เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 11

Chaotic Sword God ตอนที่ 11 สำนักคากัต

ไป๋หยุนเทียนลูบศีรษะเจี้ยนเฉินด้วยท่าทีที่เต็มไปด้วยความรัก นางค่อย ๆ เดินตรงไปข้างหน้า “พี่สาม นี่ล้วนเป็นการเล่นต่อสู้กันระหว่างเด็กสองคน ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราควรจะต้องวิตกกังวล มันไม่มีประโยชน์หากจะโกรธ ถึงอย่างไรพวกเขานั้นก็เป็นเพียงแค่เด็ก ในตอนนี้ พวกเราที่พวกเราควรจะสนใจคือการรักษาบาดแผลของเค่อเอ๋อ”

ด้วยคำพูดของไป๋หยุนเทียน ถึงยังไงก็ตามความโกรธจะยังคงมีอยู่ หยูเฟิงหยานได้แต่พลุ่งพล่านด้วยความโกรธอย่างเงียบ ๆ นางกลัวว่าถ้านางยังคงโวยวายทุกคนเกี่ยวกับการกระทำของเด็กเล็ก ๆ ดังกล่าว พี่น้องทั้งสามคนจะมองว่านางเป็นคนไม่ดี

ไป๋หยุนเทียนเดินไปหาเจียงหยางเค่อซึ่งเอนหลังอยู่ นางหลับตาและนำมือทั้งสองข้างของนางวางเหนือบาดแผลเด็กชาย มือของนางวนเวียนอยู่ที่นั่นสักครู่ก่อนที่แสงสีขาวเรืองจาง ๆ จะปรากฏขึ้น

ดวงตาของเจี้ยนเฉินทอประกายด้วยความสนใจ เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังพิเศษบางอย่างค่อย ๆ รวมกันอยู่ในมือของมารดาเขา รวมตัวเป็นแสงสีขาวจาง ๆ นอกจากนี้พลังพิเศษประเภทนี้เป็นอำนาจเดียวกันกับที่เป็นที่ต้องการ การรวบรวมพลังเป็นลูกบอลแสงเช่นนี้ บางทีเขาอาจจะทำมันได้ในไม่ช้า

เจี้ยนเฉินเริ่มที่จะให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวของมารดาของเขา และในการกระทำเช่นนั้นเขาก็ตระหนักว่าเขาไม่แน่ใจ ถ้าเขาสามารถที่จะเข้าใจวิธีการที่คล้ายคลึงของมารดาเขาในการถ่ายเทพลังงาน อย่างไรก็ตาม เขาก็ค้นพบว่าหากอายุที่เพิ่มขึ้นก็จะมีความสามารถในการผสานความแข็งแกร่งของโลกนี้ได้อย่างซับซ้อน

ประกายแสงสีขาวในมือของไป๋หยุนเทียน ส่องประกายมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่อย่างไรก็ตาม แสงนั่นกลับไม่ระคายเคืองตา หลังจากไม่กี่ลมหายใจ นางสะบัดแขนของนางและประกายแสงสีขาวด้านซ้ายมือของนางก็ลอยลงไปบริเวณท้องของเจียงหยางเค่ออย่างช้า ๆ กลืนกินบาดแผลทีละน้อย ผ้าพันแผลสีขาวที่มีอยู่แล้วบดบังมุมมองของเจี้ยนเฉินว่าสิ่งที่ลูกบอลพลังงานสีขาวนั้นได้ทำลงไปและการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น

หลังจากความพยายามอย่างหนักของนางเสร็จสิ้น ไป๋หยุนเทียนผ่อนลมหายใจอย่างช้า ๆ “น้องสาม เจียงหยางเค่อสบายดีแล้ว ในตอนนี้ไม่มีบาดแผลปรากฏอีกต่อไป”

รอยยิ้มที่มีความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยูเฟิงหยาน นางกล่าวขอบคุณไป๋หยุนเทียนสั้น ๆ ก่อนที่จะก้าวไปข้างเตียงของเจียงหยางเค่ออย่างรวดเร็ว นางแสดงความห่วงใยต่อบุตรชายของนางและถามว่า “เค่อเอ๋อ ตอนนี้เจ้ารู้สึกเป็นอย่างไร แผลของเจ้ายังคงเจ็บอยู่หรือไม่? “

เจียงหยางเค่อยกมือขึ้นมาแตะที่บริเวณท้องของเขาและหัวเราะ ก่อนที่จะเริ่มฉีกผ้าพันแผลของเขาออก “ท่านแม่ ในตอนนี้ ลูกสบายดีเป็นอย่างมาก “

หลังจากผ้าพันแผลเปิดออก ก็เป็นที่ชัดเจนว่าแผลบนท้องของเจียงหยางเค่อหายไป เหลือเพียงรอยเลือดขนาดย่อมที่ยังคงอยู่ แต่นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีริ้วรอยบาดแผลหลงเหลืออยู่เลย

เมื่อเห็นนี้ ทันใดนั้นเจี้ยนเฉินก็เข้าใจ พลังงานลึกลับประเภทนี้เป็นพลังธาตุที่หาได้น้อยของเซียนธาตุแสง ที่ซึ่งพลังงานของพวกเขามีผลการรักษาที่พิเศษซึ่งสามารถรักษาอาการบาดเจ็บใดก็ตามได้ไม่ว่าจะร้ายแรงเพียงใด ภายใต้การดูแลของเซียนธาตุแสง ไม่ว่าบาดแผลใด ๆ ก็จะได้รับการเยียวยาอย่างรวดเร็ว ในเมื่อแม่ของเขาเป็นเซียนธาตุแสง นางก็สามารถที่จะใช้พลังงานธาตุแสงนี้ ตำนานกล่าวว่าเซียนธาตุแสงบางคนที่แข็งแกร่งมากถึงกับสามารถสร้างแขนของใครบางคน หรือแม้แต่กระทั่งชุบชีวิตคนที่ตาย

ภายในหัวเจี้ยนเฉิน เขาลอบคิด หากเขาสามารถที่จะเข้าใจและดูดซับพลังงานถึงระดับเซียนธาตุแสง เขาอาจสามารถที่จะเป็นเหมือนมารดาของเขาและใช้พลังงานธาตุแสงในการเยียวยาบาดแผล

ขณะที่เขาคิดเช่นนี้ มันช่วยไม่ได้ที่เจี้ยนเฉินจะรู้สึกกระวนกระวายใจและอยากที่จะทดสอบมันออกมา อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดเขาก็ยังต้องทนต่อสิ่งล่อใจ เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันของเขามันไม่เหมาะสมสำหรับการทดลองนี้

ในขณะที่ประตูห้องเปิดกว้าง เจี้ยนเฉินเหลือบมองไปที่คนที่เดินเข้ามาด้วยกัน; มันเป็นบิดาของเขา เจียงหยางป้าและพ่อบ้านตระกูลเจียงหยาง เจียงไป่

“เค่อเอ๋อเป็นอย่างไร อาการบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ ? ” เจียงหยางป้าถามด้วยน้ำเสียงวิตกกังวล

“ข้าขอบคุณท่านพี่ที่เอาใจใส่ แต่น้องสี่รักษาบาดแผลเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เค่อเอ๋อสบายดี” ใบหน้าหยูเฟิงหยานเผยให้เห็นรอยยิ้ม เจียงหยางป้าได้แสดงความใส่ใจบางอย่างสำหรับบุตรชายของเขา ดังนั้นนางจึงรู้สึกมีความสุข

“เช่นนั้นก็ดีแล้ว!” เจียงหยางป้าพยักหน้าและมองไปที่เจี้ยนเฉิน “เซียงเอ๋อ หลายวันผ่านมานี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ?” แม้เมื่อพูดคุยกับเจี้ยนเฉินความใส่ใจนั้นก็ยังคงอยู่

“ข้าขอบคุณสำหรับความเอาใจใส่ของท่านพ่อ ลูกชายของท่านสบายดี” น้ำเสียงเจี้ยนเฉินนั้นยังคงเหมือนเดิม นับตั้งแต่การสิ้นสุดของการทดสอบพลังเซียน นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงหยางป้าและเจี้ยนเฉินได้พูดคุยกัน

ได้ยินเจี้ยนเฉินกล่าวสั้น ๆ เช่นนั้น มันช่วยไม่ได้ที่เจียงหยางป้าจะลอบถอนหายใจกับตัวเอง “เซียงเอ๋อ เจ้าจงตามพ่อมาที่ห้องทำงาน” เจียงหยางป้ากล่าวจบ ก็เดินออกไปจากห้องพัก

เจี้ยนเฉินติดตามเจียงหยางป้าและเจียงไป่ไปยังห้องทำงานในทันที ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ เจียงหยางป้าจ้องมองเจี้ยนเฉินสักพักก่อนที่จะถามเขาว่า “เซียงเอ๋อ ข้าได้ยินมาว่า เมื่อในตอนเช้าเจ้าทำร้ายบ่าวรับใช้ที่ชื่อซิ่วเอ้อในโรงครัว.”

“นั่นคือความจริง !” เฉินเจี้ยนได้ตระหนักแล้วว่าพลังที่แท้จริงของเขาได้รับการเปิดเผยแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่อาจปกปิด

แววตาของเจียงหยางป้าเต็มไปด้วยความสุข ขณะที่เขาหัวเราะและกล่าวเบา ๆ ว่า “เซียงเอ๋อ? ทำไมเจ้าไม่บอกพ่อว่าเจ้าสามารถบ่มเพาะพลังเซียนได้”

เจี้ยนเฉินพยักหน้าอย่างแผ่วเบาและก่อนจะตอบออกมาอย่างกลาง ๆ “ใช่ !” เขารู้ดีว่าไม่มีทางที่เขาจะปกปิดข้อเท็จจริงนี้ เขาจึงยอมรับในคำตอบนั้นอย่างตรงไปตรงมา

แม้ว่าเขาจะคาดเดาแล้วว่า เจี้ยนเฉินสามารถบ่มเพาะพลังเซียนได้ แต่การได้ยินมันจากปากของเจี้ยนเฉินเองนั้น มันทำให้เจียงหยางป้าอารมณ์ดี

“เจียงไป่ เป็นไปได้ไหม ที่จะทดสอบพลังเซียนของเซี่ยงเอ๋ออีกครั้ง” เจียงหยางป้าก็มีความสุขในขณะนี้เป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังพูดกับเจียงไป่อย่างสุภาพ ไม่ใช่ทุกคนที่ผู้นำตระกูลจะพูดด้วยถ้อยคำเช่นนี้กับพ่อบ้านเพื่อให้ทำบางสิ่งบางอย่าง

แต่เจียงไป่เพียงแค่เพียงหัวเราะและโบกมือที่มีแหวนมิติของเขา มีหินศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเจี้ยนเฉิน “นายน้อยสี่ โปรดวางมือที่ด้านบนของหิน !” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น

ขณะที่เจี้ยนเฉิน วางมือของเขาบนหินศักดิ์สิทธิ์ เจียงไป่กระตุ้นอะไรบางอย่างในนั้น ในทันที ที่มันเริ่มต้นเจี้ยนเฉินรู้สึกอีกครั้งว่าพลังปริศนาบางอย่างที่ถูกปล่อยออกมาจากหินศักดิ์สิทธิ์ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาผ่านทางแขนของเขา มันไหลวนเป็นวงกลมก่อนที่จะกลับไปยังหินศักดิ์สิทธิ์ ในเวลาเดียวกันมีเพียงสิ่งเดียวที่เห็นจากภายในหินนั้นก็เปล่งแสงเรืองแสงสีแดงจาง ๆ

เห็นประกายแสงสีแดง เจียงหยางป้าแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ตื่นเต้น แม้แต่เจียงไป่ ขณะนี้มีก็มีรอยยิ้มจาง ๆ และเขามองไปที่เจี้ยนเฉิน ความพอใจปรากฏอยู่บนใบหน้าเขา

“เรียนท่านผู้นำตระกูล จากการเปล่งแสงนั้น แสดงให้เห็นว่านายน้อยสี่ก้าวถึงพลังเซียนระดับสี่แล้ว” เจียงไป่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มบาง ๆ

“ระดับที่สี่ …. ระดับที่สี่ ” เจียงหยางป้าค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ของเขาและด้วยความตื่นเต้น เขากำมือแน่น ก่อนหน้านี้เขาได้สงสัยมัน แต่นั่นมันก็เป็นแค่การคาดเดา แต่ตอนนี้เขารู้ว่าสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริง เขามีความรู้สึกแปลกใหม่ในจิตใจของเขา

เจี้ยนเฉินได้ก้าวถึงพลังเซียนขั้นที่ 4 ด้วยอายุเพียง 7 ขวบ แม้ว่าบางทีระดับนี้ไม่ได้โดดเด่นมากเมื่อเทียบกับทั้งทวีปเทียนหยวน แต่ภายในอาณาจักรเกอซุนนี้ก็เพียงพอที่จะมีคุณสมบัติเป็นอัจฉริยะชั้นนำ นอกจากนี้ พลังเซียนของเจี้ยนเฉินยังล้ำหน้าพี่สามของเขา เจียงหยางเค่อ ซึ่งอายุมากกว่าเขา 3 ปี ขึ้นมาถึงระดับสี่

เจียงไป่เก็บหินศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งในแหวนมิติของเขา เขายิ้มด้วยความพึงพอใจ “นายน้อยสี่ ท่านไม่ได้ทำให้ข้าผิดหวังจริง ๆ”

เจียงหยางป้าสงบใจอย่างรวดเร็วและเหลือบมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์ ดวงตาของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความประหลาดใจ, ความตื่นเต้น และความรู้สึกขอบคุณ

จนกระทั่งที่เจี้ยนเฉินออกจากห้องทำงาน มันก็เป็นเวลาเกือบเที่ยง ทันใดนั้นหลังจากเจี้ยนเฉินออกไป เจียงหยางป้ามองที่เจียงไป่และด้วยน้ำเสียงสงสัยเล็กน้อย เขากล่าวว่า “เจียงไป่ ในเมื่อเซี่ยงเอ๋อมีพลังเซียน แล้วทำไมตอนที่เขาได้รับการทดสอบ มันไม่พบ? จนกระทั่งมันทำให้ข้าคิดว่าเซี่ยงเอ๋อนั้นไม่สามารถบ่มเพาะพลังเซียน “

เจียงไป่ขมวดคิ้วของเขาและหลังจากขบคิดเกี่ยวกับมันอย่างช้า ๆ กล่าวว่า “ข้าไม่แน่ใจ บางทีอาจจะเป็นการทดสอบพลังเซียนในครั้งนั้นมีบางอย่างที่ผิดพลาด แต่นี่มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ