เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 174

ตอนที่ 174: การต่อสู้ที่ดุเดือด

ทุกคนในโรงประมูลจับตามองไปที่ผ้าสีดำที่คลุมของอยู่ แม้ว่านี่จะเป็นเพียงหนึ่งในร่างของสัตว์อสูรระดับห้าเท่านั้น แต่มันก็ยังเป็นที่ดึงดูดความสนใจของคนเป็นจำนวนมาก ในใจของพวกเขา พวกเขาคิดว่าตลอดทั้งชีวิตของพวกเขา นี่อาจจะเป็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่พวกเขาจะได้เห็นสัตว์อสูรระดับห้า

เพราะว่าสัตว์อสูรระดับห้านั้นไม่เหมือนเซียนปฐพี ในเมืองที่พลุกพล่านหลายเมือง นิกายที่ใหญ่ที่สุดหลายนิกายมีเซียนปฐพีเพียงสองสามคนเท่านั้น สัตว์อสูรระดับห้านั้นแตกต่างจากมนุษย์มาก พวกมันอยู่แต่ในบริเวณของมันแทนที่จะออกไปไหนมาไหน เมื่อไรก็ตามที่มันเจอกับมนุษย์เข้า มนุษย์ที่ไปเจอมันคงต้องตายแน่ ๆ ดังนั้นสัตว์อสูรระดับห้าจึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มนุษย์ที่อ่อนแอหลายคนไม่ต้องการที่จะไปเจอเข้า

ในขณะที่ผู้นำประมูลเอาผ้าดำออกไป วัตถุที่ซ่อนอยู่ข้างใต้ก็ถูกเปิดเผยออกมาในที่สุดต่อหน้าฝูงชนที่ตั้งหน้าตั้งตารออย่างกระตือรือร้น

ใต้ผ้านั้นมีสัตว์อสูรที่มีสีดำสนิทเหมือนวัว คนที่อยู่ใกล้ใกล้เห็นได้ว่ามันมีปีกเล็ก ๆ บนหลังของสัตว์อสูร

สัตว์อสูรนอนอยู่อย่างสงบแน่นิ่งบนแคร่ ร่างของมันยาวประมาณ 4-5 เมตร และมันดูเหมือนเนินเขาขนาดย่อม ๆ

“อย่าบอกข้านะว่านี่คือสัตว์อสูรระดับห้า…”

“สัตว์อสูรระดับห้าเป็นแบบนี้จริงหรือ? มันไม่รู้สึกแตกต่างจากสัตว์อสูรระดับหนึ่งในระดับสองเลย…”

“วันนี้เป็นวันที่ข้าได้เห็นสัตว์อสูรระดับห้าในที่สุด การเดินทางของข้าไม่ได้สูญเปล่าเลย 50 เหรียญทองไม่ได้สูญเปล่าเลย…”

“มันเป็นศพของสัตว์อสูรระดับห้าจริงจริง เหมือนว่ามันจะเป็นวัวปีกนภา…”

….

หลังจากที่สัตว์อสูรระดับห้าถูกเปิดเผยออกมา โรงประมูลที่เงียบอยู่ก่อนหน้านี้ก็มีเสียงออกมาทันที สายตาของทุกคนรวมกันไปที่ร่างของสัตว์อสูรระดับห้าที่นอนอยู่บนเวที เสียงหารือที่ตึงเครียดและเสียงถอนหายใจอย่างตกตะลึงดังซ้อนกันออกมาไม่หยุด ในหมู่คนที่อยู่ที่นี่ บางคนมีชีวิตอยู่มาหลายสิบปี แต่พวกนั้นก็ยังไม่เคยเห็นสัตว์อสูรระดับห้ามาก่อน แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ศพ แต่ความรู้สึกของพวกเขาก็เหมือนได้รับการเติมเต็ม

“อะแฮ่ม อะแฮ่ม!”

ทันใดนั้นเอง เสียงกระแอมก็ดังไปทั่วทั้งโรงประมูล หลังจากเสียงนี้ดังขึ้นมา เสียงดังวุ่นวายในโรงประมูลก็ค่อย ๆ สงบลง

เจ้าภาพประมูลยืนยิ้มอยู่บนเวทีในขณะที่เขามองไปที่ผู้คนหลายแสนที่มาเข้าร่วมการประมูลและประกาศออกมาเสียงดัง “สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ศพของสัตว์อสูรข้างหน้าของข้านี้เป็นวัวปีกนภาระดับห้า แม้ว่ามันจะไม่มีแกนสัตว์อสูรด้านในแล้ว แต่มันก็ยังเป็นสมบัติที่ล้ำค่าอยู่ดี ข้ามั่นใจว่าทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่รู้ว่า การกินเนื้อของสัตว์อสูรระดับห้าเข้าไปเป็นเวลานานนั้น จะไม่เพียงเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายของพวกท่านเท่านั้น แต่มันยังช่วยพัฒนาพลังเซียนภายในได้เล็กน้อยด้วย นอกเหนือไปจากนั้น ว่ากันว่ามันมีโอกาสที่ท่านจะตัดผ่านจากเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษเป็นเซียนปฐพีได้”

หลังจากที่ได้ยินประโยคสุดท้ายของผู้นำประมูล โรงประมูลที่เงียบอยู่ก็กลับมาวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง ทุกคนจ้องไปที่สัตว์อสูรระดับห้าที่อยู่บนเวทีอย่างเคร่งเครียด พวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกโลภและตะกละ

ในทวีปเทียนหยวนนั้น ข่าวลือบอกชัดว่าการกินเนื้อสัตว์อสูรระดับห้าเป็นเวลานานจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตัดผ่านจากเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษไปเป็นเซียนปฐพี

แม้ว่าเซียนปฐพีจะไม่ได้ดูยิ่งใหญ่อะไร แต่มันก็ก็เป็นอะไรที่สูงส่งกว่าการมีอยู่หลายพันของเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษบนทวีปเทียนหยวน

เซียนปฐพีเป็นอีกก้าวต่อมาของเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ แต่นี่ก็ดูเหมือนเป็นช่องว่างที่กันไม่ให้คนนับล้านข้ามไปได้ มีหลายคนในทวีปเทียนหยวนที่สูญเสียชีวิตไปเพื่อที่พยายามจะตัดผ่านเป็นเซียนปฐพี

นี่เป็นเพราะความต้องการในการตัดผ่านนั้นต้องทำลายอาวุธเซียนของตัวเองให้เป็นผุยผงและจากนั้นก็ใช้ความสามารถในการดูดซึมพลังงานปริมาณมหาศาลมาเพื่อที่จะสกัดชิ้นส่วนของอาวุธเซียนที่เสียหายนั้นใหม่ตั้งแต่เริ่มต้นและรวมมันให้สำเร็จ หลังจากที่เสร็จขั้นตอนนี้แล้วเท่านั้นถึงจะได้เป็นเซียนปฐพี

อย่างไรก็ตาม อาวุธเซียนนั้นเป็นตัวแทนของเจ้าของ เมื่ออาวุธเซียนถูกทำให้เสียหาย เจ้าของก็จะได้รับความเสียหายไปด้วยผ่านการเชื่อมโยงกัน และถ้าอาวุธเซียนแตกสลายไป ก็จะมีผลลัพธ์เกิดขึ้นได้สองอย่าง ผลลัพธ์ที่รุนแรงน้อยกว่าก็คือผู้นั้นจะเสียพลังเซียนไปทั้งหมดและกลายเป็นคนที่ไร้พลังที่ไม่สามารถฝึกฝนได้ ผลลัพธ์ที่ร้ายแรงมากกว่านั้นคือความตาย

ด้วยเหตุผลนั้นจึงทำให้มีคนน้อยกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์บนทวีปเทียนหยวนที่สามารถกลายเป็นเซียนปฐพีได้สำเร็จ

ขั้นตอนนี้ทำให้เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษหลายล้านคนไม่ต้องการที่จะเสี่ยงและอยู่ในขอบเขตเดิมต่อไปจนตาย

นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสัตว์อสูรระดับห้าที่สามารถเพิ่มโอกาสในการพัฒนาการเป็นเซียนปฐพีได้จึงทำให้คนตื่นเต้นกันมาก

ในตอนนี้เอง เสียงของผู้นำการประมูลก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง “ในตอนนี้ ศพของวัวปีกนภาระดับห้าจะถูกนำมาประมูล ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 5,000 เหรียญม่วง ทุกครั้งที่มีการประมูลเพิ่ม จะต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 100 เหรียญม่วง”

“ข้าขอประมูล 6,000 เหรียญม่วง…”

ทันทีที่ผู้นำประมูลประกาศจบ เสียงประมูลกังออกมาจากห้องวีไอพีทันที

“6,500 เหรียญม่วง” เสียงอีกเสียงจากอีกห้องวีไอพีดังออกมา

“6,600 เหรียญม่วง”

“6,700 เหรียญม่วง”

“7,000 เหรียญม่วง”

คนแล้วคนเล่า ราคาประมูลที่สูงอย่างน่ากลัวก็ดังออกมาจากห้องวีไอพีของโรงประมูล ในตอนนี้ ไม่มีใครเลยที่นั่งอยู่ในพื้นที่ทั่วไปประมูลออกมา

ถ้ามีคนที่ต้องการจะซื้อสัตว์อสูรระดับห้า พวกเขาไม่เพียงแต่ต้องมีเงินพอเท่านั้น พวกเขายังต้องมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับหนึ่งด้วย ไม่เช่นนั้น ทันทีที่เขาออกจากโรงประมูลไป สัตว์อสูรระดับห้าต้องถูกขโมยไปแน่

นั้นเป็นเหตุผลที่คนที่แข่งราคากันเพื่อสัตว์อสูรระดับห้าในตอนนี้นั้นมีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่งแล้วและพวกเขาทั้งหมดก็ไม่กังวลเกี่ยวกับการถูกขโมย

“8,000 เหรียญม่วง”

การแข่งขันเพื่อสัตว์อสูรระดับห้านั้นตึงเครียดมาก ในพริบตาเดียว ราคาก็สูงขึ้นไปถึง 8,000 เหรียญม่วง นอกเหนือไปจากนั้น มันยังคงเพิ่มขึ้นไปเรื่อยเรื่อยอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

“8,500 เหรียญม่วง ศพของสัตว์อสูรระดับห้านี้ต้องเป็นของตระกูลยู่หลัน ถ้าใครกล้าที่จะแข่งกับพวกเรา คนคนนั้นจะเป็นศัตรูกับตระกูลยู่หลัน” เสียงทุ้มดังสะท้อนออกมาจากห้องวีไอพีห้องหนึ่ง น้ำเสียงนั้นเย่อหยิ่งมาก และมันเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าคนคนนี้หวังที่จะชนะ

“ตระกูลยู่หลัน ที่อยู่ในเมืองเมฆอัคคีงั้นหรือ?”

“นั่นเป็นตระกูลยู่หลันจริง ๆ พวกเขาเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองเมฆอัคคีและทรงพลังมาก แม้แต่ท่านเจ้าเมืองยังให้ความเคารพตระกูลยู่หลันมาก ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะมาเข้าร่วมด้วยเลย”

เมื่อได้ยินคำว่า “ตระกูลยู่หลัน” โรงประมูลก็มีเสียงอื้ออึงไปด้วยการพูดคุยทันที แม้ว่าตระกูลยู่หลันจะไม่ได้มีอำนาจในเมืองฟีนิกซ์ แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็เพียงพอให้พวกเขามีอิทธิพลไปในบริเวณใกล้เคียงเช่นกัน

“ฮ่าฮ่า คนของตระกูลยู่หลัน พวกเจ้าจะพูดแบบนั้นไม่ได้ นี่คือโรงประมูล ไม่ว่าจะยังไง ของก็เป็นของคนที่จ่ายสูงที่สุด ตระกูลฮาริโด้จะประมูลที่ราคา 10,000 เหรียญม่วง สัตว์อสูรระดับห้านี้จะเป็นของพวกเราแน่นอน” เสียงค่อนข้างมีอายุดังออกมาจากห้องวีไอพีตรงข้ามเพื่อตอกกลับคนของตระกูลยู่หลัน

“นั่นไม่ใช่ตระกูลฮาริโด้ที่มีอำนาจอยู่ที่เมืองลูซอย่างนั้นหรือ? มันห่างอย่างน้อยเป็นพันไมล์จากเมืองฟีนิกซ์ ใครจะคิดล่ะว่าพวกเขาก็จะมาด้วยเช่นกัน ? “

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ