เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 393

ตอนที่ 393: ของขวัญวันเกิด

วันต่อมา วันคล้ายวันพระราชสมภพของราชาแห่งอาณาจักรฉินหวงก็ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ เจี้ยนเฉินและฉินจี๋ตื่นแต่เช้าและทั้งสองก็ออกเดินทางไปด้วยกันเพื่อแสดงความยินดีกับพระองค์

พระราชวังดูคึกคักเป็นอย่างมาก ขุนนางและผู้มีอิทธิพลมากมายต่างเข้ามาแสดงความยินดีกับราชาด้วยตัวเองเนื่องในโอกาสพิเศษ ผู้นำทางการเมืองและมหาอำนาจทั้งหลายต่างก็ให้ความสำคัญ

อาณาจักรฉินหวงมีอำนาจมากและเป็นอาณาจักรที่สองในสามอาณาจักรใหญ่ ภายในทวีป อาณาจักรฉินหวงนั้นถือเป็นหนึ่งในมหาอำนาจสูงสุด ดังนั้นทุก ๆ ดินแดนในอาณาจักรและแม้กระทั่งกลุ่มมหาอำนาจที่ด้อยกว่าหรือสูงกว่าอาณาจักรนี้ ต่างก็ส่งคนมาพร้อมกับของขวัญเพื่อมาร่วมอวยพร หากไม่ใช่องค์ชายหรือองค์หญิง ก็จะเป็นอัครเสนาบดีรวมถึงที่ปรึกษาจักพรรดิหลายคนเข้ามาร่วมแสดงความยินดี

เดินเข้ามาในท้องพระโรง เจี้ยนเฉินและฉินจี๋ก็เห็นคนยืนรวมกันอยู่นับพันคน แต่ละคนต่างก็สวมเสื้อผ้าที่งดงามหรือไม่ก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทั่วอาณาจักร

สามารถมองเห็นนางกำนัลมากมายที่เดินไปรอบ ๆ พร้อมกับอาหารจานเล็ก ๆ เพื่อบริการแขก

“คารวะองค์ชายสาม ! “

“คารวะองค์ชายสาม ! “

….

เมื่อทุกคนเห็นฉินจี๋เดินเข้ามา ผู้คนมากมายก็ป้องมือและทักทายด้วยความเคารพ

พวกเขาทักทายพร้อมกับรอยยิ้ม ฉินจี๋ก็ทักทายตอบโดยใบหน้าเรียบเฉย

เจี้ยนเฉินเดินดามหลังฉินจี๋เงียบ ๆ เขาพอใจอย่างมากที่เขาไม่กลายเป็นจุดเด่นและไม่มีใครรู้จักตัวเขา

ขุนนางในวังให้ความสนใจเขาน้อยมาก คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเจี้ยนเฉินเป็นบริวารของฉินจี๋และไม่ได้ทำให้พวกเขาเหลียวมอง อีกส่วนหนึ่งของท่ามกลางคนใช้ตรงกลาง มีบางคนสังเกตเห็นว่าเจี้ยนเฉินไม่ใช่คนธรรมดา เขาไม่ได้เป็นคนรับใช้หรือหยิ่งยโสเหมือนคนทั่วไป ทั้งยังวางตัวอย่างสง่างาม แม้ว่าเขาจะอายุน้อย แต่เขาก็เดินมาด้วยความมั่นคง แม้กระทั่งเปรียบเสมือนภูเขาไม่สั่นคลอน ชายที่แข็งแกร่งบางคนในห้องสามารถบอกได้จากแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากตัวของเขา (เจี้ยนเฉิน) นั้น ทำให้พวกเขาดูตกใจอย่างมาก

แปลก ทำไมข้ารู้สึกราวกับว่าเคยเห็นชายคนนั้นมาก่อน ? คนที่เดินตามองค์ชายสามผู้นี้เหมือนกับว่าข้าเคยเห็นเขาจากที่ไหนกันนะ ? หนึ่งในชายที่แต่งตัวดีจ้องมองไปยังเจี้ยนเฉินและพึมพำอย่างสงสัย

เขาไม่ใช่คนเดียวที่คิดอย่างนั้น มีคนอีกหลายคนในวังที่รู้สึกสงสัยเช่นเดียวกัน พวกเขารู้สึกว่าเขาเป็นคนแปลกหน้า แต่พวกเขาก็ยังไม่อาจสลัดความรู้สึกสงสัยเช่นนี้ได้

น้องเจี้ยนเฉิน เจ้าอยากจะเดินเล่นก่อนก็ได้ ข้ายังมีอีกหลายคนที่ต้องทักทาย ฉินจี๋พูดขอโทษเจี้ยนเฉิน

วันนี้เป็นวันครบรอบ 50 ปีของเสด็จพ่อของเขาซึ่งเป็นราชาที่ไม่อาจรับแขกได้ทั่วถึง อย่างไรก็ตามคนเหล่านี้ล้วนเป็นขุนนางจากอาณาจักรโดยรอบ พวกเขาไม่อาจให้ใครก็ตามมารับหน้าพวกเขาได้ ดังนั้นต้องให้ลูก ๆ ของเขามารับหน้าแทน

แม้ว่านี่จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับองค์ชายที่จะได้รู้จักกันและกัน แต่มันเป็นข้อแก้ตัวของพวกเขา เพราะพวกขาจะสามารถสร้างรากฐานสำหรับการสนับสนุนทางการเมืองเมื่อถึงเวลาที่ต้องมาชิงบัลลังก์

เจี้ยนเฉินไม่ได้เป็นเด็กบ้านนอก เขาเข้าใจว่าการชุมนุมครั้งนี้มีความสำคัญแค่ไหนสำหรับฉินจี๋และไม่ได้พูดอะไร เขาเดินไปกินขนมใกล้ ๆ มุมห้องก่อนที่จะดื่มด่ำไปกับขนมอันแสนอร่อย

ตอนนี้เอง ชายร่างเตี้ยกางคนเสื้อคลุมฟ้านั่งลงข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน พร้อมกับพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเพื่อบ่งบอกว่ากินได้ตามสบาย เขาพูดว่า น้องชาย เราเคยพบกันมาก่อนหรือเปล่า ?

เจี้ยนเฉินเงยหน้าขึ้นมามองชายคนนั้น เมื่อเห็นว่าเขาหน้าตาไม่คุ้น เขาก็ส่ายหัวและพูด ท่านจำผิดแล้ว บางทีข้าอาจจะดูคล้ายคนที่ท่านรู้จัก ?

ชายคนนั้นพยักหน้า เป็นแบบนี้เอง บางที ข้าชื่อไต้โม่ซวง เจ้าชื่ออะไร ?

เจี้ยนเฉินหัวเราะ ข้าเป็นคนไม่มีชื่อเสียงและข้าก็ไม่ได้เป็นคนของราชวงศ์ฉินหวง ท่านไม่ต้องเสียเวลาจดจำชื่อของข้าหรอกหากข้าบอกออกไป เจี้ยนเฉินกินขนมเสร็จแล้วและหยิบอันใหม่ขึ้นมา

หลังจากเจี้ยนเฉินจากไปแล้ว ไต้โม่ซวงก็หรี่ตาลงอย่างสงสัย คนไม่มีชื่อเรียง ? มันจะเป็นเรื่องจริงรึ? ทำไมข้ารู้สึกว่าข้าเคยเห็นเขาที่ไหนสักแห่ง ? ถึงแม้เขาจะพูดพึมพำเขาก็ยังไม่อาจหาคำตอบได้ ดังนั้นไต้โม่ซวงจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินออกไปจากตรงนี้เช่นกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ