เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 1214

ตอนที่ 1214: ท่านประธานหนักใจ

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเมืองหลวงของทวีป เมืองแห่งเทพเจ้านั้นคึกคักมาก คนส่วนใหญ่ที่เดินไปเดินมาที่ถนนต่างเป็นพ่อค้าที่ร่ำรวยและลูกหลานของตระกูลใหญ่ มีเพียงบางครั้งบางคราวเท่านั้นที่จะมีพ่อค้าที่ดูมอซอปรากฎขึ้นในฝูงชน

ไม่เพียงแต่เมืองแห่งเทพเจ้าจะเป็นอาณาเขตของหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ ตระกูลซาร์ที่ควบคุมทั้งจักรวรรดิเท่านั้น มันยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงอีกด้วย ไม่เพียงแต่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงส่วนมากของทวีปจะมารวมกันอยู่ที่นี่เท่านั้น มันยังเป็นที่ซึ่งเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 อาศัยอยู่อีกด้วย มีเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 เพียง 20 คนเท่านั้นที่เป็นผู้ที่คนรู้จักกันบนทวีป และพวกเขาทั้งหมดนั้นมีตำแหน่งเป็นผู้อาวุโสของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง

ปราสาทที่ยิ่งใหญ่ตั้งอยู่อย่างเงียบเงียบที่ศูนย์หลางของเมืองเหมือนสัตว์ที่หลับใหลอยู่ มันให้ความรู้สึกเหมือนว่ามันผ่านมาหลายยุคสมัย ปราสาทเป็นสีขาวหิมะ แต่ว่ามันดูมีอายุมาก ดังนั้นสีของมันจึงไม่สว่างเท่าไร มันมีร่องรอยของกาลเวลาอยู่บนนั้น

ปราสาทนี้เป็นสำนักงานใหญ่ของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง บนชั้นที่ 7 ประธาน อดามิ กำลังนั่งอยู่เงียบ ๆ บนบัลลังก์ในโถงที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ใบหน้าของเขาไม่ได้สดใสเหมือนก่อนหน้านี้ ในตอนนี้มันมีร่องรอยแห่งความซีดเซียวอยู่ แม้แต่รอยย่นของเขาก็ลึกขึ้น ซึ่งทำให้เขาดูยิ่งแก่ขึ้นไปอีก

“ท่านประธานที่เคารพ เย่หลันต้องการที่จะพบท่าน” ในตอนนี้ เสียงสุภาพก็ดังออกมาจากด้านนอก

“ให้เข้ามาได้เลย” อดามิตอบกลับอย่างนุ่มนวล เขาโบกมือขวาของเขา แล้วบอลแสงสีขาวนวลก็กระพริบออกมาจากมือของเขา และประตูก็เปิดออกอย่างเงียบ ๆ

ชายที่อยู่ในชุดพอดีตัวเดินเข้ามาจากด้านนอก เขาดูเหมือนจะมีอายุสามสิบต้น ๆ เพราะตาของเขานั้นเป็นประกายดุร้ายเหมือนเหมือนหินภูเขาไฟ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขามีร่องรอยของการผ่านลมและฝนมา

“ท่านประธานที่เคารพ ข้าได้นำกลุ่มคนไปข้างนอกตามคำสั่งของท่านเพื่อไปตามหาอาจารย์หยุนเทียน แต่ไม่มีข่าวเกี่ยวกับเขาเลยจนถึงตอนนี้” ชายหนุ่มป้องมือให้ท่านประธาน

อดามิขมวดคิ้วและคิด “หยุนเทียนก็หายไปหลายปีแล้ว ข้าสงสัยจริง ๆ ว่าเขาไปไหน ข้าใช้ทักษะลับไปหลายครั้งแล้ว แต่ข้ายังไม่สามารถติดต่อกับเขาได้เลย หยุนเทียนกำลังประสบปัญหาอะไรอยู่หรือเปล่านะ…” ประธานมืดมนในตอนที่เขาคิดถึงความเป็นไปได้ หยุนเทียนเป็นลูกศิษย์ของเขา เขาดูหยุนเทียนเติมโตมา ดังนั้นแม้ว่ามันจะเป็นสถานะลูกศิษย์อาจารย์ แต่อดามิก็ยังปฏิบัติต่อเขาเหมือนว่าเป็นลูกของตัวเอง ดังนั้น อดามิก็ค่อนข้างเสียใจเมื่อเขาคิดว่าหยุนเทียนอาจจะประสบกับปัญหาอะไรอยู่

“เย่หลัน เจ้าคงเหนื่อยมากในหลายวันที่ผ่านมา ไปพักผ่อนก่อนเถอะ เจ้าไม่จำเป็นต้องตามหาหยุนเทียนอีกต่อไปแล้ว” อดามิโบกมือเบา ๆ เขาค่อนข้างท้อแท้

“ท่านประธาน ท่านต้องดูแลตัวเองหน่อยนะ ข้าลาละ” เย่หลันพูดอย่างห่วงใยก่อนที่จะหันหลังกลับไปเงียบ ๆ

“เฮ้อ” หลังจากที่เย่หลันจากไป อดามิก็นั่งลงและพิงไปที่บัลลังที่กว้างและสะดวกสบายของเขา

ในตอนนี้เอง อดามิก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องในอดีต ในชีวิตของเขา เขาได้รับศิษย์มาทั้งหมด 3 คน คนแรกตายไปนานแล้วเนื่องจากหมดอายุขัย ใขณะที่คนที่สองก็คือหยุนเทียน คนที่เขาคอยดูการเติบโตมา ในขณะที่ลูกศิษย์คนที่สามของเขา เป็นคนที่เขารู้สึกภูมิใจมากที่สุด

ทั้งลูกศิษย์คนที่หนึ่งและคนที่สองของเขานั้นยอดเยี่ยม พวกเขามีพรสวรรค์ที่เยี่ยมยอดในหมู่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง แต่เทียบกับลูกศิษย์คนที่สามของเขาแล้ว ความแตกต่างนั้นช่างเทียบกันไม่ได้เลย เพราะว่าไม่เพียงแต่ลูกศิษย์คนที่สามของเขาจะเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 เท่านั้น เขายังเป็นจอมยุทธที่สุดยอดซึ่งสั่นคลอนไปทั้งทวีป ความสำเร็จในฐานะนักสู้ของเขานั้นเหนือกว่าความสามารถของเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงเสียอีก และเขายังเป็นเซียนราชาที่แม้แต่ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบยังต้องเกรงกลัวอีก

โชคไม่ดีที่มีเรื่องเกิดขึ้น ศิษย์คนที่สามที่อดามิภูมิใจมากที่สุดนั้นได้เอาวัตถุเซียนของสมาคมไป และเกือบจะทำให้สมาคมล่มสลาย ไม่เพียงแต่มันจะเป็นผลให้เกิดความเสียหายที่ย้อนกลับไม่ได้เท่านั้น มันยังทำให้อดามิหมดโอกาสที่จะได้กลายเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 8 อีกด้วย

อดามิกำลังจะหมดอายุขัยแล้ว ในตอนแรกเขามีอายุขัยทั้งหมด 3,000 ปี และเขาได้รับอายุมาอีก 200 ปีจากสมบัติสวรรค์หมื่นปี ดังนั้นเขาจึงมีอายุขัยรวมทั้งหมด 3,200 ปี ตอนนี้ 3,100 ปีก็ผ่านไปแล้ว ดังนั้นเขาเหลือเวลาอีกไม่กี่ทศวรรษเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ