เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 1533

สรุปบท ตอนที่ 1533: ซ่างกวนมู่เอ๋อเข้าร่วมต่อสู้: เทพกระบี่มรณะ

ตอนที่ 1533: ซ่างกวนมู่เอ๋อเข้าร่วมต่อสู้ – ตอนที่ต้องอ่านของ เทพกระบี่มรณะ

ตอนนี้ของ เทพกระบี่มรณะ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายแฟนตาซีทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1533: ซ่างกวนมู่เอ๋อเข้าร่วมต่อสู้ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 1533: ซ่างกวนมู่เอ๋อเข้าร่วมต่อสู้

ลมโชยพัดทรายและฝุ่นละอองไปทั่วดินแดนที่มืดหม่น เสียงการต่อสู้ดังแว่วผ่านท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง คลื่นกระแทกสีม่วงและพลังงานปะทะจนเกิดพายุและหลุมลึกอย่างน่ากลัว

การต่อสู้เพิ่งเริ่มต้น แต่สนามรบเต็มไปด้วยซากศพ มันมีมากมายจากทั้งสี่เผ่าพันธุ์ที่เต็มไปด้วยศพของเซียนผู้คุมกฏและเซียนราชา นอกเหนือจากนั้นก็เป็นศพเซียนจักรพรรดิของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง แต่จำนวนนักรบของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งซึ่งตายนั้นมีน้อยกว่าหนึ่งในสิบของจอมยุทธจากทวีปเทียนหยวน

แม้แต่เซียนราชาก็ยังต่อสู้เพื่อแสดงความสามารถในการต่อสู้อย่างดุเดือด หากเซียนผู้คุมกฏและเซียนราชาไม่ได้ใช้ค่ายกลของเฟิงเซียวเทียนกับพวกเขา ด้วยการโจมตีและการป้องกัน อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะต้องตายมากกว่านี้

อย่างไรก็ตามสนามรบที่ดุเดือดก็ถูกรบกวนด้วยการปรากฏตัวของมดทะยานฟ้า เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชปรากฏออกมาและเสียงเหล่านั้นก็เต็มด้วยความเจ็บปวดและทรมาณ

เสียงร้องเหล่านี้เกิดขึ้นจากเซียนจักรพรรดิจากต่างโลก ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยมดทั่วตัว เนื้อและเลือดของพวกเขาก็หายไปอย่างรวดเร็วเพราะถูกมดกิน มดไม่เพียงกินเนื้อของเซียนจักรพรรดิเท่านั้น แม้แต่กระดูกของพวกเขาก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงชะตากรรมที่จะถูกกินไปได้หลังจากที่เนื้อหนังเหล่านี้หมดไปแล้ว เสียงกัดแทะที่หนาวสั่น โครงกระดูกถูกจัดการ มวลมดที่พุ่งทะยานมาด้วยความรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อก่อนที่กระดูกจะถูกกิน แม้แต่วิญญาณเซียนจักรพรรดิก็ยังไม่อาจหลบหนีที่จะถูกกิน

เซียนจักรพรรดิมีแก่นชีวิต, เลือดและเนื้อที่ทรงพลัง พลังจากกินเซียนจักรพรรดิ เกิดพลังงานที่ฉีกออกมาจากมดทะยานฟ้า ความแข็งแกร่งของพวกมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากเลือดเนื้อของเซียนจักรพรรดิ

เซียนจักรพรรดิทั้งหมดจากต่างโลกเผยให้เห็นใบหน้าที่หวาดกลัวเมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับมดที่น่ากลัว มันเป็นเรื่องยากที่จะฆ่ามด ปราณกระยี่ที่ทรงพลังและรังสีพลังงงานซึ่งสามารถสร้างหลุมลึกที่สุดในทวีปเทียนหยวนหรือสังหารสัตว์อสูรระดับ 7 หลายพันตัวได้แต่มันก็ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงสำหรับมดทะยานฟ้า พวกเขาไม่มีพลังมากพอที่จะฆ่ามดระดับ 6 ที่มีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตีพลังงานและมันก็สามารถทะลวงผ่านไปได้โดยไม่มีการสะดุดใด ๆ

มดสามารถพุ่งผ่านพลังงานและเกราะพลังของเซียนจักรพรรดิได้ พวกมันเจาะผ่านสิ่งกีดขวางและชุดเกราะและโจมตีร่างของเซียนจักรพรรดิ วิธีเดียวที่เซียนจักรพรรดิจากต่างโลกจะจัดการกับมดทะยานฟ้าเหล่านี้ได้คือการใช้อาวุธฟาดฟันมัน

อย่างไรก็ตามมดมีจำนวนมากเกินไป พวกมันครบคลุมทั่วทั้งภูมิภาคและก่อตัวเป็นมวลเมฆที่หนาแน่นอนและมีรัศมีถึงร้อยล้านกิโลเมตร มันเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าพวกมันทั้งหมดโดยใช้กำลังเพียงอย่างเดียว ในเวลาเดียวกันมดก็เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นมากหลักจากที่กลืนกินเซียนจักรพรรดิสักคนในช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากนั้นมดหลายสิบตัวก็ทะลวงไปถึงระดับ 8 เพราะพวกมันกินเซียนจักรพรรดิ

อย่างไรก็ตามมดทะยานฟ้านั้นแตกต่างจากสัตว์อสูร สัตว์อสูรนั้นจะสืบพันธุ์ได้หลังจากที่มาถึงระดับ 5 แต่มดมันเป็นสัตว์อสูรจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ พวกมันจำเป็นต้องรอแม้ว่ามันจะขึ้นมาถึงระดับ 9 พวกมันทำตามบัญชาอสูรเท่านั้น

มีเพียงสัตว์อสูรกลืนสวรรค์เจ็ดสีเท่านั้นที่ใช้บัญชาอสูรเหล่านี้ได้ ดังนั้นไม่ว่ามดจะมีพลังมากเพียงใด มันก็ทำตามคำสั่งของสัตว์อสูรกลืนสวรรค์เจ็ดสีและเนื่องจากความสัมพันธ์พิเศษกับไคยะและสัตว์เทวะ นางก็สามารถควบคุมพวกมันได้

จำนวนเซียนราชาและเซียนจักรพรรดิลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่การต่อสู้ที่ยืดเยื้อของสี่เผ่าพันธุ์นั้นก็ลดลงอย่างรวดเร็ว แต่เพราะการปรากฏตัวของมดทะยานฟ้า ไม่ว่าทวีปเทียนหยวนจะอ่อนแอลงมากแค่ไหน พวกเขาก็สามารถต่อสู้ได้เทียบเท่ากับจอมยุทธจากต่างโลกได้

อย่างไรก็ตามเซียนจักรพรรดิก็พุ่งออกมาจากอุโมงค์อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นความสมดุลระหว่างทวีปเทียนหยวนและโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งก็เริ่มมากขึ้นอีกครั้ง แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากมดทะยานฟ้า แต่จำนวนก็ไม่ได้เติมเต็มเป็นเวลานาน มีเซียนจักรพรรดิมากเกินไป โลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งมีคนที่ทะลวงไปในขอบเขตดั้งเดิมกว่า 40 คนและยังมีคนแปรเปลี่ยน มันเป็นไปไม่ได้ที่คนจากทวีปเทียนหยวนจะนึกภาพตามได้ว่ามันมีเซียนจักรพรรดิกี่คน

นอกจากมดทะยานฟ้าระดับ 9 แล้วมดตัวอื่นที่ต่ำกว่าระดับ 8 ก็ไม่สามารถทนต่อการโจมตีของเซียนจักรพรรดิได้ มดทะยานฟ้ามีความได้เปรียบเพียงด้านของจำนวนเท่านั้น

จอมยุทธขั้นรับมอบทั้งเก้าคนจากต่างโลกเผยให้เห็นการแสดงออกที่แตกต่างกันอย่างมากขณะที่พวกเขาตะโกนอย่างวุ่นวาย แม้ว่าคนที่สามารถโจมตีทางวิญญาณได้ปรากฏตัวตลอดประวัติศาตร์ของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งจะมีอยู่ แต่พวกเขาก็เป็นตัวตนระดับตำนวน ตลอดหลายปีที่ผ่านมาจำนวนผู้ใช้การโจมตีทางวิญญาณสามารถนับนิ้วได้ไม่เกินสิบนิ้ว มันมีมานานหลายหมื่นปีแล้วตั้งแต่ที่บุคคลเช่นนั้นปรากฏ แต่ถ้าพวกเขาปรากฏตัว มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน นี่เป็นเพราะการโจมตีทางวิญญาณยากที่จะป้องกันได้ พวกเขาสามารถบอกได้ว่ามันเป็นการโจมตีที่ไม่มีทางป้องกัน

และด้วยความตกใจเขาก็พบว่าคนที่บรรเลงบทเพลงนั้นมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ บทเพลงนี้สามารถโน้มน้าวพวกเขาได้แม้ว่าจะไม่ได้เจาะจงใครก็ตาม ถ้าเป็นอย่างนั้นพวกเขาก็พบว่ามันยากที่จะมุ้งเน้นในการป้องกัน ท้ายที่สุดถ้ามันไม่มีข้อผิดพลาดใด ๆ ในการสู้รบ พวกเขาจะถูกลงโทษ

เจิงจิงหยวนก็ขมวดคิ้วเช่นกัน นางจ้องมองไปที่ระยะไกลและเห็นซางกวนมู่เอ๋อบรรเลงอยู่ที่นั่น นางต้องการเข้าไปเพื่อหยุดอีกฝ่าย แต่นางเพียงสงวนท่าทีของนางไว้พร้อมกับการป้องกันการโจมตีของเจียงหยางหมิงเยว่ นางไม่อาจทำอะไรกับซางกวนมู่เอ๋อได้

เร็ว ไปรายงานจิตวิญญาณราชันย์ทันที เราประเมิณความแข็งแกร่งของโลกนี้ต่ำไป เราต้องกำลังเสริม เรียกอาวุโสมาอีก 4 คน เจิงจิงหยวนตะโกนออกมา เสียงของนางดังไปถึงอุโมงค์และเซียนจักรพรรดิหลายคนก็ได้ยิน

มันเป็นเสียงของผู้อาวุโสเจิง ! เซียนจักรพรรดิทั้งหมดที่ได้ยินเสียงก็แสดงท่าทางที่ต่างกันออกไปเล็กน้อย บางคนหันหลังกลับและวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

เจิงจิงหยวนดูเหมือนจะรู้สึกไม่สบายใจ ดังนั้นนางจึงสร้างตราประทับมือและใช้ทักษะสื่อสารลับเพื่อรายงานการต่อสู้ให้กับจิตวิญญาณราชันย์ทราบเป็นการส่วนตัว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ