุ่ยหนิงเดาว่าเขาอาจจะไม่ได้บันทึกชื่อเธอไว้ เธอจึงตอบชื่ออย่างตรงไปตรงมา หลังจากนั้นการติดต่อก็ถูกตัดขาดอีกครั้ง

ทว่าเมืองaนั้นกว้างใหญ่ ย่อมมีโอกาสได้พบกันเสมอ

สวีซุ่ยหนิงพบเจอเฉินลู่อีกครั้งในวันที่ฝนกำลังโหมกระหน่ำ

เธอเลิกงานและกำลังกลับบ้าน พลางมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง ฉับพลันก็เห็นร่างของเฉินลู่ ราวกับว่าเขามีเรื่องปะทะกับเจ้าของรถคันด้านข้าง ท่ามกลางสายฝน ร่างกายของเขาเปียกโชก ดวงตาของเขาเย็นยะเยือกและเขานิ่งเงียบไม่พูดจา

ข้างกายของเขามีหญิงสาวร่างสูงเพรียวยืนเคียงข้าง

เจ้าของรถคันตรงหน้ากำลังยืนก่นด่าสาปแช่ง

อย่างไรเสียเขาก็ช่วยพ่อสวีไว้ สวีซุ่ยหนิงจึงตัดสินใจลงจากรถและเข้าไปดูสถานการณ์ ทันทีที่เข้าไปใกล้ ในระยะสามเมตร เธอได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากร่างกายของเฉินลู่

ขณะนั้นเธอยังไม่รู้ว่าวันนี้คือวันหมั้นของโจวอี้ หลังจากที่เธอเลิกรากับเฉินลู่ ด้วยความเร็วแสงเธอรีบไขว่คว้าหาเฒ่าชราที่เพียบพร้อมไปด้วยเงินทอง ในเวลาเพียงสองสามเดือน ก็กำหนดวันแต่งงาน ระยะเวลาหลายปีที่คบหากับเฉินลู่ราวกับว่าเป็นเรื่องตลก

"สวัสดีค่ะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอคะ?" สวีซุ่ยหนิงกางร่มราคาสูงลิ่วที่เธอซื้อต่อมาจากคนขับแท็กซี่

ชายคนนั้นชี้ไปที่เฉินลู่และเอ่ย "เขาจงใจไล่ชนท้ายรถฉัน"

หญิงสาวเอ่ย "คุณมองผิดแล้ว คนที่ขับรถคือฉัน"

สวีซุ่ยหนิงรู้ถึงความร้ายแรงของการเมาแล้วขับ เธอเอ่ยกับคู่กรณี "งั้นทำข้อตกลงกัน"

เฉินลู่เงยหน้าขึ้นเพียงเล็กน้อย ชำเลืองมองเขาด้วยนัยต์ตาเย็นเยียบและยังคงนิ่งเงียบ

คู่กรณีกล่าว "เธอดูท่าทางเขาสิ....ถ้าเธอยินดีทำข้อตกลง งั้นก็ห้าหมื่นหยวน"

เงินจำนวนนี้ สวีซุ่ยหนิงไม่อาจจ่ายไหว ท้ายที่สุดเธอก็เอ่ยปากขอยืมจากจางอวี้ เธอคิดว่าหากพรุ่งนี้เฉินลู่ได้สติแล้วเธอค่อยขอเงินจากเขา

เมื่อคู่กรณีได้รับเงินแล้วเขาก็ไม่ก่อความวุ่นวายอีก เขาขับรถจากไปทันใด

สวีซุ่ยหนิงหันไปและมองหญิงสาวคนนั้นพลางเอ่ย "เธอเป็นเพื่อนเขาเหรอ?"

หญิงสาวคนนั้นเอ่ยเน้นย้ำ "เป็นแฟน"

เฉินลู่เอ่ยด้วยเสียงเย็นเยียบ "แฟนเหรอ?"

ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือด ดูอึดอัดเล็กน้อย จากนั้นเธอเรียกแท็กซี่และจากไป

สวีซุ่ยหนิงไม่มีทางเลือกอื่น เธอโน้มน้าวให้เฉินลู่ขึ้นรถ คาดเข็มขัดนิรภัยให้เขา เขาเอ่ยด้วยเสียงเย็นยะเยือก "ไสหัวไป"

"เป็นโจวอี้ที่ทำร้ายนาย ไม่ใช่ฉัน" สวีซุ่ยหนิงรู้สึกน้อยใจ ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาปจริงๆเลย ถ้าไม่ใช่ว่าเขาช่วยพ่อของเธอ เธอเองก็คงไม่เร่งรุดเข้ามายุ่งหรอก

เหมือนว่าเฉินลู่ถูกกระตุ้นด้วยคำว่าโจวอี้ เขายื่นมือออกไปและบีบคางเธอไว้อย่างสุดแรง เขาเอ่ยอย่างเย็นชา "เธอพูดอีกครั้งสิ?"

สวีซุ่ยหนิงนิ่งเงียบ เธอไม่อยากโต้เถียงกับคนเมา หลังจากนั้นไม่กี่นาที เขาก็ปล่อยมือ

เธอพาเขาเข้าไปยังคฤหาสน์ของเขา ภายในห้องนั้นเละเทะมาก เฉินลู่ถอดเสื้อผ้าที่เปียกโชกของเขา นั่งอยู่บนโซฟา ท่าทีของเขาดูเหินห่างและเย็นชา

สวีซุ่ยหนิงหากระดาษทิชชู่และซับใบหน้าให้เขาพลางเอ่ย "ห้าหมื่นหยวน อย่าลืมคืน...."

เฉินลู่คว้าผมของเธอไว้ด้วยมือข้างหนึ่งและดึงเธอไปด้านหน้าของเขา เขาอ้าปากแล้วกัดคอของเธอสุดแรง สวีซุ่ยหนิงรู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังถูกกัดหลอดลม เลือดสดรินไหลและตายไปในที่สุด

เธอร้องโอดครวญภายในใจ น้ำตาร่วงหล่นตามสัญชาตญาณความกลัว มือเธอนั้นพยายามไขว่คว้าสิ่งของและกระแทกเข้าที่ศีรษะของเขา

เฉินลู่ชะงักงัน เขายกเปลือกตาขึ้นและมองเธออย่างเย็นชา สายตานี้ทำให้สวีซุ่ยหนิงขนพองสยองเกล้า เธอรู้สึกได้ว่าเขาคลุ้มคลั่งมากกว่าเจียงเจ๋อเสียอีก

ฉับพลันประโยคที่เจ้าของรถกล่าว "เขาจงใจไล่ชนท้ายฉัน" ดังก้องภายในความคิด เมื่อนึกแล้วหัวใจของเธอก็รู้สึกหนาวไปถึงขั้วหัวใจ

สวีซุ่ยหนิงก่นด่าตัวเองภายในใจ จะไปยุ่งกับหมาบ้าแบบเขาทำไมกัน?

“เลือดคนมีรสชาติยังไง?” เธอได้ยินเสียงเขาที่ค่อยๆปล่อยร่างกายของเธอให้เป็นอิสระ หัวเราะเบาๆราวกับปีศาจ "ความตายนั้นรู้สึกยังไง?"

สวีซุ่ยหนิงตกใจจนไม่อาจขยับตัวได้ หัวใจของเธอสั่นสะท้าน รู้สึกได้ว่าฟันของเขานั้นสัมผัสกับผิวของเธออีกครั้ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเทา "เฉินลู่ ตอนนี้สังคมอยู่ภายใต้กฎระเบียบ"

เฉินลู่เฉยเมย วินาทีถัดมาสวีซุ่ยหนิงตัวแข็งทื่อ

เฉินลู่กำลังโลมเลียเธอ ลิ้นของเขากำลังเกี่ยวตวัดรอยประทับที่เขาฝังเขี้ยวไว้เมื่อครู่นี้ จากนั้นเกิดบางสิ่งที่ผิดปกติ มือของเขาไม่ได้คว้าผมเธอไว้อีกแล้ว ทว่ากลับเคลื่อนลงไปยังชายเสื้อของเธอ

"ไม่ได้อยากฆ่าเธอ" น้ำเสียงของเขายังคงเย็นชา “ฉันต้องการมีเซ็กส์กับเธอ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน