เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 286

ตอนที่ 286 – ผู้อาวุโสสูงสุด

” เป็นไปได้หรือไม่ไหมที่เราจะขี่สัตว์อสูรที่บินได้? ข้าไม่เคยขี่มาก่อนเลย” เมื่อเห็นสัตว์อสูรที่บินได้ หมิงตงก็ดูเหมือนจะตื่นเต้น จากนั้นความกังวลก็พลันปรากฏไปทั่วใบหน้าของเขา” ข้าได้ยินมาว่าสัตว์อสูรที่บินได้บ่อยครั้งที่ควบคุมไม่ได้เพราะสัญชาติญาณสัตว์ป่านั้นแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรชนิดอื่น ๆ หากบังเอิญสัตว์อสูรโยนเราลงมาจากกลางอากาศ เราก็จะต้องตาย”

ผู้เยาว์ที่สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินที่อยู่ไม่ไกลออกไปมองหมิงตงอย่างดูถูกพร้อมกับกล่าวสบประมาทเขา “อืมม ช่างขี้ขลาดเสียจริง หากเจ้าไม่ต้องการขี่สัตว์อสูรที่บินได้แล้ว ก็อย่าขี่เลยไม่มีใครบังคับเจ้า”

เมื่อได้ยินอย่างนี้หมิงตงก็จ้องที่ผู้เยาว์ด้วยความโกรธแค้น แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไรผู้เยาว์ก็เอ่ยปากอีกครั้ง “อะไรนะ ? เจ้าต้องการที่จะต่อสู้ ? มาเลย ลองตีข้าดูสิ” เด็กหนุ่มคนนั้นหยิ่งยโสเกินไปและไม่เห็นแม้แต่ว่าหมิงตงจะอยู่ในฐานะคู่ต่อสู้ของเขา นอกจากนี้เขายังไม่สนใจเจี้ยนเฉินที่อยู่เคียงข้างของหมิงตงแม้แต่น้อย

ผู้คนรอบข้างจ้องมองความวุ่นวายด้วยสายตาที่เย็นชา แต่ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ต้องการมีส่วนร่วม

ดวงตาของเจี้ยนเฉินหรี่แคบลงตามคำพูดของเด็กหนุ่ม ท่าทางหยิ่งยโสของเด็กหนุ่มคนนี้เป็นสิ่งที่เจี้ยนเฉินไม่ชอบ แต่ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นเพื่อสอนบทเรียนเล็ก ๆ น้อยๆให้กับเขา ร่างหนึ่งก็ได้ปรากฏตัวตรงหน้าเขา มันเป็นฉินเซียวที่ดูแข็งแกร่งและทันใดนั้นก็ปรากฏต่อหน้าเด็กหนุ่มก่อนที่จะตบหน้าเขาอย่างรุนแรง”เทียนหลิง เจ้าคนสารเลว ! ” เขาถ่มน้ำลาย “การที่จะด่าทอสหายที่ดีของข้า เจ้ากำลังหาเรื่องถูกลงโทษ ! “

ฝ่ามือของฉินเซียวไม่ได้อ่อนโยน เมื่อเด็กหนุ่มถูกตบ เขาก็ล้มลงทันทีที่พื้นพร้อมกับส่วนหนึ่งของใบหน้าของเขาที่ถูกตบก็เริ่มจะบวมแล้ว

ฉินเซียวไม่ได้วางแผนที่จะปล่อยเทียนหลิงไปโดยง่าย เขาเตะเข้าไปที่ท้องทันทีทำให้เด็กหนุ่มต้องขดตัวด้วยความเจ็บปวด ฉินเซียวอ้าปากพูด “เทียนหลิง เจ้าหยิ่งเกินไป เจ้ากล้าแม้แต่ด่าทอพี่น้องของข้า เรามาดูกันว่าเจ้ากล้าพูดซ้ำอีกครั้งหรือไม่”

เทียนหลิงมองดูฉินเซียวด้วยความหวาดกลัวแบบเงียบ ๆ ภายในตระกูลเทียนฉิน ฉินเซียวมีอำนาจอยู่ในระดับสูงและเป็นที่รักของหลาย ๆ คน และเขายังเป็นบุตรชายของผู้นำตระกูล ทำให้เขาเป็นผู้ที่มีเพียงไม่กี่คนที่กล้าที่จะยั่วยุเขา

” พอกันทีฉินเซียว ไม่ว่าเจ้าจะพูดอะไร เจ้าและเทียนหลิงก็เติบโตมาด้วยกัน ทำไมเจ้าถึงต้องเป็นมิตรกับคนนอก นั่นเป็นเพราะคนนอกเหล่านี้มีความสำคัญมากกว่าพี่น้องของเจ้าหรือ ? ” ชายวัยกลางคนเดินไปข้างหน้าก่อนที่จะจ้องมองฉินเซียวอย่างเย็นชา นอกเหนือจากนั้นดวงตาของเขาก็พุ่งตรงไปที่เจี้ยนฉินและหมิงตงซึ่งยืนอยู่ก่อนที่สีหน้าของเขาจะมืดคล้ำลง

ท่านลุง ! ในขณะที่เด็กหนุ่มเห็นชายวัยกลางคน เขาเริ่มคลานเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเป็นผู้ช่วยให้รอด ดวงตาทั้งสองข้างก็จ้องมองเจี้ยนเฉินและหมิงตงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

ฉินเซียวเองก็ควบคุมตัวเองเมื่อเขาเห็นชายคนนี้ แต่ท่าทางของเขาไม่ได้อ่อนลง เขารู้สึกถึงความเป็นธรรมในการกระทำของเขา เขาพูดว่า “ท่านลุงเทียนโจว ท่านจะพูดอะไร ? เจี้ยนเฉินและหมิงตงเป็นพี่น้องร่วมสาบานของข้า พวกเขาจะถูกมองว่าเป็นคนนอกได้อย่างไร ? นอกจากนี้ข้ารู้ว่าเรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร เทียนหลิงพยายามที่จะหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลและสร้างความขุ่นเคืองให้กับพี่น้องของข้าก่อน นี่เป็นความผิดของเขาทั้งหมด เขามีสิทธิ์อะไรที่จะด่าทอคนอื่น ? “

ชายผู้นั้นแค่นเสียงไม่สนใจคำพูดของฉินเซียว ก่อนที่จะมองเจี้ยนเฉินและหมิงตงอย่างเย็นชา ” เจ้าสองคน ตอนนี้เรากำลังจะออกจากอาณาจักรซูย่า โปรดกลับไปยังที่ที่เจ้ามา” ชายผู้นั้นไม่ได้อ่อนโยนกับคำพูดของเขา ในขณะที่เขาสั่งให้พวกเขาออกไปจากพื้นที่

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เจี้ยนเฉินและหมิงตงต่างก็หรี่ตา ชายคนนี้กำลังพูดราวกับว่าเขาเป็นผู้นำตระกูลซึ่งมาออกคำสั่งด้วยตัวเอง

ทั้งเจี้ยนเฉินและหมิงตงได้เป็นแขกของตระกูลเทียนฉินมา 2 เดือนแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงครึ่งเดือนเท่านั้นงานชุมนุมของกลุ่มทหารรับจ้างจะเริ่มต้นขึ้น หากพวกเขาไม่สามารถใช้ประตูมิติได้ก็จะไม่มีทางเป็นไปได้ที่พวกเขาจะไปถึงเมืองทหารรับจ้างได้ในระยะเวลาอันสั้น

คำพูดของชายคนนั้นทำให้ฉินเซียวระเบิดความโกรธออกมา ในขณะที่เขาเดินไปข้างหน้าด้วยดวงตาที่ลุกโชน ท่านลุงเทียนโจว ท่านหมายความว่าอะไร ? น้องเจี้ยนเฉินและหมิงตงได้รับคำเชิญของตระกูลเทียนฉินเพื่อเข้าร่วมกับเราในการเดินทางสู่เมืองทหารรับจ้าง พวกเขาเป็นทั้งแขกผู้สูงศักดิ์ในกลุ่มของเรา ท่านจะปฏิบัติต่อพวกเขาเช่นนี้ได้อย่างไร ? “

” แขกผู้มีเกียรติ ! ” ชายคนนั้นหัวเราะด้วยการดูถูกเหยียดหยาม” สองคนนี้จะเป็นแขกผู้มีเกียรติในตระกูลเทียนฉินได้อย่างไร? หลานฉินเซียว เจ้าควรวางตัวให้ดีเพื่อที่จะได้ไม่นำคนที่น่าสงสัยกลับมายังตระกูลของเรา ตระกูลเทียนฉินเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองหว่าลู่เหริน ไม่ใช่ตระกูลขนาดเล็กทั่ว ๆ ไป นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าสามารถนำพวกเศษสวะในเมืองกลับเข้ามาได้”

เมื่อมองย้อนกลับไปที่เจี้ยนเฉินและหมิงตง ชายคนนั้นกล่าวว่า” ถ้าเจ้าฉลาดจงออกจากที่นี่ทันที นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าควรมา”

“ท่านลุงเทียนโจว ท่านกล้าเรียกสหายข้าว่าเศษสวะจากในเมือง? ถ้าอย่างนั้นชายสามคนที่อยู่ข้างหลัง ท่านก็เป็นผู้สูงศักดิ์แล้ว ตามคำพูดของท่านเอง เราไม่ควรนำเศษสวะในเมืองเข้ามาในตระกูลเทียนฉินของเรา ฉินเซียวพูดอย่างหยาบคาย ถ้ามันเป็นคนอื่น ๆ ที่มาพูดกับฉินเซียวเหมือนชายวัยกลางคนแล้ว พวกเขาก็จะตื่นขึ้นมาพร้อมด้วยอาการปวดหัว ชายวัยกลางคนนี้ไม่ใช่คนที่ฉินเซียวสามารถท้าทายได้มากนัก ดังนั้นเขาจึงระงับความโกรธของเขา

สีหน้าของชายวัยกลางคนนั้นมืดมน “ฮืมพี่ชาย 3 คนที่อยู่ข้างหลังข้า เป็นเสาหลักของกลุ่มทหารรับจ้างของข้า เราได้ผ่านสถานการณ์ความเป็นความตายมาหลายครั้งและคืบคลานขึ้นมาจากนรกที่มืดมิดด้วยกัน จึงเป็นสหายกันจนวันตาย ! จะเปรียบเทียบกับคนที่เจ้าพบกันแบบบังเอิญที่นอกตระกูลได้อย่างไร?” เมื่อถึงตอนนั้น ชายคนนั้นก็หันไปมองเจี้้ยนเฉินอีกครั้งหนึ่ง” ดังนั้นเจ้ายังไม่ไปอีก? เจ้าต้องการให้ข้าลบเจ้าออกจากพื้นที่นี้เป็นการส่วนตัวหรือไม่ ? “

ในตอนนี้ผู้คนรอบข้างต่างก็จ้องมองพวกเขาอย่างใกล้ชิด ไม่มีพวกเขาพูดแม้แต่คำเดียวแม้ว่าเจี้ยนเฉินจะเป็นแขกก็ตาม แต่มันก็เป็นเรื่องที่ไม่มีใครเกี่ยวข้องด้วย นอกเหนือจากฉินเซียวแล้วมีอีกไม่กี่คนที่รู้จักเจี้ยนเฉิน

สีหน้าของเจี้ยนเฉินเริ่มมืดลงเมื่อเขาพูดว่า “ถ้าเป็นความต้องการของท่านผู้นำตระกูลแล้ว ข้าผู้นี้ก็จะจากไปทันที แต่ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร เจ้าจะเป็นตัวแทนความต้องการของท่านผู้นำตระกูลได้อย่างไร? เจ้ามีคุณสมบัติอะไรที่จะบอกให้ข้าจากไป ? “

“เจ้ากล้าปฏิเสธที่จะเชื่อฟังข้า เจ้ากำลังรนหาที่ตาย ! ” ชายคนนั้นตะโกนก่อนที่พลังเซียนจะกระเพื่อมขึ้นในมือของเขา ใบมีดสีแดงสดปรากฏอยู่ในมือของชายคนนั้น ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นทุกครั้งที่ถูกแกว่ง

“หยุดมือ ! “

ขณะที่ชายคนนั้นกำลังจะพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉิน เสียงดังกึกก้องก็พลันเปล่งออกมาในทันที ทำให้ทุกคนหันไปมองท่านผู้นำตระกูลที่สวมเสื้อคลุมสีม่วงของตระกูลเทียนฉินเดินเข้ามาหาพวกเขา

เมื่อเห็นท่านผู้นำตระกูลเดินผ่านมาชายผู้นั้นก็ค่อย ๆ เก็บอาวุธเซียนของเขา ด้วยการจ้องมองราวกับอสรพิษที่ผู้ชายคนนั้นมองเจี้ยนเฉิน “อืม ข้าจะปล่อยเจ้าไปในวันนี้ ออกไปจากตระกูลเทียนฉินเดี๋ยวนี้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ