เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 1638

ตอนที่ 1638: จิตวิญญาณราชันย์มาแล้ว

การเจรจาระหว่างทวีปเทียนหยวนและโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งจะมีขึ้นทุก 10-15 วัน อย่างไรก็ตามเนื่องจากพวกเขาไม่เคยบรรลุข้อตกลง พวกเขาก็มักจะกลับไปด้วยรสชาติที่ขมฝาดอยู่ในปาก

ในฐานะที่เป็นสถานที่ทั้งสองโลกเข้ามาเจรจา เมืองอัคนีโด่งดังอีกครั้งจนถึงจุดที่ว่าไม่ใช่เพียงในทวีปเทียนหยวนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งอีกด้วย

จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมที่อยู่ข้างเดียวกับทวีปเทียนหยวนได้เลือกเมืองอัคนี เพราะพวกเขากลัวจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมของต่างโลก พวกเขาวางแผนที่จะใช้ศักดิ์ศรีของจวนเจ้าเมืองเพื่อยับยั้งจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมไม่ให้ลงมือระหว่างเจรจา ท้ายที่สุดแม้กระทั่งทำลายส่วนเล็ก ๆ ของเมืองก็เปรียบได้กับการล่วงเกินเจี้ยนเฉินตรง ๆ

ในเวลาเดียวกันการระมัดระวังเหล่านี้ก็ต้องยกให้เมืองอัคนี จนถึงตอนนี้ไม่มีองค์กรใดในโลกที่สามารถเทียบศักดิ์ศรีได้กับเมืองอัคนี แม้ว่าจะไม่กว้างเท่ากับเมืองหลวงทั้งเจ็ดของทวีป

สถานะของเมืองอัคนีในปัจจุบันได้เทียบเท่ากับโถงจิตวิญญาณลับของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งจนถึงจุดที่ว่าไม่อาจมีอะไรมาทดแทนได้อีก

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์นั่งอยู่บนหินสีเทาขนาดใหญ่แห่งเกาะสามเซียนซึ่งเผยให้เห็นความงดงามออกมา นางวางพิณอย่างง่าย ๆ ด้านหน้าของนาง ขณะที่นิ้วมือกำลังกรีดกรายไปตามสายอย่างมีเสน่ห์ บทเพลงที่ดูเหมือนจะหลอมรวมเข้ากับธรรมชาติ มันสามารถทำให้ผู้คนสงบและทำให้พวกเขาสบายใจ

เสียงเพลงดังไปทั่วทั้งเกาะสามเซียน ชายประมงที่อาศัยอยู่บนเกาะต่างก็พากันหลงใหลเสียงเพลง ปลาตัวใหญ่เริ่มลอยเหนือผิวน้ำมหาสมุทรราวกับว่าดนตรีได้ทำให้พวกมันหลงใหล

ชายหนุ่มหล่อเหลานั่งอยู่ถัดจากหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ บทเพลงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขาเลย เขาจ้องมองไปยังขอบฟ้าของทวีปเทียนหยวนที่อยู่ห่างไกล ในเวลาเดียวกันเขาก็มักจะมองไปที่ท้องฟ้าบ่อยครั้ง ชายหนุ่มสามารถเห็นเมฆสีแดงเล็ก ๆ ที่ขอบฟ้า จุดสีแดงที่สามารถมองเห็นได้ต่อผู้ที่ดวงตาพิเศษที่ไม่ธรรมดา

บทเพลงหยุดลง หลังจากนั้นครู่หนึ่งซ่างกวนมู่เอ๋อก็ละมือออกจากพิณ นางจ้องมองไปยังอวกาศด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์พลางกล่าวว่า พลังมารได้ลดลงเล็กน้อย บิดาเจ้าควรจะดูดซับพลังในนั้นได้ แต่จากสิ่งที่เห็น เขาต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่เขาจะดูดซับทั้งหมดได้

ชายหนุ่มที่หล่อเหลามองไปยังหญิงเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เมื่อเขาได้ยินคำพูดของนางและพูดอย่างกังวลว่า ท่านแม่ พลังที่ยิ่งใหญ่และชั่วร้ายราวกับปีศาจนี้ ท่านพ่อต้องทรมาณตัวเองเพื่อดูดซับมันด้วยหรือ ?

ซ่างกวนมู่เอ๋อคิดเงียบ ๆ สักพักก่อนที่จะตอบว่า วิถีบ่มเพาะของบิดาเจ้านั้นพิเศษเหมือนกับของเจ้า เจ้าจึงไม่อาจเอามันไปเทียบกับอย่างอื่นได้ ในขณะเดียวกันเขาก็รู้อยู่เสมอว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ดังนั้นหากเขากล้ามากพอที่จะดูดซับมัน เขาก็ต้องมีความมั่นใจอย่างแน่นอน

ข้าไม่ต้องกังวลอีกแล้ว ชายหนุ่มโล่งใจทันที อย่างที่คาดไว้ เขาคือซางกวนเอ๋อเจี้ยน

หลังจากที่เงียบอยู่ครู่หนึ่งซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนก็กล่าวว่า ท่านแม่ ทวีปเทียนหยวนกำลังเจรจากับโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง ความแตกต่างระหว่างจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมของโลกเราและของพวกเขานั้นห่างกันมาก ดังนั้นเราอาจจะเผยจุดอ่อนในระหว่างการเจรจา นี่เป็นเวลาที่มากพอแล้วเมื่อพวกเขาต้องการท่านแม่ ดังนั้นทำไมท่านไม่ไปทวีปเทียนหยวนเพื่อจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ? ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนหวังว่ามารดาของเขาจะไปทวีปเทียนหยวนอย่างมาก ในขณะที่เขาเติบโตขึ้นขณะเดินทางผ่านการข้ามทวีป มันเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการให้ทวีปเทียนหยวนเกิดความยากลำบากระหว่างการเจรจา

ในขณะเดียวกันทวีปเทียนหยวนมันก็เป็นบ้านเกิดของบิดาของเขา

ซ่างกวนมู่เอ๋อมองไปที่ซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนและดวงตาของนางก็ดูอบอุ่นขึ้น นางกล่าวว่า เสี่ยวเจี้ยน ข้าเข้าใจว่าเจ้ากังวลเรื่องทวีปเทียนหยวน แต่ก็ไม่จำเป็นเลย แม้ว่าเจ้าจะไม่สนใจความจริงที่ฝ่ายเราไม่ได้เปิดเผยจุดอ่อน แต่มันก็ยังไม่อาจสรุปผลการเจรจาในเร็ววันได้ ไม่ว่าสิ่งที่เขาจะเจรจาต่อรองหรือตัดสินใจส่วนตัวใด ๆ สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับบิดาของเจ้าและจิตวิญญาณราชันย์ หากบิดาของเจ้าปฏิเสธ มันก็ไม่สำคัญว่าผลประโยชน์ของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งได้รับมากเพียงใดจากการเจรจา เจ้าเข้าใจหรือไม่ ?

ข้ารู้ มันเป็นเพราะเราไม่จำเป็นต้องกลัวโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเรา

..

ราวกับลูกศรพุ่งออกไป เวลาก็ผ่านไปในพริบตา ทั้งสองโลกได้เจรจากันมากว่าสิบปีแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังหาข้อตกลงไม่ได้หลังจากผ่านไป 10 ปี พวกเขาทั้งสองเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่จะบรรลุข้อตกลงด้วยตัวเอง ท้ายที่สุดการตัดสินใจยังคงทำโดยคนที่มีอำนาจมากที่สุดระหว่างโลกทั้งสอง เป็นผลทำให้การเจรจาเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์และยื้อเวลาออกไป เนื่องจากพวกเขาต่างรอให้จิตวิญญาณราชันย์และเจี้ยนเฉินออกมาจากการบ่มเพาะ

ในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมามีข่าวว่ามนุษย์, ร้อยเผ่าพันธุ์, เผ่าพันธุ์ทะเลและเผ่าพันธุ์สัตว์อสูรต้องส่งมอบดินแดนส่วนหนึ่งของพวกเขาได้กระจายไปทั่วแล้ว มันได้นำไปสู่ความโกลาหลขนาดใหญ่ บางคนไม่ได้สนใจอะไรไปมากกว่านี้ แต่ก็มีบางคนยืนกรานว่าจะรักษาดินแดนของตัวเองและปฏิเสธที่จะปล่อยมันไปแม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ