เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 1030

ตอนที่ 1030: ซาร์ ไคยุน

เจี้ยนเฉินลอยอยู่เหนือเมืองแห่งเทพเจ้าในขณะที่เขามองเมืองที่คุ้นเคยเล็กน้อย เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตอนที่เขาอยู่ที่นี่ครั้งล่าสุด และคิดถึงความทรงจำขึ้นมา

“ตระกูลทั้งแปดของเมืองแห่งเทพเจ้า ตระกูลซาร์ ข้า เจี้ยนเฉินกลับมาแล้ว ในตอนนั้น เจ้าส่งจอมยุทธเหล่านั้นทั้งหมดมาเพื่อโจมตีข้าและเกือบจะได้ชีวิตของข้าไป วันนี้ ข้าจะเอาเมืองของพวกเจ้า” เจี้ยนเฉินพูดเสียงทุ้ม ตาของเขาเย็นชาในขณะที่เขาพูด และพลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลก็เริ่มเปล่งรัศมีออกมาจากเขา มันครอบคลุมไปทั่วทั้งเมือง และภายในนั้นก็เป็นจิตต่อสู้ที่ออกมาอย่างไม่ปิดบัง

หลายปีที่ผ่านมา เจี้ยนเฉินต้องไปมาในเมืองอย่างระมัดระวังเนื่องด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนั้น มีจอมยุทธมากมายที่เขาไม่สามารถยุ่งด้วยได้ แต่ในวันนี้ เขาสามารถไปมาได้อย่างโจ่งแจ้งในเมือง และท้าทายอำนาจของเมืองหลวงของทวีปได้

พลังแห่งการมีอยู่ของเจี้ยนเฉินทำให้คนทั้งหมดในเมืองรู้ตัว ทุกคนสัมผัสมันได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะความแข็งแกร่งแค่ไหน คนที่อ่อนแอกว่าก็รู้สึกเหมือนมีหินใหญ่กดทับลงไปที่หน้าอกของพวกเขาและยากที่จะหายใจได้

“เป็นพลังแห่งการมีอยู่ที่ยิ่งใหญ่อะไรแบบนี้ ใครเป็นเจ้าของพลังนี้กันนะ พวกเขากำลังท้าทายเมืองนี้อยู่…” เสียงหลายเสียงดังขึ้นมารอบ ๆ เมือง ในขณะที่ถนนที่ว่างเปล่าก็เต็มไปด้วยผู้คนอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้เอง ทุก ๆ คนรีบออกมาจากบ้านของพวกเขา และบางคนยังขึ้นไปบนหลังคาเพื่อจะได้มองดูขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วย

หัวหน้าตระกูลของตระกูลทั้งแปดลืมตาขึ้นมาพร้อมกันและจ้องออกไปข้างนอกจากที่ที่พวกเขาฝึกฝนอยู่ พวกเขาไม่ลังเลและลุกขึ้นและหยุดฝึกฝน พวกเขาบินออกไปอย่างรวดเร็ว

ประธานของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงนั่งอยู่บนเตียงในห้องที่หรูหราที่อยู่ชั้นบนสุดที่จุดกึ่งกลางของสมาคมที่เหมือนปราสาท

ทันใดนั้นเอง เขาก็ลืมตาเปิดขึ้นเมื่อพลังแห่งการมีอยู่มหาศาลพุ่งเข้ามาจากด้านนอก เขามองไปที่ทิศทางที่พลังแห่งการมีอยู่พุ่งเข้ามาผ่านทางหน้าต่างและขมวดคิ้วทันที เขาพึมพำเสียงทุ้ม “เป็นพลังแห่งการมีอยู่ที่ทรงพลังอะไรแบบนี้ เจ้าของพลังต้องเป็นเซียนราชาเป็นอย่างน้อยแน่ และมันยังมีจิตต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่อยู่ในพลังนั้นอีก จิตต่อสู้นี้ยิ่งใหญ่มาก มีน้อยคนนักในทวีปที่จะมีจิตต่อสู้แบบนี้ แปลกจริง คนผู้นี้เป็นใครกัน ? เห็นได้ชัดว่า เขากำลังท้าทายตระกูลซาร์ด้วยการปล่อยจิตต่อสู้ออกมาอย่างโจ่งแจ้ง แต่ข้าจำไม่ได้ว่าตระกูลซาร์ได้เคยไปทำให้จอมยุทธที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้โกรธมาก่อน” ความสงสัยเต็มอยู่ในใจของเขา

ในตอนนี้ ประตูก็ถูกผลักเปิดออก ผู้อาวุโสสูงสุดของสมาคมเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างเคร่งเครียดและเริ่มพูดทันทีที่เขาเข้ามา “คนผู้นี้ต้องมาเพื่อสร้างปัญหาให้ตระกูลซาร์แน่ พวกเขาไม่ได้อ่อนแอด้วย ประธาน พวกเราน่าจะไปดูด้วยเช่นกัน มาหวังกันว่าพวกนั้นจะทำให้ตระกูลซาร์บาดเจ็บหนักและลดความกดดันที่สมาคมกำลังเผชิญอยู่ได้”

ประธานสัมผัสอย่างตั้งใจไปที่พลังแห่งการมีอยู่และคิด แววแห่งความสงสัยปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของเขา “แปลกจริง ทำไมข้าถึงได้รู้สึกว่าพลังแห่งการมีอยู่นี้มันคุ้นจัง เหมือนว่าข้าเคยพบกับคนนี้ที่ไหนมาก่อน แต่เซียนราชาที่น่าประทับใจที่ข้าเคยติดต่อด้วยก็ไม่มีใครที่เทียบกับพลังแห่งการมีอยู่นี้ได้ มันแปลกจริง ๆ คนผู้นี้เป็นใครกันนะ ? “

ท่าทางของผู้อาวุโสสูงสุดเปลี่ยนไปหลังจากนั้น แววแห่งความสงสัยปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของเขา “ตอนที่ท่านบอกแบบนั้น ข้าก็รู้สึกว่าคุ้นเคยกับพลังแห่งการมีอยู่นี้ด้วย แต่ข้าคิดไม่ออกว่าเป็นใคร ประธาน เมื่อเราไม่รู้ว่านี่คือใคร ทำไมเราไม่ไปดูว่าคนคนนี้คือใครด้วยกันล่ะ ? “

หลังจากนั้น ประธานและผู้อาวุโสสูงสุดก็ออกจากสมาคมไปด้วยกันพร้อมกับเซียนผู้คุมกฎอีกหลายคน พวกเขาพุ่งออกไปยังทิศทางที่มีพลังแห่งการมีอยู่เหมือนสายฟ้า

ชายชราที่ดูธรรมดามากกำลังเช็ดโต๊ะและชั้นหนังสือเพียงอันเดียวอยู่ในหอคอยพลังเซียนธาตุแสงของสมาคม ทันใดนั้นเอง ชายชราก็หยุดและตาของเขาก็ระเบิดเป็นประกายทันที เขาพึมพำ “ดูเหมือนว่าเมืองแห่งเทพเจ้ากำลังจะมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ข้าสงสัยจริงจริงว่าจอมยุทธคนไหนที่ถูกตระกูลซาร์ทำให้โกรธ” หลังจากนั้น ชายชราก็หายไป เขาเปลี่ยนเป็นภาพราง ๆและออกไปจากหอคอยดวยความเร็วแสงในขณะที่เขาบินไปที่ทิศทางที่มีพลังแห่งการมีอยู่นั้น

เจี้ยนเฉินและคนอื่นลอยอยู่อย่างเงียบ ๆ หลายพันเมตรกลางอากาศเหนือตระกูลซาร์ หลังจากนั้นไม่นาน พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลหลายดวงก็ปรากฏขึ้นรอบ ๆ พวกเขาเคลื่อนที่ไวมากและมาล้อมเจี้ยนเฉินเอาไว้ในเวลาไม่กี่วินาทีต่อมา พวกเขาอยู่ห่างออกไปร้อยเมตร

เซียนผู้คุมกฎเป็นหัวหน้าตระกูลของผ่าทั้งแปด พวกเขาทั้งหมดเคร่งเครียดและจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างระมัดระวัง ไม่มีใครกล้าที่จะบุ่มบ่าม ในขณะที่พวกเขาบอกได้เพียงว่า ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขานี้เป็นเซียนราชาจากพลังแห่งการมีอยู่ของชายหนุ่มนี้เพียงคนเดียว พวกเขาไม่กล้าที่จะไปยั่วยุชายหนุ่มคนนี้

“ข้าขอถามชื่อของผู้อาวุโสและอะไรที่ทำให้ท่านเกิดความเข้าใจผิดกับเมืองแห่งเทพเจ้าของพวกเราถึงได้ทำให้ผู้อาวุโสโกรธขนาดนี้ได้หรือไม่ ? ” หัวหน้าตระกูลป้องมือไปที่เจี้ยนเฉินในขณะที่เขาถามด้วยน้ำเสียงที่สุภาพมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ