เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 336

ตอนที่ 336: สองกระบวนท่า

สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว คู่แข่งทุกคนมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์สำหรับรอบสุดท้าย ด้านนอกม่านพลัง มีการพูดคุยมากมายและมีการพูดคุยกันว่าว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ทำให้ผู้คนเริ่มเดิมพันกัน นักพนันทุกคนต้องการชนะรางวัลใหญ่ ดังนั้นจำนวนเงินรวมได้ทั้งหมดสิบล้านเหรียญม่วง อย่างไรก็ตาม การเดิมพันส่วนใหญ่นั้นลงเดิมพันให้หมิงตงเป็นผู้ชนะ ในขณะที่คนอื่น ๆ มีประมาณหนึ่งในสิบส่วน

ในตอนบ่าย ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในเมืองทหารรับจ้างอย่างล้นหลาม จำนวนผู้คนที่มาที่นี่ในวันนี้ค่อนข้างมากกว่าวันก่อนหน้า ทำให้ถนนทุกสายที่นำไปสู่จตุรัสกลางที่แออัดมาก

เจี้ยนเฉินและคารากาทั้งคู่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งของสังเวียน พวกเขามองหน้ากันอย่างดุเดือด

“เจ้าเด็กอวดดี ดูเหมือนว่าเจ้ากับหมิงตงจะสนิทกันมาก หมิงตงฆ่าคาซด้าเฟย น้องชายของข้า วันนี้ข้าจะใช้เลือดของเจ้าเป็นเครื่องสังเวยวิญญาณของคาซด้าเฟย จากนั้นหมิงตงจะได้ไปสมทบเจ้าอีกคน ! ” คารากาจ้องมองเจี้ยนเฉินขณะที่พูดออกมา

เจี้ยนเฉินแค่นเสียงออกมาขณะที่เขายิ้มเยาะพลางเอ่ยว่า น้องชายของเจ้า คาซด้าเฟยและหมิงตงก็เอ่ยถ้อยคล้ายกันเช่นนี้ และในที่สุด คาซด้าเฟยก็ถูกหมิงตงผ่าเป็นสองท่อน วันนี้คำพูดของเจ้าก็เหมือนกับที่คาซด้าเฟยพูดกับหมิงตง มันไม่ได้ทำให้ข้ากลัวเลย เจ้าจะได้เห็นว่าใครจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้”

“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นหมิงตงหรือ ? ความจริงที่ว่าหมิงตงเป็นเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 เป็นสิ่งที่ข้าไม่ได้คาดหวังไว้ และข้าก็ไม่คิดว่าเขามีทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ที่แข็งแกร่ง การตายของคาซด้าเฟยด้วยน้ำมือของหมิงตงมันก็ไม่ผิด มันสมเหตุสมผลแล้ว แต่เจ้า เจ้าเป็นเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 ด้วยอีกคนหรือ ? หืม ถ้าเจ้าเป็น ข้า คารากา จะยอมรับความพ่ายแพ้ทันทีและจะยอมคำนับเจ้า 3 ที” คารากาเยาะเย้ยด้วยความรังเกียจ

เจี้ยนเฉินตอบด้วยท่าทางที่ไม่ยินดียินร้ายว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ถึงพลังของข้า ขอให้รู้เพียงว่า เจ้าไม่จำเป็นต้องคารวะข้า เพราะเจ้าจะได้ออกไปจากที่นี่ในสภาพที่เป็นศพ โปรดจำไว้ว่าคำพูดของเจ้าไว้ เพราะทุกคำมีราคาสูง” เจี้ยนเฉินจ้องมองเขาอย่างโหดเหี้ยม

คารากาตอบกลับด้วยรอยยิ้มเย็นชา และเปล่งรังสีอำมหิต

เริ่มได้ ! เสียงดังผ่านเข้ามาในม่านพลัง

กระบี่สีขาวเงินสองมือที่มีความยาว 2 เมตรปรากฏในมือของคารากา มันกระพริบด้วยแสงสีขาวจาง ๆ ที่ทำให้มันดูศักดิ์สิทธิ์

ในเวลาเดียวกัน เจี้ยนเฉินก็ถือกระบี่วายุโปรยในมือ เจี้ยนเฉินพูดต่อหน้าเขาว่า “หากเจ้ามีชุดเกราะพิลึก เจ้าควรใส่มันไว้ตอนนี้เลย หรือเจ้าอยากจะเสี่ยงชีวิตข้าก็จะไม่ว่าอะไร”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของคารากาก็เริ่มร้อนขึ้นด้วยความโกรธ ในอดีต ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน เขาก็ได้รับความเคารพนับถือจากทุกคน อย่างไรก็ตามในวันนี้ เด็กหนุ่มอายุไม่เกิน 20 ปีดูถูกเขา สำหรับคารากาผู้สูงส่งและยิ่งใหญ่ เขาไม่สามารถยอมรับสิ่งนี้ได้ เขาส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความโกรธแค้นว่า “ดูเหมือนว่าเจ้ายังไม่รู้จักวิธีการเขียนคำว่าตายด้วยซ้ำ ไม่มีความจำเป็นที่ข้าต้องใช้ชุดเกราะประกายแสงกับเจ้า ตายซะ ! ” เมื่อถึงตอนนั้น เขาก็บินไปที่เจี้ยนเฉินแล้วเหวี่ยงกระบี่ยาวยักษ์ออกไป มันมีพลังทั้งหมดที่เซียนปฐพีวัฏจักรที่ 5 สามารถรวบรวมได้

ความแข็งแกร่งของคารากาเทียบเท่าได้กับหมิงตงที่เป็นเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6

เจี้ยนเฉินจ้องเขม็งไปที่คารากาในขณะที่แสงสีฟ้า-สีม่วงปรากฏบนกระบี่วายุโปรย ทำให้แสงสีเงินบนใบมีดทวีความรุนแรงมากขึ้น

ช่วงเวลาที่ฉินจี๋และเทียนมู่หลิงมองเห็นแสงสว่าง ดวงตาของพวกเขาก็จดจ่ออยู่บนกระบี่ของเจี้ยนเฉินทันที ที่จริงแล้ว แสงบนกระบี่วายุโปรยนั้นสะดุดตามากและพวกเขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในถ้ำอมตะ เจี้ยนเฉินทำลายม่านพลังของชิเซียงกรานและเจียเต๋อหวูคังได้อย่างง่ายดายด้วยแสงแบบเดียวกันกับตอนนี้ พวกเขาจำได้ทันทีว่าเจี้ยนเฉินกำลังใช้แสงเดียวกันนั้นอีกครั้ง

ปราณกระบี่สีม่วง-ฟ้าค่อนข้างอ่อน แต่เนื่องจากแสงสีเงินจากกระบี่วายุโปรย ปราณกระบี่สีม่วง-ฟ้าจึงค่อนข้างโดดเด่นและสะดุดตามาก

คารากาสังเกตเห็นปราณกระบี่สีม่วง-ฟ้าที่พุ่งมาอย่างฉับพลัน แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร เขากลับมุ่งหน้าไปเฉือนที่เอวของเจี้ยนเฉินแทน

ในเวลาเดียวกัน เจี้ยนเฉินก็โจมตีพร้อมกับกระบี่วายุโปรย มันปะทะกับกระบี่ของคารากาอย่างรุนแรง

ปัง !

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ