เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 1032

ตอนที่ 1032: สู้กับซาร์ ไคยุน (2)

สายตาของเจี้ยนเฉินจ้องเขม็งทันที แม้ว่าการโจมตีของซาร์ ไคยุนจะไม่ได้ดูรุนแรงแต่อย่างใด แต่มันก็ทำให้การระวังตัวของเจี้ยนเฉินเพิ่มขึ้นอย่างมาก เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกคุกคาม ความแข็งแกร่งของนางเหนือกว่าเขามาก

“ให้ข้าจัดการกับนาง ! ” เจี้ยนเฉินตะโกนออกไปเพื่อหยุดรุยจินและคนอื่น ๆ จิตต่อสู้จากเขาทรงพลังมากยิ่งกว่าเดิม และรวมกับปราณกระบี่ที่พุ่งพวยขึ้นด้วย ซาร์ ไคยุนนั้นแข็งแกร่งมากแต่นางก็ไม่ได้เป็นอมตะ

สายพลังบรรพกาลหลั่งออกมาจากปราณของเจี้ยนเฉิน มันเต็มไปทั่วทุกส่วนในร่างกายของเขาในทันที เขาเพิ่มร่างบรรพกาลจนถึงขีดสุด

ทุก ๆ สายของบรรพกาลควบแน่นมากจากพลังงานปริมาณมหาศาล โดยเฉพาะร่างบรรพกาลของเจี้ยนเฉินที่อยู่ในขั้นที่สาม สายพลังเพียงสายเดียวเทียบเท่ากับพลังงานทั้งหมดที่คนที่เพิ่งได้เป็นเซียนราชาจะสามารถควบแน่นได้ ซึ่งนี้เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพลังบรรพกาลของเจี้ยนเฉินจึงถูกใช้ไปน้อยมากเมื่ออยู่ในการต่อสู้ ถ้าเขาใช้มันเพื่อเพิ่มการป้องกันของร่างกาย อัตราการใช้พลังงานจะเกือบไม่มีเลย

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิในมือของเจี้ยนเฉินเริ่มสั่นไหวเล็กน้อย และด้วยการสั่นอย่างนุ่มนวลของกระบี่ มันก็โจมตีออกไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง เขาส่งมันออกไปเพื่อรับดาบของซาร์ ไคยุนอย่างไม่เกรงกลัว

“เจี้ยนเฉิน คู่ต่อสู้ของเจ้าอยู่ในระดับสูงสุดของชั้นสวรรค์ที่ 8 และกำลังจะเป็นชั้นสวรรค์ที่ 9 แล้ว ระวังให้มาก” เสียงของรุยจินดังขึ้นมาในหัวของเจี้ยนเฉินทันที เขามองทะลุความแข็งแกร่งของซาร์ ไคยุนได้เพียงแค่มองปราดเดียว ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงเตือนเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินเคร่งเครียดมากกว่าเดิม ด้วยการที่เขามียุทธภัณฑ์จักรพรรดิ เขาสามารถแสดงความแข็งแกร่งได้เท่ากับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าจากระดับการฝึกฝนของซาร์ ไคยุนอยู่ 1 ขั้น

ทั้งสองคนปะทะกันหลายครั้งด้วยความเร็วดุจสายฟ้า การปะทะกันของพวกเขานั้นตึงเครียดมาก และการเคลื่อนไหวของพวกเขาก็น่าประทับใจ ทุกครั้งที่ปะทะกัน มันก็เหมือนการปะทะกันของโลกซึ่งทำให้เกิดเสียงดังและทำลายมิติรอบ ๆ ไปทั่ว พลังงานที่รุนแรงและชิ้นส่วนของปราณกระบี่กระจัดกระจายไปทุกทิศทาง ทำให้เซียนผู้คุมกฎทั้งหมดถอยไปอย่างต่อเนื่องเพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่กำลังเกิดขึ้น

เมืองแห่งเทพเจ้าเป็นหนึ่งในเจ็ดเมืองหลวงของทวีป มันมีอยู่มานับปีไม่ถ้วนแล้วและเคยประสบกับการต่อสู้เมื่อครั้งโบราณกาลมาก่อน อย่างไรก็ตาม มันก็ยังอยู่ได้จนทุกวันนี้ เนื่องจากพลังการป้องกันของมัน ในตอนนี้ ม่านพลังขนาดมหึมาก็ปรากฏขึ้นในท้องฟ้าเหนือเมืองและป้องกันปราณกระบี่และพลังงานที่เหลืออยู่ที่กระเด็นออกมาจากการต่อสู้ การป้องกันของมันเทียบไม่ได้กับเมืองทหารรับจ้าง แต่การโจมตีของเจี้ยนเฉินและไคยุนก็ไม่ได้ทำให้มันสั่นสะเทือนได้

ในตอนนี้ ถนนทั้งหมดและตรอกซอกซอยทั้งหมดไม่ว่าจะเล็กใหญ่ก็เต็มไปด้วยผู้คน กลุ่มคนได้มารวมตัวกันที่ยอดของสิ่งปลูกสร้างพร้อมเงยหน้าขึ้นบนท้องฟ้า ในขณะที่พวกเขาจ้องตาไม่กระพริบเพื่อดูการต่อสู้ระหว่างสองจอมยุทธที่สุดยอด เสียงเซ็งแซ่ดังขึ้นมาไม่หยุด

เจี้ยนเฉินถอยกลับอย่างรวดเร็วและตกอยู่ในความเสียเปรียบเล็กน้อย แม้ว่าซาร์ ไคยุนจะมีร่างที่ผอมบางของผู้หญิง แต่การโจมตีของนางแต่ละครั้งก็เต็มไปด้วยพลังที่ใหญ่หลวงและเพียงพอที่จะทำลายล้างรอบ ๆ ได้

รุยจิน เฮยยู่ และหงเหลียนจ้องตาไม่กระพริบไปที่เจี้ยนเฉิน พวกเขาพร้อมที่จะเข้าแทรกแซงทุกขณะ เจี้ยนเฉินเป็นความหวังเดียวของพวกเขาที่จะทำให้พวกเขาได้พบกับสหายร่วมตระกูลอีกครั้ง ดังนั้นพวกเขาจึงเห็นชีวิตของเจี้ยนเฉินสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด

ในขณะเดียวกันก็มีกระท่อมไม้เล็กแปลกตาที่ตั้งอยู่บนยอดเขาในแนวภูเขาโบราณที่อยู่ห่างออกไปหลายหมื่นเมตรจากเมือง แผ่นไม้ส่งเสียงเอี้ยดอ้าดในขณะที่พวกมันโต้ลมที่รุนแรงอยู่ มันเหมือนกับว่าโครงสร้างสามารถพังทลายได้ทุกขณะ

ชายวัยกลางคนในชุดขาวที่ดูกล้าหาญนั่งหลับตาอยูในกระท่อมในขณะที่เขากำลังฝึกฝน เขาเหมือนพระแก่ที่สามารถนั่งโดยไม่ขยับเขยื้อนได้เป็นเวลานาน

ทันใดนั้นเอง ตาของชายชราก็เปิดขึ้น แสงที่มองเห็นได้ถูกยิงออกมาจากตาของเขา ทำให้มิติที่เขาจ้องมองอยู่สั่นไหวเล็กน้อย

ตาของชายคนนี้สดใสมากในขณะที่เขาจ้องไปที่ทิศทางของเมืองแห่งเทพเจ้าด้วยความสนใจ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและพึมพำเขาเบา ๆ “มีการต่อสู้เกิดขึ้นในเมืองแห่งเทพเจ้า หนึ่งในนั้นเป็นพลังแห่งการมีอยู่ของไคยุน เกิดอะไรขึ้นกันนะ ? “

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ