เฉินลู่ไม่ได้อยู่ที่นี่นานนัก เขารับโทรศัพท์หลังจากนั้นก็รีบเดินออกไปด้วยความรีบร้อน สวีซุ่ยหนิงไม่ได้เจอเขาอีกนับตั้งแต่นั้น
แต่เขาก็มักจะส่งข้อความมาหา มีบางครั้งที่เป็นเชิงบ่น เพียงแต่เธอตอบกลับข้อความของเขาไม่บ่อย
ครึ่งเดือนหลังจากนั้นเจ้านายก็ต้องการพบเธอ ถามเธอว่าเธออยากจะกลับไปประเทศบ้านเกิดหรือไม่ จากนั้นก็เอ่ยออกมาเป็นนัยๆ "ไม่เจอแฟนนานๆ ความรู้สึกจืดจางได้ง่ายนะ กลับไปดีกว่า"
เธอเอ่ยแบบนี้ สวีซุ่ยหนิงก็รู้ว่าอีกฝ่ายจะให้เธอย้ายไปประจำในประเทศ และมันจะต้องมีเฉินลู่คอยวิ่งเต้นอยู่เบื้องหลังแน่
ในตอนนี้นอกจากกลับประเทศ สวีซุ่ยหนิงก็ไม่มีทางออกอื่น ที่มาต่างประเทศก็เพราะต้องการซ่อนตัว แต่ตอนนี้โดนจับได้แล้ว จะอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศก็ค่าเท่ากัน ไม่สู้กลับไปอยู่ในประเทศให้สบายใจดีกว่า
แถมที่เธอกลัวก็คือเจียงเจ๋อ เพียงแต่หวังว่าเขาจะไม่รู้ว่าเธอนั้นไปอยู่ที่ไหน
ให้เทียบชีวิตหลายเดือนมานี้กับตอนที่เพิ่งลาออกจากงาน เรียกได้ว่าตอนนี้ได้ผ่านการไตร่ตรองมาอย่างหนักแล้ว นับเป็นช่วงที่สวีซุ่ยหนิงสบายที่สุด มาที่นี่เพราะมาเที่ยวเป็นเพื่อนซ่งเยี่ยนที่เพิ่งเรียนจบ ห้องที่เช่าไว้ก็ยังอยู่ไม่ครบค่าเช่าสามเดือนที่จ่ายไปด้วยซ้ำ สวีซุ่ยหนิงก็เก็บกระเป๋าเตรียมกลับประเทศ
หลังจากที่ดำเนินเรื่องเอกสารเสร็จ สวีซุ่ยหนิงถึงได้ทราบว่าเพื่อนที่เรียนปริญญาตรีมาด้วยกันกับเธอก็ทำงานอยู่ที่นี่ ตอนอีกฝ่ายเห็นเธอก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ: "สวีซุ่ยหนิง?"
เธอมองผู้หญิงคนนั้นครู่หนึ่ง ก็ออกว่าเป็นเพื่อนที่พักอยู่ห้องข้างๆ ตัวเองสมัยเรียน: "สวัสดี"
อีกฝ่ายเอ่ย: "ไม่ได้ข่าวเธอตั้งนาน คบกับเฉินลู่เป็นยังไงบ้าง ตั้งใจว่าจะแต่งงานกันตอนไหน?"
สวีซุ่ยหนิงคิดอยู่แป๊บหนึ่ง ก็เดาว่าน่าจะเป็นข่าวตอนงานแต่งงานของรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่ง ตอนนั้นเฉินลู่ไปงานแต่งเป็นเพื่อนเธอ
"เลิกกันนานแล้วล่ะ" เธอตอบไปตามตรง
อีกฝ่ายชะงักไปเล็กน้อย แล้วเอ่ย: "เมื่อกี้ตอนเห็นเธอ ฉันก็นึกถึงตอนที่เห็นเขามาที่นี่เพื่อเชิญเจ้านายไปกินข้าว ฉันนึกว่าเขาทำแบบนั้นเพื่อเธอเสียอีก"
สวีซุ่ยหนิงขมวดคิ้ว ไม่ตอบอะไร
เพื่อนสมัยเรียนเห็นว่าเธอไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เท่าไหร่ จึงรีบเปลี่ยนเรื่อง: "พวกเราเป็นเพื่อนเก่ากัน ได้มาเจอกันอีกถือว่ามีดวงต่อกัน ทีหลังก็มาเจอกันอีกนะ"
สวีซุ่ยหนิงพยักหน้า
เพื่อนเก่าถ้าค่อนข้างสนิทกัน อย่างนั้นก็ค่อนข้างสะดวก อย่างน้อยก็สามารถอำนวยความสะดวกให้สวีซุ่ยหนิงได้หลายด้าน
พอย้ายมาทำงานในประเทศเธออยู่ในตำแหน่งฝ่ายขาย ฝ่ายขายของบริษัทนี้เสียแต่ต้องไปต่างเมืองบ่อย แต่ว่าสวัสดิการกับรายรับค่อนข้างดี บางคนหนึ่งเดือนมีรายได้ประมาณสองแสนหยวน สิ้นปีมีโบนัสประมาณหนึ่งล้านสามแสนหยวน เฉลี่ยแล้วมีรายรับประมาณสามล้านหยวนก็มี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...