เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 1922

ตอนที่ 1922 – ความโกรธที่แผดเผา

ขั้นเหนือเทพหลายคนเห็นผู้นำตระกูลเทียนหยวน เจี้ยนเฉิน โดนยันต์ระดับราชาเทพเช่นกัน แม้ว่าหลายคนจะเชื่อว่าเจี้ยนเฉินเสียชีวิตไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความวุ่นวายในการต่อสู้

ขั้นเหนือเทพสามารถตายได้ตลอดเวลาในการต่อสู้ขนาดใหญ่ระหว่างขั้นเหนือเทพ แม้แต่ความตายของขั้นเหนือเทพขั้นสูงสุดดั่งเช่นเจี้ยนเฉินจะทำให้บางคนลอบถอนใจด้วยความเสียดาย

“ ช่างน่าเสียดาย ก่อนที่เราจะตัดสินแพ้ชนะ เจ้าก็ตายไปแล้ว” เฉิงลั่วกล่าวด้วยความสงสาร คลื่นกระแทกจากยันต์ได้โจมตีเขาด้วย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาอยู่ห่างไกลพอและพลังส่วนใหญ่ไปลงที่เจี้ยนเฉินทำให้เขาไม่บาดเจ็บ

“ เจี้ยนเฉิน มาดูกันว่าเจ้าจะอยู่รอดได้อย่างไร ? ” ผู้หญิงคนที่ถือพัดที่รับมือกับการโจมตีของเจี้ยนเฉินได้ถอยออกจากการต่อสู้ไปแล้ว นางจ้องไปที่ที่เจี้ยนเฉินเคยอยู่มาก่อนอย่างเย็นชา การตายของเขาทำให้นางยินดี

“ ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ใช่เจ้ามีความแข็งแกร่งพอที่จะเข้าสู่ป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพหรือ ? แต่อะไรกัน? เจ้ายังคงเสียชีวิตในน้ำมือของข้าในที่สุด แม้ว่ายันต์จะมาจากอาจารย์และการฆ่าเจ้าก็เป็นความตั้งใจของอาจารย์และผู้อาวุโสอีกสองคน แต่เจ้าก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่าเจ้าตายด้วยน้ำมือของข้า”

“ อืม เจ้าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนสำหรับการล่วงเกินสำนักจิตวิญญาณปฐพีของเรา แม้ว่าเจ้าจะเป็นราชาเทพขั้นสูงสุด อย่าว่าแต่เป็นขั้นเหนือเทพช่วงสูงสุดเพียงคนเดียว” ผู้หญิงที่ถือพัดหัวเราะเยาะ เมื่อนางคิดถึงวิธีที่นางฆ่าขั้นเหนือเทพช่วงสูงสุดและกำจัดใครบางคนที่นางเกลียดเข้ากระดูกดำ นางรู้สึกดีใจอย่างที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้นรอยยิ้มของนางก็แข็งค้าง ดวงตาของนางเบิกกว้างราวกับว่านางเพิ่งเห็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ นางตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อ

ร่างโชกเลือดค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนจากใจกลางสนามรบระหว่างขั้นเหนือเทพ เลือดปกคลุมใบหน้าของเขา ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะแยกแยะตัวตนของเขา อย่างไรก็ตาม ปราณกระบี่ที่ทรงพลังแผ่รังสีออกมาจากตัวเขาพร้อมด้วยจิตสังหารที่รุนแรง

จิตสังหารนั้นทรงพลังจนโลกดูเหมือนจะซีดเซียวและพลังงานดั้งเดิมดูเหมือนจะสั่นไหว ขั้นเหนือเทพที่ต่อสู้ในศูนย์กลางสนามรบต่างก็ประหลาดใจเมื่อพวกเขาเปิดเผยสีหน้าที่เป็นห่วง

“ นั่นคือเจี้ยนเฉิน ! ”

“ สวรรค์ ผู้นำตระกูลเทียนหยวนยังมีชีวิตอยู่ ! ”

“เป็นไปได้อย่างไร ? ถูกโจมตีด้วยยันต์ระดับราชาเทพก็เหมือนกับการถูกโจมตีโดยตรงจากราชาเทพ แต่ผู้นำตระกูลเทียนหยวนยังคงอยู่รอดได้ ! ”

เสียงดังเซ็งแซ่งขึ้นมาทันทีในบริเวณโดยรอบ

ถ้าเจี้ยนเฉินเสียชีวิตจริง ๆ ผู้คนจะไม่มีปฏิกิริยาอย่างรุนแรงเพราะนั่นคือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นตามความเชื่อของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม เขาสามารถอยู่รอดได้จริง เขาเพียงได้รับบาดเจ็บหลังจากโดนการโจมตีของราชาเทพ ในฐานะขั้นเหนือเทพ สิ่งนี้ทำให้ทุกคนตกใจ ทำให้พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ

“เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้ เขายังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ? อย่างไร ? ถูกโจมตีด้วยยันต์ระดับราชาเทพ ในขณะที่ลดการป้องกันก็ไม่สามารถฆ่าเขาได้ เรื่องนี้เป็นไปได้อย่างไร ? ” ผู้หญิงคนที่ถือพัดได้ถอยกลับไปที่กำแพงป้อมแล้ว เมื่อนางเห็นเจี้ยนเฉินลุกขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง นางประหลาดใจอย่างแท้จริง

ในขณะนั้น จิตสังหารของเจี้ยนเฉินนั้นทรงพลังมากจนน่ากลัวอย่างแท้จริง แค่จิตสังหารก็ก่อให้เกิดการขัดขวางทำให้ขั้นเหนือเทพทั้งหมดของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าถอยหลังกลับไปจากเขา

แม้ว่าหลายคนรู้ว่าเจี้ยนเฉินได้รับบาดเจ็บหนัก จิตสังหารนั้นทำให้พวกเขาประหลาดใจ เป็นผลให้ไม่มีใครในพวกเขาเต็มใจที่จะเข้าใกล้เจี้ยนเฉิน

พวกเขาไม่กล้าโจมตีเจี้ยนเฉินด้วยเช่นกัน !

“สำนักจิตวิญญาณปฐพี!” เจี้ยนเฉินจ้องที่ผู้หญิงที่ถือพัดคนนั้นที่ยืนอยู่บนผนังเขม็งในขณะที่เขากัดฟันพูดคำเหล่านี้ น้ำเสียงของเขาแข็งกระด้างอย่างมาก

เขาต่อสู้กับขั้นเหนือเทพช่วงสูงสุดของลัทธิปิศาจชั้นฟ้า หยุดเขาจากการสังหารผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตผู้คนในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้คนจากค่ายสำนักอื่น ๆ หลีกเลี่ยงการเสียชีวิตด้วยมือของเฉินลั่ว

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ เขาไม่เคยคาดหวังว่าจะมีใครบางคนที่อยู่ข้างเขาจัดการโจมตีเขาได้ ทำให้เขาต้องทนต่อพลังของราชาเทพที่คาดไม่ถึง

มันจะไม่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับการรับมือ หากสำนักจิตวิญญาณปฐพีลอบโจมตีเขาในเวลาอื่น แต่จริง ๆ เป็นเช่นนี้ตลอดหรือ ? เมื่อฝ่ายตรงข้ามมีพลังมากดั่งเช่นลัทธิปิศาจชั้นฟ้าที่อยู่ตรงหน้า พวกเขายังมีคนที่ไม่สนใจภาพรวมและหันมามองเรื่องของตัวเอง

สิ่งนี้ทำให้เจี้ยนเฉินโกรธจัด ความโกรธแค้นภายในตัวเขามาจนถึงจุดที่เขารู้สึกว่าเขาต้องการทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง

เรื่องเช่นนี้จะไม่มีวันได้รับการอภัย !

ในช่วงเวลาต่อมา เจี้ยนเฉินได้กลายเป็นแสงสว่างโดยตรง เขาไม่ได้ฆ่าผู้คนของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าอีกต่อไป เขาพุ่งเข้าหากำแพงโดยตรงโดยมุ่งหน้าไปหาผู้หญิงคนที่ถือพัด