เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 318

ตอนที่ 318: สังหารสามจอมยุทธ

ชิเซียงกราน, เจียเต๋อหวูคัง, ตู่กูเฟิงต่างก็พุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินในเวลาเดียวกัน สิ่งที่ทำให้เจียนเฉินรู้สึกตกใจมากขึ้นไปอีกนั่นก็คือพวกเขาทั้ง 3 คนต่างก็มีม่านพลัง ดังนั้นมันจึงยากที่เจี้ยนเฉินจะทำร้ายพวกเขาได้ นอกจากนี้พวกเขายังมียุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎคนละ 1 ชิ้น หากเขาโดนมันโจมตีเข้าไปสักครั้ง เขาคงจะต้องบาดเจ็บหนักอย่างไม่ต้องสงสัยและอาจแม้กระทั่งตายเอาได้ แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บ ชิเซียงกรานและอีกสองคนที่เหลือก็คงไม่ยอมปล่อยให้เขาออกจากถ้ำอมตะโดยง่าย

ตาของเจี้ยนเฉินเบิกกว้างมากกว่าเดิม ตอนนี้เขาเพียงแต่ได้เผยไพ่ตายของเขาออกมาแล้ว

แสงม่วง-ฟ้าที่มองเห็นได้บนกระบี่วายุโปรยของเจี้ยนเฉิน เขาเดินเข้าหาชิเซียงกราน โดยไม่กลัวว่ากระบี่จะแทงไปกระทบม่านพลังของเขา

ตอนนี้เจี้ยนเฉินได้แต่ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ปราณกระบี่สีม่วง-ฟ้า ไม่ว่ามันจะสำเร็จหรือล้มเหลว มันก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาทำได้ เพราะว่ามันเป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาสามารถใช้ได้

เมื่อเห็นเจี้ยนเฉินพุ่งเข้ามา ชิเซียงกรานยิ้มออกมาอย่างดีใจเต็มใบหน้าของเขา ด้วยม่านพลังของเขาแม้กระทั่งยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎก็ไม่อาจทำลายม่านพลังของเขาได้ นั้นหมายความว่าเจี้ยนเฉินก็ไม่อาจทำมันได้เช่นกัน การโจมตีของเจี้ยนเฉินไม่ใช่สิ่งที่ชิเซียงกรานจำเป็นต้องสนใจ แม้ว่าจะเล็งแผ่นกระดาษที่อยู่ในมือของเจี้ยนเฉิน แต่เขาก็รู้ดีว่านี่เป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ ชิเซียงกรานจับสมบัติผนึกภูเขาแน่นและรอให้เจี้ยนเฉินเข้ามาใกล้ และจะปามันเหมือนกับก้อนหินเพื่อให้มันชนเข้ากับหัวของเจี้ยนเฉิน

เมื่อกระบี่วายุโปรยสัมผัสกับม่านพลังของชิเซียงกราน ภายใต้ความคาดหวังของเจี้ยนเฉิน ม่านพลังก็ถูกทะลวงโดยไม่เกิดเสียงและกระบี่ก็แทงเข้าไปด้านในทันที

คราวนี้เจี้ยนเฉินดูมีความสุขอย่างมาก เขาแทงกระบี่เข้าไปอีกโดยไม่มีการลังเล และมันก็โดนที่ลำคอของชิเซียงกราน

ชิเซียงกรานตัวแข็งไปทันทีขณะที่การเคลื่อนไหวของเขาหยุดชะงัก เมื่อมองไปลงก็เห็นว่ากระบี่ได้ทะลุม่านพลังก่อนที่จะเข้ามาแทงลำคอของเขา จากนั้นเขาก็มองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยสายตาที่ไม่น่าเชื่อ แม้กระทั่งสมบัติผนึกภูเขาที่อยู่ในมือของที่เตรียมจะโจมตีเจี้ยนเฉินก็หยุดอยู่กลางอากาศเช่นกัน

มะ-ไม่….นั่น…นั่นไม่อาจเป็น… ซือฉิงหร่ายพูดออกมาด้วยความตกใจก่อนที่เลือดจะไหลออกมาพร้อมกับคำพูดที่ติดขัด ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ตู่กู่เฟิงและเจียเต๋อหวูคังซึ่งตอนแรกได้พุ่งเข้าใส่เจี้ยนเฉินก็หยุดชะงักทันที พวกเขาเห็นว่าม่านพลังของชิเซียงกรานถูกแทงทะลุด้วยกระบี่วายุโปรยของเจี้ยนเฉิน ก่อนที่จะแทงไปยังคอของชิเซียงกราน พวกเขารู้ดีว่าการป้องกันของม่านพลังและแม้แต่ใช้ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎโจมตีมันก็ยังคงไร้ประโยชน์ แม้กระทั่งเซียนสวรรค์ก็ต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อทำลายม่านพลัง แต่ม่านพลังของชิเซียงกรานกลับถูกแทงทะลุด้วยกระบี่ของเจี้ยนเฉินต่อหน้าต่อตาพวกเขาราวกับว่ามันเป็นเพียงเต้าหู้ นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาทั้งคู่ไม่อาจเข้าใจได้

อีกด้าน ฉินจี๋และเทียนมู่หลิงต่างก็มองออกไปอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เทียนมู่หลิงอ้าปากค้างด้วยความตกใจและมองไปที่เจี้ยนเฉินกับชิเซียงกรานที่กำลังยืนนิ่งราวกับรูปปั้นหิน

ในเวลานั้นหญิงชุดเหลืองก็ได้เข้ามาในถ้ำและได้เห็นกระบี่ของเจี้ยนเฉินได้แทงไปที่คอของชิเซียงกราน นางมองด้วยความตกใจพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เขา…เขาทะลวงม่านพลังของชิเซียงกรานได้ ? หญิงสาวรู้สึกว่าหัวใจของนางเต้นอย่างรุนแรง ในตอนนี้นางไม่อาจรับรู้ได้ว่านางรู้สึกดีใจมากที่ชิเซียงกรานได้ตายไป หรือตื่นเต้นจากพลังต่อสู้ที่เหนือกว่าของเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินมองไปที่กระบี่ของเขาที่ทะลวงม่านพลังของชิเซียงกรานอย่างตื่นเต้น มันเหมือนกับว่าภาระที่หนักหนาของเขาได้ถูกปลดเปลื้องออกมาจากหัวใจของเขา หลังจากที่จิตวิญญาณกระบี่ได้ตื่นขึ้น มันก็ได้ช่วยเขาเพิ่มพลังโจมตีอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งตอนที่เขาเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เขาก็ยังสามารถฆ่าได้แม้กระทั่งเซียนปฐพีและจนถึงตอนนี้จิตวิญญาณกระบี่ก็ยังไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง พวกมันได้ช่วยให้เขาได้ทำลายม่านพลังของเซียนผู้คุมกฎได้ ด้วยสิ่งนี้คนที่มีม่านพลังก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป

แม้ว่ายุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎของเซียนผู้คุมกฎจะทรงพลังมาก แต่มันก็แค่สิ่งที่เอาไว้โจมตีได้อย่างรุนแรงเท่านั้น ตราบใดที่มีคนมั่นใจว่ายุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎนั้นไม่อาจโจมตีโดนตัวหรือต้องปะทะใด ๆ กับมัน ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎก็ไม่ต่างไปจากอาวุธเซียน

ชิเซียงกรานได้ตายตกไปอย่างรวดเร็วขณะที่เขาเอาแต่มองไปที่เจี้ยนเฉิน ความเริ่มสูญเสียเรี่ยวแรงอย่างช้า ๆ ม่านพลังก็เริ่มจางหายไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะหายไปอย่างสมบูรณ์

ด้วยการบิดข้อมือของเขา กระบี่ของเจี้ยนเฉินก็ตัดคอของชิเซียงกรานออกไป ก่อนที่เลือดจะพุ่งออกมา ในเวลาเดียวกันเจี้ยนเฉินก็รีบคว้าไปที่แหวนมิติของชิเซียงกรานและเก็บสมบัติผนึกภูเขาไว้ที่ตัวเขาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะพุ่งไปหาเจียเต๋อหวูคังเพื่อต่อสู้กับเขา

ก่อนหน้านี้เจี้ยนเฉินมองว่าเจียเต๋อหวูคังและตู่กูเฟิงเป็นศัตรูของเขา สำหรับคนที่เป็นศัตรูของเขา เจี้ยนเฉินก็ไม่มีความเมตตาใด ๆ ยิ่งไปกว่านั้นเจี้ยนเฉินต้องการแผ่นกระดาษทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ที่อยู่ในมือของพวกเขา

เมื่อเห็นเจี้ยนเฉินบินเข้ามาหา ใบหน้าของเจียเต๋อหวูคังก็ดูน่าเกลียดอย่างมาก ย้อนกลับไปที่ตอนที่พวกเขาได้แข่งกันเก็บหน้ากระดาษ เขาไม่คิดเลยว่าเจี้ยนเฉินเป็นคู่ต่อสู้แม้แต่น้อย แต่เพราะว่าเจี้ยนเฉินได้ทำลายม่านพลังของชิเซียงกรานได้ง่าย ๆ เขาก็อดรู้ไม่ได้ว่าหัวใจของเขากำลังถูกโจมตีอย่างรุนแรง ตอนนี้เขาไม่อาจคิดอย่างไร้เดียงสาแล้วว่าม่านพลังจะสามารถป้องกันเขาจากทุกภยันตรายที่กล้ำกรายเข้ามาได้

เจียเต๋อหวูคังกระโดดถอยออกมาอย่างรุนแรงขณะที่เขาควงดาบเพลิงฟันเข้าใส่เจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินรู้ดีว่าถึงยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎที่พุ่งเข้ามาหาเขา เขาหลบมันออกไปได้อย่างง่ายดายและโจมตีด้วยแสงสีม่วง-ฟ้าที่อยู่บนกระบี่วายุโปรยของเขาจนกระทบเข้ากับม่านพลังของเจียเต๋อหวูคัง

โดยไม่อะไรหยุดมันได้ ม่านพลังก็กลายเป็นรูเล็ก ๆ เมื่อสัมผัสกับกระบี่ของเจี้ยนเฉิน จากนั้นเจียเต๋อหวูคังก็ถูกแทงโดยไม่มีปัญหาใด ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ