เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 316

ตอนที่ 316: เข้าไปในถ้ำอมตะ (2)

“อ๊าก~~”

เมื่อการต่อสู้ดำเนินต่อไปได้สักระยะ ฉับพลันก็มีเสียงร้องจากชายกลางคนได้ถูกกัดบริเวณเอวโดยมีหัวที่ดูเหมือนหนูพร้อมกับลากเขาลงไปใต้ดิน

นั่นลิ่นจักรพรรดิ !

ลิ่นจักรพรรดิอยู่ที่นี่ ทุกคนระวังที่พื้นเอาไว้ !

ทันทีที่ทุกคนได้ยินเสียงตะโกน พวกเขาก็มองไปที่พื้นอย่างระมัดระวัง

ในขณะนั้นด้านหน้าของกลุ่ม มีหนูสีทองขนาดใหญ่กระโจนขึ้นมาจากพื้นดินพร้อมกับท่อนบนของชายกลางคนอยู่ในปาก

ระวัง ลิ่นจักรพรรดิมาแล้ว!

เร็วเข้า รีบเข้าไปโจมตี อย่าให้มันมุดดินหนี !

ทันทีที่ลิ่นจักรพรรดิปรากฏตัว ทุกคนก็เริ่มตะโกนเสียงดังให้ระวังลิ่นจักรพรรดิ

ลิ่นจักรพรรดินั้นเร็วมากและมุดลงดินทันทีที่มันกลืนชายกลางคนเข้าไปในปาก แม้ว่าอาวุธเซียนได้ฟันไปที่ร่างกายของมัน มันก็มีเพียงประกายไฟเท่านั้นที่เกิดขึ้น ลิ่นจักรพรรดิเป็นสัตว์อสูรขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับเกล็ดสีทองทั่วร่างกาย แม้จะมีการป้องกันที่ไม่แข็งแกร่งเท่ากับไส้เดือนเผือก แต่ก็ยังแข็งแกร่งเกินกว่าที่เซียนปฐพีจะสร้างบาดแผลให้มันได้

อย่างไม่น่าเชื่อเกิดหนามแหลมที่ทำจากดินพุ่งขึ้นมาแทงชายคนหนึ่งก่อนที่เขาจะสามารถตอบโต้ได้

อ๊ากก ! ชายคนนั้นร้องเสียงโหยหวนก่อนที่จะแทงอาวุธเซียนไปที่พื้นด้วยหวังว่าจะทำให้ลิ่นจักรพรรดิเผยที่ซ่อนจากพื้นดิน สิ่งที่เขาได้รับกลับมาก็คือลิ่นจักรพรรดิได้ออกไปจากแถวนั้นแล้ว

แสงสีม่วงกระพริบวูบวาบราวกับโลกกำลังสั่นสะเทือน ข้าง ๆ สิงโตอัสนีม่วงได้ปล่อยสายฟ้าสีน้ำเงินพุ่งเข้าหาคนที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อนที่จะทำให้เขาล้มลงไปกับพื้น

ผู้คนมากมายจู่โจมไปที่สิงโตทันทีด้วยอาวุธเซียนของพวกเขา แต่กระนั้นก็เกิดเสียงดังพร้อมกับประกายไฟและเลือดที่กระเซ็นออกมา แม้ว่าการป้องกันของสิงโตอัสนีม่วงจะไม่ได้อ่อนด้อยนัก แต่มันก็ไม่อาจป้องกันได้โดยปราศจากการบาดเจ็บใด ๆ

เสียงคำรามด้วยความโกรธที่ออกมาจากปากของสิงโตอัสนีม่วงขณะที่มันใช้กรงเล็บที่แหลมคมของมันตะปบไปยังผู้คนที่โจมตีเข้ามา สายฟ้าอีกเส้นที่พุ่งออกมาจากปากของสิงโตได้เข้าปะทะกับคนที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยที่เขาไม่อาจหลบเลี่ยงได้ ในเวลานั้นเซียนปฐพี 10-13 คนได้เข้าโจมตีสิงโตอัสนีโดยไม่ตกใจกับสายฟ้าที่มันปล่อยออกมาพร้อมกับร่วงลงพื้นกลายเป็นเถ้าถ่าน ชายอีกคนที่ถูกกรงเล็บตวัดใส่ทำให้เขาตัวขาดออกจากกันพร้อมกับตายทันที มีคนรอดไม่กี่คนพร้อมกับการบาดเจ็บ

พลังโจมตีสิงโตอัสนีม่วงนั้นรุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้นการที่จะต่อสู้กับสิงโตอัสนีจึงมีคนบาดเจ็บมากที่สุด

อีกด้านกลุ่มที่ต่อสู้กับอสรพิษวิญญาณบินและไส้เดือนเผือกก็ยังมีช่วงเวลาง่าย ๆ ทั้งสองกลุ่มต่างก็มีผู้ใช้ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ 3 คนและมีความแข็งแกร่งในตัวมันเอง ทำให้กลุ่มของพวกเขาแทบจะไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ

ฉินจี๋หยิบยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎของเขาขึ้นมาและฟันลงไปที่ไส้เดือนเผือกจนทำให้เกล็ดของมันร่อนออกมาและเกิดความเสียหายได้เล็กน้อย ในเวลาสั้น ๆ ร่างกายของไส้เดือนเผือกนั้นก็ถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงของมัน

อสรพิษวิญญาณบินก็ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าไส้เดือนเผือกมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปีกของมันได้ถูกพันธนาการด้วยแส้ของเทียนมู่หลิง แม้ว่านางจะยังไม่ได้ใช้พลังของยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎได้เต็มที่ แต่ก็เพียงพอที่จะต่อสู้กับอสรพิษวิญญาณบิน สุดท้ายความแข็งแกร่งของอสรพิษวิญญาณบินที่ถูกพันธนาการเอาไว้ได้ส่งผลกระทบต่อมันอย่างมาก มันสามารถแสดงพลังของมันได้แค่ 6 ส่วนเท่านั้น

ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎของฉินจี๋เข้าฟันใส่อสรพิษวิญญาณบินและสร้างบาดแผลลึกยาวกว่า 1 เมตร ทำให้มันต้องร้องโหยหวนออกมา

หญิงชุดเหลืองที่ยืนอยู่ไกล ๆ ก็ยิงธนูของนางออกมา ลูกศรสีทองแต่ละดอกของนางบินเข้าไปยังหัวของอสรพิษ มันส่งเสียง ฟ่อ ออกพร้อมกับส่ายหัวอย่างรุนแรงขณะที่เลือดหยดลงมา

เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ก็เริ่มพุ่งไปพร้อมกับอาวุธของพวกเขาและโจมตีเข้าไปที่หัวของมัน แต่ละคนต่างก็ฟันลงไปอย่างแรง

แม้สัตว์อสูรแต่ละจะแข็งแกร่ง แต่มนุษย์ได้โจมตีมันพร้อมกันในเวลาเดียวกันก็ยังห่างไกลกันมาก อย่างน้อย ๆ ทุกคนต่างก็เป็นเซียนปฐพีและการถูกโจมจากพวกเขาก็รุนแรงอยู่บ้าง สำหรับอสรพิษวิญญาณบินและไส้เดือนเผือกที่ถูกยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ 3 ชิ้นเข้าโจมตีต่างก็ได้รับบาดเจ็บมากกว่าสิงโตอัสนีม่วง ในตอนนี้มีเพียงลิ่นจักรพรรดิเท่านั้นที่กำลังได้เปรียบและยังคงอยู่ในสภาพที่ดีอยู่

อสรพิษวิญญาณบินยังต่อสู้กลับอย่างดุเดือดกับการถูกพันธนาการ แต่มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร บาดแผลในร่างกายของมันเริ่มร้ายแรงขึ้นเรื่อย ๆ และอารมณ์ของมันก็เริ่มที่จะเกรี้ยวเกราดขึ้นอย่างมากจากความเจ็บปวดที่มันได้รับ

ใบหน้าของเทียนมู่หลิงเริ่มจริงจังขึ้น ขณะที่นางกัดริมฝีปากล่างและจดจ่อ ขณะที่เหงื่อไหลผ่านหน้าผาก ในตอนนี้นางมุ่งความสนใจกับปีกที่ถูกมัดของอสรพิษวิญญาณบิน

ทันใดนั้นอรสพิษวิญญาณบินส่งเสียง ฟ่อ พร้อมกับพ่นพิษออกจากปากจำนวนมากพร้อมกับพุ่งไปทุกทิศทุกทาง ทันใดนั้นพิษก็ถูกเสื้อผ้าของคนผู้หนึ่งและเนื้อของเขาก็ละลายหายไปทันที

พิษมีฤทธิ์ร้ายแรงมาก มันสามารถทะลวงพลังเซียนและสามารถฆ่าเซียนปฐพีภายใน 1 ชั่วยาม ! ถอย ! ฉินจี๋สั่งให้ชายทั้งสามและอาวุโสอันถอยกลับออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับหลบพิษด้วย

หมอกที่เกิดจากพิษหนามากจนไม่อาจมองเห็นอะไรได้เลย ทุกคนที่อยู่ด้านนอกก็ไม่อาจมองเข้ามาด้านในได้ ฉินจี๋ไม่ได้สนใจเขาเพ่งไปที่การป้องกันและกระโดดขึ้นไปบนอากาศก่อนที่จะพุ่งไปหาอสรพิษและแทงไปที่หัวใจของมัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ