ตอนที่ 2253: ความขุ่นเคือง
หลังจากที่หานซินจากไป ไป๋หยูก็มองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างชื่นชม บางทีอาจเพราะตื่นเต้นมากเกินไป ใบหน้าของนางจึงแดงก่ำ
“ศิษย์น้อง…ไม่ ศิษย์พี่ ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเอาชนะเหวินเฉิงได้จริง ๆ เจ้าแข็งแกร่งอย่างมากและเต็มไปด้วยความโดดเด่น ตั้งแต่วันนี้ไปเจ้าเป็นศิษย์พี่รองของข้า” ไป๋หยูเกาะแขนของเจี้ยนเฉินและพูดอย่างมีความสุข นางไม่รู้ตัวว่าได้กอดแขนเจี้ยนเฉินไว้แนบหน้าอกของนางในตอนนี้
“ศิษย์พี่ บอกข้าเร็ว ๆ เจ้าเอาชนะเหวินเฉิงได้อย่างไร เจ้าต้องสอนข้า ข้าจะได้สามารถเอาชนะเขาได้ในครั้งหน้าเมื่อข้าเผชิญกับเขา” ไป๋หยูมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความหวังด้วยดวงตาโต ๆ และสดใสของนาง มันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความคาดหวัง
“เจ้าไม่ได้อยู่ข้างสังเวียนหรือศิษย์น้อง ? เจ้าก็เห็นแล้วว่าข้าเอาชนะเหวินเฉิงอย่างไร ? ” เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างขมขื่น เนื่องจากเขาต้องการหลุดพ้นจากการเกาะกุมที่น่าอึดอัดใจของไป๋หยู
ตอนนี้เองที่ไป๋หยูรู้ทันทีว่าเขนของเจี้ยนเฉินนั้นอยู่บริเวณต้องห้ามของผู้หญิง มันทำให้ใบหน้าของนางขึ้นสีเล็กน้อยและนางก็ปล่อยแขนของเจี้ยนเฉินทันที หลังจากนั้นนางก็พูดอย่างรำคาญว่า “ข้าไม่สนใจ เจ้าต้องสอนข้า สอนข้าในการเรียนรู้เคล็ดลับในการควบคุมพลังเซียนธาตุแสง….หรือไม่งั้นข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไป” ด้วยสิ่งนี้ไป๋หยูจึงกางแขนนางออกมาและขวางทางเจี้ยนเฉิน ดูเหมือนว่านางจะไม่ปล่อยให้เจี้ยนเฉินไปไหนจนกว่าเขาจะตอบตกลง
เจี้ยนเฉินรู้สึกอับจนปัญญาขณะที่เขามองไปที่ไป๋หยู เขาพูดว่า “เอาล่ะ ก็ได้ ก็ได้ ข้าจะสอนเจ้าให้ดีที่สุด ศิษย์น้องไป๋ ข้าต้องรักษาตัวก่อน เพราะงั้นเจ้าจะปล่อยข้าได้หรือยัง ? ” เจี้ยนเฉินชี้ไปที่เสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดซึ่งมองเห็นได้จากระยะไกล
เขามองดูสถานที่ที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้และวัชพืช ศิษย์พี่ใหญ่ของยอดเขาทะยานเมฆ จ้าวเฟิงที่ซ่อนตัวอย่างเงียบ ๆ ภายใต้เงาของพุ่มไม้ทำให้เขาซ่อนตัวอย่างสมบูรณ์ ดูเหมือนว่าไป๋หยูจะทำตัวสนิทสนมกับเจี้ยนเฉินอย่างมาก ใบหน้าหล่อเหลาของเขามืดหม่นอย่างสมบูรณ์ ขณะที่จ้องมองเจี้ยนเฉินอย่างเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความอิจฉา
“ไอ้สารเลว เหวินเฉิงนี่ไร้ประโยชน์ เขาแพ้ให้กับเจียงหยางได้อย่างไร เขาเป็นเพียงคนที่มีแกนวิญญาณหนึ่งสีเท่านั้น ? เมื่อคิดว่าแม้แต่ข้า พลังของศิษย์พี่ใหญ่ของยอดเขาทะยานเมฆที่มีแกนวิญญาณสามสียังบาดเจ็บสาหัสเพราะเหวินเฉิง แต่เหวินเฉิงก็เพิ่งจะพ่ายแพ้กับเจียงหยางที่มีแกนวิญญาณหนึ่งสี นั่นไม่ได้หมายความว่าข้าไม่เทียบเท่ากับเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงแกนวิญญาณหนึ่งสีงั้นหรือ ? ”
“ผู้อาวุโสและพี่น้องคนอื่นของยอดเขาจะคิดกับข้าอย่างไร ? ”
จ้าวเฟิงโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ ใบหน้าของเขามืดครึ้มอย่างน่ากลัว เขากำหมัดแน่น ขณะที่เล็บได้จิกเข้าไปในเนื้ออย่างแรง
คนที่เขาชนะเขาได้ เหวินเฉิง ได้พ่ายแพ้ให้กับคนที่ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาอย่างเจียงหยางภายใต้การรับรู้ของทุกคน มันทำให้จ้าวเฟิงรู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นตัวตลก
เมื่อรวมเข้ากับการที่ไป๋หยูมาอยู่กับเจียงหยางหลังจากที่ได้รับชัยชนะครั้งใหญ่แล้ว จ้าวเฟิงก็ยิ่งโกรธมากกว่าเดิม เขาเริ่มเกลียดชังเจี้ยนเฉินด้วยเหตุนี้
ตอนนี้เจี้ยนเฉินได้กลับไปที่บ้านของเขา เขาจัดการเก็บกวาดสถานที่ที่ยุ่งเหยิงอีกครั้งก่อนที่จะค่ายกลระดับต่ำง่าย ๆ ที่ทางเข้าบ้าน จากนั้นเขาก็นั่งอยู่กลางบ้าน
เขาไม่ได้รับษาอาการบาดเจ็บที่หน้าอกของเขา เขาไม่จำเป็นต้องรักษามันตรง ๆ กับบาดแผลเล็ก ๆ อย่างนี้ เพราะการฟื้นฟูร่างบรรพกาลของเขานั้นจะรักษามันด้วยตัวเอง
“ไม่เพียงแค่สัมผัสของข้าเท่านั้นที่เพิ่มขึ้นหลังจากที่ข้าหลอมรวมเข้ากับพลังบรรพกาล แต่ข้ายังสามารถสัมผัสได้กับกฏของโลกชัดเจนมากขึ้น แม้แต่พลังเซียนธาตุแสงของข้าเมื่อถูกควบคุมไว้ก็ต่างไปจากเดิม มันมีพลังมากขึ้น”
“ยิ่งไปกว่านั้น การใช้พลังเซียนธาตุแสงของข้ายังสมบูรณ์แบบ มันไม่ใช่เพราะมาจากความแข็งแกร่งทางวิญญาณของข้า ข้ามักรู้สึกว่ามันเกี่ยวกับบางอย่างที่เกิดขึ้นกับวิญญาณของข้า” เจี้ยนเฉินหารายละเอียดทุกอย่างระหว่างการต่อสู้กับเหวินเฉิง เขาจมอยู่กับความคิดของเขาเป็นเวลานาน
เขายังไม่เข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดหลังจากที่วิญญาณของเขาหลอมรวมเข้ากับพลังบรรพกาลจริง ๆ เขาไม่ทราบว่าความสามารถพิเศษใด ๆ ที่เขานำมาใช้ได้นั้นมันจะทิ้งปัญหาใด ๆ ไว้หรือไม่
หลังจากหลอมกระบี่คู่ จิตวิญญาณกระบี่ได้จมอยู่ในนิทรา เขาไม่อาจปลุกพวกเขาได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงละความคิดที่จะถามพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ
ลงครั้งละ สี่ ห้า บท ได้ไหม...
กรุณาลงบทครั้งละหลายบทหน่อยนะครับ ชอบ ๆ...
รออ...
ตอน 1419-1420 หายครับ...
จบแล้ว......
มีต่อไหมครับ...
เมื่อไรจะอัพเดทค้าบ รอนานแล้ว...
ต่อๆๆๆ...
เลิกอัพแล้วหรา...
good novel...