เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 1242

สรุปบท ตอนที่ 1242: หนิงซวง: เทพกระบี่มรณะ

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1242: หนิงซวง – เทพกระบี่มรณะ โดย Internet

บท ตอนที่ 1242: หนิงซวง ของ เทพกระบี่มรณะ ในหมวดนิยายแฟนตาซี เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 1242: หนิงซวง

ค่ายกลเคลื่อนย้ายกระพริบวิบวับมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่จะกลายเป็นบอลแสงสีขาวที่ไม่อาจเห็นด้านในได้ มันส่องแสงราวกับดวงอาทิตย์ในรังมรณะ

ถ้ามันอยู่ด้านนอกค่ายกลนี้ก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนจากกลางคืนเป็นกลางวัน แสงของมันเพียงพอที่จะส่องออกไปทั่วทั้งทวีป แต่มันส่องสว่างได้เพียงในรังมรณะเท่านั้นเพราะถูกค่ายกลกักเอาไว้ แม้ว่ามันจะสว่างมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่มันก็สว่างแค่เพียงในรังมรณะ

มิติที่เกิดจากค่ายกลเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับความผันผวน มันบิดเบี้ยวไปมาอย่างรวดเร็วและพร่ามัวเล็กน้อย ในตอนแรกมันเป็นแค่เงาจาง ๆ แต่มันก็กลายเป็นสมจริงมากขึ้นจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

แสงสีขาวที่เกิดจากค่ายกลลดลงก่อนที่จะหายไปอย่างสมบูรณ์หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ค่ายกลขนาดใหญ่ก็หายไปเช่นกันและหวนคืนกลับไปสู่ความว่างเปล่าอีกครั้ง รังมรณะที่วังเวงกลับมาเป็นเพมือนเดิมอีกครั้ง ความแตกต่างเดียวคือตอนนี้มีคนยืนอยู่กลางอากาศในรังมรณะ

คนนี้บินอยู่อย่างเงียบ ๆ ไม่เพียงแต่เขาจะไม่เปิดเผยตัว สัญญาณที่เกี่ยวกับชีวิตต่าง ๆ ก็ไม่มีอีกด้วย ปราณหยินและความโกรธแค้นไม่อาจส่งผลกระทบกับบุคคลนี้ได้ มองดูใกล้ ๆ พลังงานชั่วร้ายและหมอกสีดำยังหลีกห่างจากชายคนนี้ พวกมันไม่อาจเข้าใกล้หรือไม่อยากเข้าใกล้กันแน่

เขาเป็นชายวัยกลางคนในชุดขาว ดวงตาของเขาลุ่มลึกและรูปลักษณ์ของเขาก็โดดเด่น ดูเหมือนว่าเขาจะอายุ 40 ปีเท่านั้นผ่านทางหน้าตาของเขา แม้ว่าเขาจะไม่มีการแสดงออกใดๆ แต่ดูเหมือนกับว่าเขาจะมองเย้ยทุกสรรพสิ่งอย่างไม่แยแสขณะกวาดตามอง

ถ้าหากใครเคยเข้าไปในเมืองทหารรับจ้างก่อนที่จะเห็นชายคนนี้ พวกเขาจะคิดว่าเขานั้นเหมือนกับรูปปั้นของโมเทียนหยุนที่ตั้งอยู่กลางเมือง ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่างเขากับโมเทียนหยุนคือรูปปั้นนั้นอยู่มากอย่างยาวนานและยังทำให้รู้สึกว่ามันเป็นราวกับดาบของโลก มันรู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบอยู่ภายใต้ดาบของเขา ในขณะเดียวกันชายที่อยู่ในรังมรณะนั้นดูเรียบง่ายกว่ามาก

ชายวัยกลางคนมองไปรอบ ๆ ขณะที่เขาจ้องมองอย่างช้า ๆ ไปทั่ว ๆ ทุกส่วนของโลก ภาพที่เขาคุ้นเคยได้กระตุ้นสัมผัสจากความทรงจำที่ปรากฏผ่านดวงตาที่ล้ำลึกของเขา มันราวกับบ่อน้ำที่ถูกหินกระทบและทำให้เกิดคลื่นกระจายออกไป แม้ว่าใบหน้าของเขาจะไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ แต่ความตื่นเต้นก็ยังมีให้เห็นผ่านสายตาของเขา

ทันใดนั้นชายผู้นั้นก็ได้หายตัวไปโดยไม่มีร่องรอยก่อนที่จะปรากฏอีกครั้งในถ้ำที่เต็มไปด้วยพลังกลืนวิญญาณในเวลาต่อมา ฮุสตันไม่รู้สึกถึงการปรากฏตัวของเขาขณะที่บ่มเพาะอยู่ข้างสระ

ชายวัยกลางคนมาถึงด้านหน้าฮุสตันและตรวจสอบเขา เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ในเวลานั้นก็มีแสงสีโลหิตพุ่งออกมาจากหว่างคิ้วฮุสตัน มันเป็นลูกกลม ๆ ขนาดนิ้วหัวแม้มือ หินปีศาจชั้นฟ้าที่เจี้ยนเฉินมอบให้กับฮุสตัน

หินลอยเข้าหาชายวัยกลางคนอย่างช้า ๆ แสงสีโลหิตกระพริบท่ามกลางความมืดผ่านเข้าไปในความคิดของชายกลางคน ดูเหมือนว่ามันจะมีความสุขมาก

ชายวัยกลางคนมองไปที่หินปีศาจชั้นฟ้าและกล่าวว่า หินปีศาจชั้นฟ้า ความสามารถของคนผู้นี้ดีพอสมควร แต่ไม่มากพอที่จะใกล้เคียงกับอัจฉริยะที่หาได้ยาก ทำไมเจ้าถึงเลือกเขาเป็นผู้สืบทอดของหนิงซวง ?

หินปีศาจชั้นฟ้าดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่ชายคนนั้นพูด มันสั่นเล็กน้อยและกระพริบอย่างแสงโลหิตอย่างรวดเร็ว มันส่งความคิดและความรู้สึกผิด ราวกับเป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังถูกรังแก

ทันใดนั้นแสงจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากชายคนนั้น มี 999 ดวง ทุกจุดแสงเป็นตัวแทนของวิญญาณราชาเทพธาตุแสง วิญญาณเหล่านี้ได้รับการขัดเกลาด้วยวิธีพิเศษและมีขนาดเท่ากับฝุ่น หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าพวกมันกระพริบแสงสีขาวจาง ๆ มันคงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมองเห็นพวกมันได้ด้วยตาเปล่า

วิญญาณของราชาเทพธาตุแสงต่างก็บินเข้าหาวิญญาณของหนิงซวนภายใต้การควบคุมของมนุษย์ เขาสร้างค่ายกลฟื้นคืนวิญญาณและวางไว้ใกล้กับวิญญาณของนาง ภายใต้ผลของค่ายกลฟื้นคืนวิญญาณ พลังงานวิญญาณทั้งหมดเริ่มหลอมรวมและซึบซับเข้ากับวิญญาณของหนิงซวน

หลังจากที่ค่ายกลฟื้นคืนวิญญาณเสร็จสิ้น ชายกลางคนก็จ้องไปที่วิญญาณของหนิงซวนพร้อมกับอารมณ์ที่ลึกล้ำว่า หนิงซวน ข้าได้จัดการทุกอย่างในโลกเซียนแล้ว เจ้าจะตื่นมาในไม่ช้า ชายคนนั้นจ้องไปที่วิญญาณของหนิงซวนอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะให้หินปีศาจชั้นฟ้ารับวิญญาณของนางคืนไป หลังจากนั้นเขาก็หายตัวไปอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่หินปีศาจชั้นฟ้าก็กลับเข้าไปที่ทะเลสติของฮุสตัน

ชายวัยกลางคนกลับมายังรังมรณะ เขามองไปรอบ ๆ ในสถานที่มืดหม่นและถอนหายใจเบา ๆ ความต้องการของข้าบรรลุแล้ว ดังนั้นเจ้าจึงไม่ต้องมีอยู่อีกต่อไป ถึงเวลาที่เจ้าต้องจบลงแล้ว ! เพียงแค่ชายคนนั้นยื่นนิ้วไปยังอากาศที่ว่างเปล่าสองสามครั้ง ค่ายกลขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในความว่างเปล่าก็ปรากฏขึ้นและเริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว พลังงานชั่วร้ายและหมอกที่ผันผวนในรังมรณะนั้นถูกดูดเข้าด้วยกันก่อนที่จะกลายเป็นพลังกลืนกินวิญญาณที่บริสุทธิ์และพุ่งลงไปยังสระใต้ดิน

วิญญาณแค้นเซียนผู้คุมกฏ, เซียนราชาและเซียนจักรพรรดิทุกคนต่างก็ทรุดตัวลงและกลายเป็นหมอกดำพร้อมกับถูกดูดกลืนด้วยค่ายกล พวกเขาได้ถูกกลั่นให้กลายเป็นพลังงานบริสุทธิ์ผ่านพลังกลืนกินวิญญาณ

ชายกลางคนออกจากรังมรณะและมาที่เมืองทหารรับจ้างอย่างเงียบ ๆ ราวกับว่าเขาเคลื่อนย้ายพริบตา เขาลอยอยู่กลางอากาศขณะที่มองดูเมืองด้านล่าง เขาไม่ได้ซ่อนตัว แต่ไม่มีใครเห็นการดำรงอยู่ของเขา

เฮ้อ เสี่ยวหลิงขี้เกียจเกินไป มันนานมากแล้วและนางก็แค่ฟื้นคืนมาเท่านั้น หนึ่งในสองผนึกที่ข้าประทับไว้ก็ถูกทำลายแล้วเช่นกัน ดูเหมือนว่าตราประทับที่เหลือจะอยู่ได้อีกไม่นานเช่นกัน ด้วยเหตุนี้การปรากฏตัวของชายกลางคนจึงถูกอธิบายได้ง่าย ๆ โดยที่เสี่ยวหลิงไม่แม้แต่จะรู้สึก เขาก็ลอดผ่านอุโมงค์ลึกใต้เมืองทหารรับจ้างและเข้าไปสู่โลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ