ตอนที่ 1968: องค์ชายเก้า
ข้อเสนอแนะที่น่าประหลาดใจของเจี้ยนเฉินทำให้ทุกคนต้องตะลึง แม้แต่ราชาศักดิ์สิทธิ์ก็ยังประหลาดใจอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นานผู้อาวุโสทุกคนที่วิงวอนขอชีวิตให้มู่กูก็ยินดี
สำหรับพวกเขา การปกป้องตระกูลเทียนหยวนหนึ่งหมื่นปีนั้นไม่มีอะไรเทียบได้กับชีวิตของมู่กู
ราชาเทพทุกคนมีชีวิตอยู่เป็นเวลานาน ใครจะรู้ว่าพวกเขามีชีวิตอยู่มากี่หมื่นปี ? เป็นผลให้เวลาหนึ่งหมื่นปีเป็นเวลาสั้นเกินไปในสายตาของพวกเขา
ในที่สุดเจ้าสำนักก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจเช่นกัน แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอับอายและน่าขายหน้าเป็นอย่างมากสำหรับราชาเทพที่จะคุ้มครองตระกูลของขั้นเหนือเทพเป็นเวลาหมื่นปี ความอับอายและความอัปยศอดสูนั้นไม่มีอะไรเทียบได้กับชีวิตของมู่กู
ยิ่งกว่านั้นขั้นเหนือเทพคนนี้ไม่ใช่ขั้นเหนือเทพทั่วไป แต่เป็นคนที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษและสามารถท้าทายผู้ที่ได้รับการจัดอันดับหนึ่งในป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพ
เมื่อขั้นเหนือเทพเช่นนี้กลายเป็นราชาเทพ เขาจะสามารถไปถึงบัลลังก์ราชาเทพได้แน่นอน เขาอาจสามารถท้าทายผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นได้ในขณะที่ตัวเองเป็นราชาเทพ
การดูแลตระกูลขั้นเหนือเทพสูงสุดเช่นนี้เป็นเวลาหมื่นปีไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่น่าอับอาย
“ผู้อาวุโสมู่ หยุดลังเล เห็นด้วยเถอะ”
ราชาเทพหลายคนรวมถึงเจ้าสำนักต่างก็กระตุ้นมู่กูอย่างลับ ๆ
บนสนามประลอง มู่กูยืนหน้าซีดไม่หวั่นไหว เขามืดมนเมื่อเขาจ้องมองเจี้ยนเฉินด้วยความงุนงง เขาย่อมได้ยินข้อความมากมายจากเหล่าผู้อาวุโสเป็นธรรมดา แต่การให้ราชาเทพผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขาไปคุ้มครองตระกูลของคนอื่นเป็นเวลาหมื่นปีเป็นสิ่งที่ยากมากที่จะยอมรับได้
ผู้อาวุโสมู่ยืนอยู่บนสนามประลอง เขาใช้ความคิดอยู่นานมาก เขาอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ในท้ายที่สุด เขาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองบรรพชนของสำนักจิตวิญญาณปฐพี
บรรพชนของสำนักจิตวิญญาณปฐพียืนห่างกันอย่างสงบ เขาไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ เลย
ในท้ายที่สุด ผู้อาวุโสมู่มองเจี้ยนเฉินอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เขามองไปที่คนซึ่งเป็นเพียงขั้นเหนือเทพ แต่มีความกล้าหาญในการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่จนเขาไม่สามารถสู้ได้ เขาถอนหายใจอย่างหมดหวังก่อนจะพูดด้วยความเสียใจ “ข้าจะคุ้มครองตระกูลของเจ้าเป็นเวลาหมื่นปี”
ประโยคสั้น ๆ กลับต้องพลังงานจำนวนมากสำหรับมู่กูในการพูด ดูเหมือนว่าเขาจะห่อเหี่ยวหลังจากพูดประโยคดังกล่าว ราวกับว่าเขาได้สูญเสียจิตวิญญาณของเขา เขาสลดใจอย่างแท้จริง
“เนื่องจากความข้องใจได้รับการแก้ไขแล้วก็ถึงเวลาที่เราต้องไป ซางตู ไว้เราคุยกันทีหลัง” ราชาศักดิ์สิทธิ์กล่าวกับบรรพชนของสำนักจิตวิญญาณปฐพี
บรรพชนของสำนักจิตวิญญาณปฐพีป้องมือแสดงความเคารพราชาศักดิ์สิทธิ์ หลังจากคุยกันเล็กน้อย เขาก็กล่าวอำลากับราชาศักดิ์สิทธิ์
หลังจากนั้นราชาศักดิ์สิทธิ์และเจี้ยนเฉินก็ปีนกลับขึ้นไปบนรถม้าและทะยานออกไปภายใต้สายตาของเหล่าผู้อาวุโสและสาวกหลายคน
ผู้อาวุโสมู่ไม่ได้ไปกับพวกเขา เขาจะลงหลักปักฐานในตระกูลเทียนหยวน หลังจากเขาจากไปและเขาจะคุ้มครองตระกูลเทียนหยวนเป็นเวลาหมื่นปี เขาจึงต้องการสะสางเรื่องที่เขาต้องดูแลก่อนที่เขาจะจากไป
“มู่กูไปหาข้าที่ห้อง” บรรพชนพูดกับมู่กูก่อนที่จะล่องลอยไป
บนยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาของสำนักจิตวิญญาณปฐพี พลังงานดั้งเดิมได้ก่อตัวเป็นหมอกที่โค้งอยู่บนยอดภูเขา บดบังมันทำให้ดูเหมือนว่ามันไปถึงก้อนเมฆ
ยอดเขานี้เป็นสัญลักษณ์ของแก่นแท้ของสำนักจิตวิญญาณปฐพีเช่นเดียวกันก็ยังเป็นกระดูกสันหลังที่ช่วยสนับสนุนสำนักให้เจริญรุ่งเรือง
มันเป็นที่ที่บรรพชนของสำนักจิตวิญญาณปฐพีบ่มเพาะ
ในขณะนี้ บรรพชนของสำนักจิตวิญญาณปฐพียืนอยู่บนหน้าผาบนยอดเขา เขาจ้องมองไกลออกไปอย่างลึกซึ้งในขณะที่สายลมพัดผ่าน ทำให้ผมสีเงินและเสื้อผ้ายาวของเขาพลิ้วไหว
ข้างหลังเขามีเจ้าสำนักคนปัจจุบันและมู่กูที่ท้อแท้ยืนอยู่
“มู่กู เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมข้าถึงบังคับให้เจ้าแพ้ ? ” บรรพชนที่ยืนหันหลังพูดอย่างสงบ
อย่างไรก็ตามเสียงสงบก็เต็มไปด้วยความรู้สึกหมดหนทาง
“ตอนแรกข้าก็ไม่รู้มาก่อน แต่ข้าเข้าใจหลังจากนั้น เป็นเพราะผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่อยู่เบื้องหลังเจี้ยนเฉินนั้นทรงพลังมาก” มู่กูกล่าว
“บรรพชน ท่านรู้จักตัวตนของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่อยู่เบื้องหลังเจี้ยนเฉินหรือไม่ ? ” เจ้าสำนักถาม
บรรพชนของสำนักจิตวิญญาณปฐพีถอนหายใจ “ข้าไม่รู้ว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่อยู่เบื้องหลังเจี้ยนเฉินคือใคร แต่นางไม่ใช่คนที่สำนักจิตวิญญาณปฐพีของเราสามารถทำให้ขุ่นเคืองได้ นางมีพลังมากมหาศาล ท่าทางที่เรียบง่ายของนางสามารถทำลายสำนักจิตวิญญาณปฐพีของเราได้ในพริบตา”
ขณะที่พูด บรรพชนก็อดไม่ได้ที่จะคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสามวันก่อน
ย้อนกลับไปตอนที่เขาฝึกบ่มเพาะในห้องลับ หญิงสาวสวยในชุดขาวปรากฏตัวต่อหน้าเขาเงียบ ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าผู้หญิงคนนั้นได้ปล่อยพลังแห่งการมีอยู่ออกมาและเตือนเขา เขาอาจจะไม่ได้รู้ว่ามีคนบุกรุกเข้ามาในห้องลับที่ปกคลุมด้วยค่ายกลแม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไป
แม้ว่าผู้หญิงคนนนั้นไม่ได้แตะต้องเขา แต่พลังแห่งการมีอยู่ของนางนั้นทรงพลังมากจนบรรพชนยังคงจำเหตุการณ์ได้เหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ
ลงครั้งละ สี่ ห้า บท ได้ไหม...
กรุณาลงบทครั้งละหลายบทหน่อยนะครับ ชอบ ๆ...
รออ...
ตอน 1419-1420 หายครับ...
จบแล้ว......
มีต่อไหมครับ...
เมื่อไรจะอัพเดทค้าบ รอนานแล้ว...
ต่อๆๆๆ...
เลิกอัพแล้วหรา...
good novel...