เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 31

Chaotic Sword God ตอนที่ 31 ตัดผ่านไปยังขั้นสูงสุดของระดับสิบ

ไป่เอินจ้องมองไปทางลั่วเจี้ยนอย่างน่ากลัวก่อนจะส่งเสียงขึ้นจมูกอย่างดัง เขาจ้องมองแล้วเลื่อนสายตาไปมองการต่อสู้ของเถี่ยต้าและเฉิงหมิงเซียง ก่อนที่เขาจะพูดด้วยเสียงต่ำ เจ้ายังไม่หยุด ? เสียงของเขาดังเช่นฟ้าร้อง ขณะที่ทั้งสองคนถูกโจมตีด้วยเสียงสะท้อนอันดัง ทำให้พวกเขาถึงกับหูหนวกไปชั่วครู่

ทันใดนั้นเถี่ยต้าและเฉินหมิงเซียงก็หยุดทันที ขณะที่พวกเขาเห็นรองอาจารย์ใหญ่ เถี่ยต้ายิ้มออกมาด้วยท่าทีตื่นเต้นไม่น้อย ใบหน้าเฉิงหมิงเซียงแปรเปลี่ยนเป็นความกลัวอย่างถึงที่สุด

เถี่ยต้าเดินตรงเข้าไปหาเจี้ยนเฉินและค่อย ๆ มองสำรวจร่างกายของเขาอย่างระมัดระวัง เขากระซิบถามว่า เจียงหยางเซียงเทียน เจ้าบาดเจ็บหรือไม่?

เจี้ยนเฉินเพียงแต่ส่ายหน้าหัว ก่อนที่จะปล่อยให้เขามองสำรวจอย่างเงียบ ๆ

เถี่ยต้าเพียงแต่หัวเราะออกมา แม้ว่าเขาจะมีหัวใจและร่างกายที่ราวกับพยัคฆ์ เขาเข้าใจความหมายของการกระทำของเจี้ยนเฉิน เขายืนอยู่ข้างหลังเจี้ยนเฉินและยังคงนิ่งเงียบตามความปรารถนาของเขา อย่างไรก็ตามเถี่ยต้ายังคงมองไปที่เฉิงหมิงเซียงและขยิบตาให้เขาราวกับจะยั่วยุ เห็นได้ชัดว่าการต่อสู้นี้ไม่เพียงพอให้เขาได้สนุกกับมันอย่างเต็มที่

รองอาจารย์ใหญ่ไป่เอินตวัดสายตามองลั่วเจี้ยนและเฉิงหมิงเซียง ลั่วเจี้ยน เจ้าฝ่าฝืนกฏของสำนัก เจ้ารู้ถึงการกระทำผิดที่เจ้าก่อขึ้นหรือไม่ ?

ลั่วเจี้ยนเงยหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว รองอาจารย์ใหญ่ การให้คำแนะนำแก่ศิษย์น้องเป็นเรื่องปกติ เจียงหยางเซียงเทียนและข้าเพียงแต่ทำสิ่งนั้นและไม่ได้ทำสิ่งอื่น ข้าฝ่าฝืนกฎของสำนักหรือ ข้าขอถามท่านได้หรือไม่ ว่าข้าได้ฝ่าฝืนกฎข้อใด ?

หืม! เจ้ายังกล้าที่จะกล่าววาจาเครือเช่นนี้! ไป่เอินคำราม ลั่วเจี้ยน กฎข้อที่ 66 ของสำนักคากัตคืออะไร ?

ลั่วเจี้ยนจมดิ่งในความคิดก่อนที่จะตอบว่า กฎข้อที่ 66 คือการต่อสู้ในหอหนังสือและการทำลายสิ่งของในหอหนังสือนับเป็นสิ่งต้องห้าม

ไปเอิ้นยังคงจ้องมองอย่างต่อเนื่อง ถ้ามันไม่ใช่เพราะว่าข้าปิดกั้นปราณกระบี่ของเจ้าแล้วละก็ ประตูหอหนังสือจะต้องถูกทำลายลงโดยเจ้า ลั่วเจี้ยนเจ้ารู้ถึงการกระทำผิดที่เจ้าได้ก่อขึ้นแล้วหรือยัง ?

ใบหน้าของลั่วเจี้ยนซีดลงหลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น สิ่งที่รองอาจารย์ใหญ่กล่าวนั้นถูกต้อง ถ้าปราณกระบี่ของเขาถูกส่งออกไปและเจี้ยนเฉินหลบมัน มันคงจะไปโดนประตูหอหนังสือซึ่งมันคงจะแตกออก ภายใต้การซ่อมแซมที่ยากและมิหนำซ้ำยังอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บแก่คนที่ยืนดูอยู่

ไม่ว่าเจี้ยนเฉินจะสามารถหลบปราณกระบี่นั้นได้หรือไม่ ลั่วเจี้ยนก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา ถ้าเขาพูดออกมาในสถานการณ์นี้แล้วละก็ เขากลัวว่าทุกอย่างจะส่งผลต่อเขามากขึ้น เพราะสำนักมีกฎระเบียบที่ชัดเจนบอกว่าลูกศิษย์มีอิสระในการให้คำชี้แนะ แต่ถ้าพวกเขาจงใจทำร้ายคนแล้วละก็ พวกเขาจะได้รับบทลงโทษอย่างรุนแรง นอกจากนี้เขาได้จงใจใช้ปราณกระบี่ของเขาเพื่อทำร้ายคนที่ไม่ได้เป็นแม้กระทั่งเซียน ดังนั้นสถานการณ์จึงยิ่งซับซ้อนมากขึ้น แม้ว่าเขาจะเคยคาดเดาเกี่ยวกับจุดจบเช่นนี้ เขาคิดว่าเขาอาจจะสามารถเอาตัวรอดจากมันได้ แต่เนื่องจากรองอาจารย์ใหญ่อยู่ที่นี่ มันเป็นสถานการณ์ที่เขาไม่ได้คาดคิดไว้ ตอนนี้ในจิตใจของหลิวเจียนหวังเพียงว่ารองอาจารย์ใหญ่จะไม่ลงโทษพวกเขารุนแรงเกินไป

ลั่วเจี้ยน ยอมรับการกระผิดขอรับ เขาพูดไปในทิศทางที่รองอาจารย์ใหญ่ยืนอยู่ เขาไม่กล้าที่จะแสดงท่าทีหยิ่งผยอง

ไป่เอินส่งเสียงขึ้นจมูกขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะพูดว่า ลั่วเจี้ยน เจ้าได้ละเมิดกฎของสำนัก 1 ข้อ ข้าขอสั่งให้เจ้าไปที่หอสำนึกตน เพื่อสำนึกต่อการกระทำผิดของเจ้าเป็นเวลา 1 เดือน เจ้าต้องการคัดค้านหรือไม่ ?

หอสำนึกตนเป็นที่สำหรับลูกศิษย์ที่ได้ละเมิดกฎของสำนักต้องไป แม้ว่ามีคำว่า “หอ” ในชื่อของมันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าบ้านหินขนาดเล็ก มันมีขนาดเล็กยิ่งกว่าห้องพักของหอพักและมีเพียงคนเดียวที่จะอยู่ในนั้นได้ เมื่อประตูถูกปิด คนที่อยู่ภายในจะถูกขังในห้องมืดสนิท ไม่มีทางที่แสงจะส่องผ่านหินเข้ามา นอกเหนือจากการมองไม่เห็นอะไรแล้ว เสียงก็ยังไม่สามารถผ่านเข้าไปให้ได้ยินอีกด้วย ขนาดที่ว่ามีพายุขนาดใหญ่เกิดขึ้นแล้ว แต่ภายในนั้นก็ยังปราศจากเสียงใด ๆ

ลั่วเจี้ยนเข้าใจอย่างแท้จริงและไม่มีอะไรคัดค้าน เขากล่าวพร้อมกับโค้งคำนับ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเคารพแต่ไม่มีใครคาดคิดว่าในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้นราวกับกลับใจ เขายังคงจ้องมองเจี้ยนเฉินอย่างอาฆาต

รองอาจารย์ใหญ่พยักหน้าของเขา แสดงออกถึงความพึงพอใจ เมื่อเจ้าจากไป ก็จงพิจารณาไตร่ตรองด้วยตัวเอง หลังจากนั้นไป่เอินเบนสายตาของเขาไปยังเฉินหมิงเซียงซึ่งมีท่าทางกระวนกระวาย เฉิงหมิงเซียง ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า ไม่คิดว่าเจ้ากำลังรังแกเด็กใหม่ สำนักคากัตจะต้องเสียหน้าเพราะคนอย่างเจ้า !!

เฉิงหมิงเซียงไร้ซึ่งการแสดงออกบนสีหน้า กล่าวว่า คำสอนของรองอาจารย์ใหญ่ถูกต้องนัก หมิงเซียงเข้าใจดีว่าตัวเองผิดและจะไม่ทำผิดซ้ำอีกต่อไป

เฉิงหมิงเซียง ข้าหวังว่าเจ้าจะจำไว้ว่าที่นี่คือสำนักคากัต ไม่ใช่นิกายหัวหยุนของเจ้า หากเจ้ายังต้องการที่จะอาศัยอยู่ภายในสำนักคากัตแล้ว เจ้าจะต้องเรียนรู้ที่จะปฏิบัติตามกฎ มิฉะนั้นแม้ว่าเจ้าจะเป็นนายน้อยของนิกายหัวหยุน เจ้าก็จะต้องได้รับการลงโทษตามความเหมาะสม ข้าหวังว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดซ้ำอีก ไม่อย่างนั้น เจ้าก็ต้องออกไป เมื่อมาถึงเฉิงหมิงเซียง รองอาจารย์ใหญ่ก็หวั่นเกรงถึงผลที่จะตามมาและไม่กล้าที่จะลงโทษอีก

เฉิงหมิงเซียงไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก ในขณะที่เขาและลูกน้องของออกจากบริเวณนั้นอย่างเงียบ ๆ

สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็ผ่านไปแล้ว ลั่วหยุน, เฉินเฟิงและคาร์ลจึงไม่ได้อยู่ต่อ และเดินจากไปด้วยความผิดหวัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ