สวีซุ่ยหนิงคาดไม่ถึงว่าเฉินลู่จะดูค่อนข้างสงบ เขาค่อยๆ เปลี่ยนรองเท้าแล้วลุกขึ้นเดินไปที่ห้องนอน จากนั้นก็เตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองสบายๆ
เธอเดินตามเขาไปอย่างเงียบ ๆ และยืนมองเขาอยู่ที่หน้าประตู
เฉินลู่เห็นเธอจากหางตาจึงพูดเบาๆ ว่า "ความคิดเห็นของชาวเน็ตอย่าไปอ่านมาก"
สวีซุ่ยหนิงต้องการถามเขาว่าเจอเหตุการณ์อะไรมาบ้าง แต่พอคิดดูดีๆ แล้วจึงถามแค่เพียงว่า "นายจัดการเสร็จเรียบร้อยหรือยัง?"
"กำลังอยู่ระหว่างการจัดการ"
"คำค้นหายอดนิยมถูกลบโดยพ่อของนายใช่ไหม?"
"อืม"
“ทางด้านโรงพยาบาลไม่เป็นไรใช่ไหม?”
"อืม"
สวีซุ่ยหนิงนิ่งครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า "เฉินลู่ วันนี้นายพูดน้อยมาก"
เขาหยุดนิ่งไปขณะที่กำลังถอดเสื้อผ้า จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองอย่างรวดเร็ว แต่เขายังคงไม่พูดอะไรสักคำ เงียบจนผิดปกติ
สวีซุ่ยหนิงพูดว่า "จริงๆ ไม่ใช่แค่วันนี้เท่านั้น แต่ช่วงนี้ก็จะแทบจะไม่พูดอะไรเลย ฉันรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับนาย แต่ฉันไม่กล้าถามอะไรนายมาก"
เมื่อเฉินลู่ไม่พูดทั้งห้องก็ดูเงียบมาก และเธอก็รู้สึกว่าเวลาพูดเสียงของเธอสะท้อนกลับ
สวีซุ่ยหนิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “อันที่จริงนายอย่าคิดว่าการที่ไม่บอกฉันแล้วมันจะไม่ส่งผลกระทบต่อฉันนะ การที่นายไม่พูดมันจะทำให้ฉันเดาไปต่างๆ นานา ตอนที่อยู่บริษัทฉันคิดแต่เรื่องของนายจนไม่มีกะจิตกะใจทำงานเลย”
“เฉินลู่ หรือว่านายคิดว่าการบอกฉันมันไม่มีประโยชน์อะไร คิดว่ายังไงฉันก็ไม่เข้าใจนาย และยังไงก็ช่วยอะไรนายไม่ได้ ถึงยังไงฉันก็ไม่ใช่คนสำคัญอะไรสำหรับนาย”
หลังจากที่สวีซุ่ยหนิงพูดจบ เธอฝืนยิ้มและพูดเสริมไปอีกประโยค "ช่างมันเถอะ นายตรึกตรองเองสำคัญกว่า และฉันก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้จนส่งผลกระทบต่อนาย"
เฉินลู่เงยหน้ามองเธออย่างงุนงง
ตามปกติถ้าสวีซุ่ยหนิงพูดคำเหล่านี้ออกมาถ้าเขาไม่ง้อเธอ เธอก็ต้องโกรธจนหนีไปที่อื่น แต่วันนี้พฤติกรรมของทั้งสองคนค่อนข้างผิดปกติ ไม่มีการง้อหรือหนีไปอยู่ที่อื่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...