เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 1711

สรุปบท ตอนที่ 1711 : เข้าสู่การต่อสู้: เทพกระบี่มรณะ

ตอน ตอนที่ 1711 : เข้าสู่การต่อสู้ จาก เทพกระบี่มรณะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 1711 : เข้าสู่การต่อสู้ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายแฟนตาซี เทพกระบี่มรณะ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 1711 : เข้าสู่การต่อสู้

“เราต้องยื้อไว้ก่อน” โม่หลิงกัดฟันแน่ เขารู้สึกกดดันกับการรับมือกับขั้นเทพทั้งสาม ด้วยความแข็งแกร่งของเขาแล้วเขามั่นใจว่าจะรับมือขั้นเทพคนหนึ่งได้และไม่พ่ายแพ้ แต่เขาไม่อาจจะทนได้นานนักกับการรับมือกับขั้นเทพ 2 คนพร้อมกัน

แต่ว่าเขาจะยื้อขั้นเทพ 2 คนไว้ได้ แต่มันก็ยังมีขั้นเทพอีกคนและจอมยุทธขั้นศักดิ์สิทธิ์มากมาย แม้ว่าความเข้าใจกฎแห่งกระบี่ของเฉินเจี้ยนจะขึ้นถึงขั้นเทพช่วงกลางแล้ว แต่มันก็ยังด้อยกว่าเทพตอนนี้เพราะระดับการบ่มเพาะที่ต่ำเกินไปของเขา โม่หลิงเดาว่าเขาคงลำบากเล็กน้อยกับการยื้อขั้นเทพคนหนึ่งเอาไว้ เขาจะสู้ได้อย่างเต็มที่เมื่อเจี้ยนเฉินอยู่ด้วยเพราะก่อนหน้านี้เจี้ยนเฉินสามารถทำให้ลู่เทียนบาดเจ็บได้

แม้ว่าโม่หลิงจะไม่เคยเห็นความสามารถของเจี้ยนเฉินด้วยตัวเอง แต่เขาก็เข้าใจได้ว่าความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินนั้นน่ากลัวแค่ไหน เพราะเจี้ยนเฉินสามารถทำให้ลู่เทียนได้รับบาดเจ็บได้จนต้องหนีไปโดยที่ไม่ได้นำสมบัติของตระกูลลู่กลับไปด้วย

“น้องเฉินเจี้ยน อย่าเพิ่งออกไปตอนนี้ ยื้อเวลาออกไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราทำได้” โม่หลิงบอกกับเฉินเจี้ยน ด้วยทักษะลับภายในค่ายกลป้องกัน

“โม่หลิง เจ้าจะยอมแพ้แต่โดยดีหรือจะดิ้นรนโดยเปล่าประโยชน์ ? ” อันโดฟูถามขึ้นมา

โม่หลิงแค่นเสียงออกมา “อันโดฟู, ลู่เทียน พวกเจ้าคิดว่าตระกูลโม่จะจบสิ้นเพราะเจ้าสองคนร่วมมือกันและมีขั้นเทพ 3 คนงั้นรึ ? สุดท้ายทุกคนก็จะย่อยยับ ผลลัพธ์นี้อาจจะแย่กว่าสำหรับเจ้าก็ได้ “

“แย่กว่ารึ ? ” อันโดฟูยิ้มเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาได้ถามโม่หลิงว่า “เจ้าหมายถึงเรื่องนี้หรือ ? ” มีหยกชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นมาในมือของอันโดฟู เขาคีบมันไว้และแสดงมันให้โม่หลิงดู

โม่หลิงหรี่ตาลง สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวไป เขารู้จักหยกนี่ เขาได้ส่งมันให้กับคนในตระกูลและให้คนผู้นั้นอยู่ในเมืองหลัก นอกจากเขาและหัวหน้าตระกูลแล้ว ไม่มีใครอื่นในตระกูลโม่ที่รู้ตัวตนของชายผู้นี้

หยกชิ้นนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับหยกของราชาเทพต้วนมู่ ตอนทีเขาส่งหยกนี้ให้กับคนของเขา เขาได้เตือนอีกฝ่ายหลายครั้งว่าให้เขาทำลายมันเมื่อตระกูลโม่ถูกทำลาย เขาจะกระจายข้อมูลนี้ออกไปเพื่อให้ทั้งแคว้นตงอันนั้นรู้เรื่องหยกของราชาเทพต้วนมู่

โม่หลิงได้เตรียมวิธีรับมือไว้เพื่อกันไม่ให้ตระกูลลู่และตระกูลอันโดร่วมมือกันทำลายตระกูลโม่ หากเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมา เขาก็สามารถใช้มันโจมตีจิตใจของตระกูลลู่และตระกูลอันโดได้ แม้ว่าตระกูลโม่จะเจอกับผลลัพธ์อันเลวร้าย แต่ตระกูลลู่และตระกูลอันโดก็ไม่ได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้ กลับกันแล้ว พวกเขาต้องเสียหยกของราชาเทพต้วนมู่ไปหรือไม่ก็ถูกทำลายตระกูลไปด้วย

แต่ตอนนี้หยกชิ้นนั้นกลับอยู่ในมือของอันโดฟู มันหมายความว่าคนที่โม่หลิงส่งยังเมืองหลักนั้นได้พบจุดจบไปแล้ว

“โม่หลิง เจ้าจะยอมแพ้หรือไม่ ? ข้าขอถามเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าจะยอมแพ้หรือจะดิ้นรนอย่างไร้ค่า ? หากเจ้ายอมแพ้ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” ลู่เทียนพูดขึ้นมา

“เจ้าคงฝันไปหากเจ้าคิดว่าตระกูลโม่จะยอมแพ้” โม่หลิงพูดขึ้นมา ในเมื่อตอนนี้ตระกูลของเขามีเจี้ยนเฉินและเฉินเจี้ยน เขาก็เริ่มมั่นใจมากกว่าเดิม

สายตาของลู่เทียนเย็นชามากกว่าเดิม เขาได้สั่งการออกมาโดยไม่ลังเล “ลงมือ ! ” ด้วยคำสั่งนี้จอมยุทธขั้นศักดิ์สิทธิ์ 7 คนจากตระกูลลู่และจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมทั้งหมดด้านหลังต่างก็พากันลงมือ พลังงานดั้งเดิมได้ปะทุขึ้นมาพร้อมกับการโจมตีกว่า 900 อันได้พุ่งเข้าใส่ม่านพลังของตระกูลโม่

“ลงมือ ! ” ในเวลาเดียวกัน อันโดฟูก็สั่งการเช่นกัน ผู้อาวุโสและนักสู้ขอบเขตดั้งเดิมของเขาต่างก็ทำการโจมตีเช่นเดียวกัน พวกเขาได้โจมตีโล่พลังพร้อมกันกับพวกตระกูลลู่

ตูม !

“บรรพชน ตระกูลโม่ทำเกินไป ตอนที่ผู้อาวุโสโม่ชานและผู้อาวุโสโม่หยุนได้พาฟานเอ๋อไปที่ตระกูลโม่ครั้งก่อน ทั้งโม่หยุนและฟานเอ๋อต่างก็เสียแขน มันเท่ากับการตบหน้าเรา หากเราไม่แก้แค้น เราจะมีเกียรติเช่นนั้นรึ ? ” หัวหน้านิกายพูดขึ้น

“ข้าได้คุยกับผู้อาวุโสทั้งสองแล้ว ข้ารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ไม่ใช่ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะลูกชายที่น่าผิดหวังของเจ้ารึไง ? ” ชายวัยกลางคนพูดขึ้น

สีหน้าของหัวหน้านิกายเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาได้พูดขึ้นด้วยความกระอักกระอ่วน “บรรพชน เรามองข้ามเรื่องนี้ไปไม่ได้หรือ ? ”

ชายวัยกลางคนส่ายหน้าและถอนหายใจออกมา “ ยู่ห่าว เจ้าหยิ่งทะนง ข้ารู้สึกผิดที่ยกตำแหน่งหัวหน้านิกายให้กับเจ้า หากเจ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ทั้งนิกายอาจจะถูกทำลายด้วยมือของเจ้า”

หัวหน้านิกายแปลกใจ เขารู้สึกกลัวขึ้นมาทันทีและพูดขึ้นอย่างสุภาพ “อย่าโกรธเคืองเลย บรรพชน ใจเย็น ๆ ก่อน เป็นข้าเองที่ไม่คิดให้ถี่ถ้วน ข้าไม่รู้ว่าจะมีผลลัพธ์เช่นนี้ มันจะดีหากเราไม่คุกคามตระกูลโม่ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ยิ่งใหญ่กว่านิกายของเรา แต่พวกนั้นก็คงอยู่กันมานาน”

“เฮ้อ” ชายวัยกลางคนถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวัง เขาหันไปหาหัวหน้านิกายและพูดขึ้น “ยู่ห่าว เจ้ายังไม่เข้าใจในสิ่งที่ข้าพยายามจะบอก เราไม่คิดจะเปิดศึกกับตระกูลโม่” ชายวัยกลางคนเงียบพร้อม

สายตาที่เปลี่ยนไปก่อนจะพูดต่อ “ แต่ตระกูลโม่นั้นได้ทำให้ผู้อาวุโสโม่หยุนแขนขาด หากเราไม่ตอบโต้เรื่องนี้ สถานะของเราก็จะตกต่ำลง เราไม่อาจจะเข้าไปยุ่งกับการต่อสู้ระหว่างตระกูลโม่, ตระกูลอันโดและตระกูลลู่ได้ แต่เราจะใช้พลังที่เรามีในการฆ่าคนของตระกูลโม่เมื่อพวกเขาพ่ายแพ้”

“หากตระกูลลู่และตระกูลอันโดไม่อาจจะทำลายตระกูลโม่ได้แม้ว่าจะร่วมมือกัน เราก็จะมองข้ามเรื่องแขนของ ผู้อาวุโสโม่หยุนไป เราจะไม่พูดถึงมันอีก”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ