เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 43

Chaotic Sword God ตอนที่ 43 ตอบโต้การขโมย

ทันใดนั้นเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าพุ่งหลบไปทางด้านข้าง หลังจากผ่านการต่อสู้กับสัตว์อสูรมาถึงสองวัน แม้แต่คนกะโหลกหนาอย่างเถี่ยต้าก็เริ่มต้นที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อสู้นั้น นี่เป็นการตอบโต้กลับ เถี่ยต้าหลบการโจมตีที่เข้ามาตามสัญชาติญาณ ก่อนจะตวัดขวานของเขาไปที่ขาของคนร้ายอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนด้านหน้าของพวกเขาก็พิสูจน์ได้ว่ามันจัดการได้ลำบาก เช่นเดียวกับขวานนั้นที่ได้โจมตีพวกมันครั้งหนึ่งที่ต้นขา กระบี่นั้นก็ยกขึ้นต้านและปะทะเข้ากับขวานด้วยเสียงอันดังก้อง

ตึ้ง!

โลหะปะทะโลหะ ขณะที่ขวานของเถี่ยต้าถูกขัดขวางด้วยความแข็งแกร่งอันน่ากลัว เถี่ยต้ายังคงใช้แรงผลักขวานเข้าไปทางด้านในของกระบี่ ก่อนที่จะหยุดโจมตี ทันใดนั้น ชายหนุ่มที่ถือกระบี่ก็รู้สึกแขนของเขามันชาไปทั้งแถบจากการที่มันได้ปะทะกับขวานอย่างแรง เป็นเหตุให้มือทั้งมือของเขาสั่นไปทั้งมือ

เด็กหนุ่มคนนั้นรู้สึกประหลาดใจก่อนจะร้องเตือนเพื่อน ๆ ของเขา ทุกคน ต้องระวังความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาของไอ้หนุ่มนี่ให้มาก มันจะดีที่สุด ถ้าเจ้าไม่อยู่ในระยะที่แขนของมันเอื้อมถึง !

ได้ยินคำเตือนนั้น ลูกศิษย์คนอื่น ๆ อีกสองคนที่ต่อสู้เถี่ยต้า ทันใดนั้นก็เริ่มเปลี่ยนท่าทีกลายเป็นระมัดระวังมากขึ้น และพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะกับขวานยักษ์ของอีกฝ่าย

อีกด้านหนึ่ง เจี้ยนเฉินกำลังต่อสู้อย่างเข้มข้นกับชายอีกคนที่ถือกระบี่ แม้ว่าอาวุธเจี้ยนเฉินนั้นจะเป็นเพียงแท่งเหล็กที่สึกกร่อน แต่ความสามารถของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเถี่ยต้าเลย เขาไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใดเลย เขาใช้ความเร็วในการเคลื่อนไหวไปรอบ ๆ อย่างง่ายดาย เมื่อเห็นจุดอ่อน เจี้ยนเฉินได้แทงแท่งเหล็กของเขาไปที่ต้นขาของฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด เนื่องจากพวกเขาเป็นลูกศิษย์ของสำนัก เขาจึงไม่กล้าที่จะลงมือฆ่าแต่เปลี่ยนเป็นมุ่งทำร้ายแทน

ความเร็วของเจี้ยนเฉินช่างรวดเร็วนัก ทำให้ลูกศิษย์ไม่ได้มีเวลาที่จะตั้งตัว และเขาทำได้เพียงจ้องมองไปยังแท่งเหล็กที่แทงเข้ามายังต้นขาของเขาอย่างตกตะลึง

อ๊าก ! ชายหนุ่มร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ขณะใบหน้าไร้ซึ่งสีเลือดและมีเหงื่อหยดลงมาตามหน้าผากของเขา

ได้ยินเพื่อนของเขาร้องออกมาเช่นนั้น ใบหน้าของนักกระบี่คนอื่นก็เปลี่ยนแปลง เมื่อรู้ว่าไม่สามารถที่จะต่อสู้กับเจี้ยนเฉินได้โดยตรง เขาร้องออกมาถามเพื่อนของเขา แฮรี่ เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่ ?

แม้ว่าชายคนนั้นจะไม่ได้โจมตีเจี้ยนเฉินอีกต่อไป แต่เจี้ยนเฉินก็ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายปลีกตัวออกอย่างง่ายดายนัก ขณะที่เจี้ยนเฉินเคลื่อนตรงไปที่เขา บีบอัดพลังเซียนลงในกำปั้นของตนเอง และชกหมัดนั้นออกไปยังทรวงอกของชายคนนั้นทันที

เขายังคงเคลื่อนไหวออกอย่างรวดเร็ว เขาไม่สนใจที่จะรับฟังคำพูดของอีกฝ่ายหรือแม้กระทั่งจะรอให้อีกฝ่ายได้ตอบโต้ ฝ่ามือของเขาก็ถูกส่งออกไปอย่างเงียบ ๆ ราวกับงูและโจมตีที่ทรวงอกของชายอีกคน

ปัง ชายหนุ่มถูกส่งให้ลอยละลิ่วด้วยกำปั้นของเจี้ยนเฉิน จากนั้น เลือดจำนวนมากก็กระอักออกมาจากปากของเขา

หลังจากส่งชายสองคนออกไป ทันใดนั้นเขาก็เดินตรงไปเพื่อช่วยเหลือเถี่ยต้า ในช่วงเวลานั้นเอง เถี่ยต้าได้พัวพันกับการต่อสู้ที่ยากและได้รับบาดเจ็บไม่น้อยจากการโจมตีของคนทั้ง 3 คน หนังหมาป่าที่เขาสวมถูกเฉือนออกจากกันและถูกทำลาย เลือดไหลออกจากบาดแผลของเขา ถ้าไม่เป็นเพราะร่างกายที่คงทนและความแข็งแกร่งที่พระเจ้าประทาน คนอื่นคงจะไม่กลัวที่จะต้องต่อสู้กับเขา และเขาคงจะถูกทำให้หมดสติไปกับพื้นเสียแล้ว

ด้วยการปรากฏตัวของเจี้ยนเฉิน ความกดดันของเถี่ยต้าก็บรรเทาลงไม่น้อย พลังของเจี้ยนเฉินในสนามรบนั้นแข็งแกร่งมาก และแม้แต่เซียนปกติยังไม่อาจต่อสู้กับเขาได้อย่างเท่าเทียมกันได้ หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีของการต่อสู้ระยะประชิด ชายสามคนที่อยู่ล้อมรอบเถี่ยต้าได้ล้มลงทีละคน แต่ละคนได้รับบาดเจ็บและหลังจากนั้นไม่นาน ชายทั้งห้าคนก็ลงไปกองกับพื้นด้วยความเจ็บปวดและไม่มีแรงเคลื่อนไหวจากตรงนั้นเลยสักนิด

เจี้ยนเฉินมองไปที่บาดแผลจำนวนมากบนร่างกายของเถี่ยต้าและถามด้วยด้วยความกังวล เถี่ยต้า เจ้าสบายดีหรือไม่ ?

เถี่ยต้าพยักหน้าและกล่าวว่า ข้าสบายดี ข้ามันหนังเหนียวนัก เขาชี้ไปที่กลุ่มคนทั้งห้าซึ่งกำลังบิดตัวไปมาด้วยความเจ็บปวดอยู่บนพื้น เราควรจะทำเช่นไรกับพวกเขาดี ?

เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น ทันใดนั้นเจี้ยนเฉินก็ยิ้มออกมาอย่างแปลก ๆ “เถี่ยต้า ไปรวบรวมเข็มขัดมิติและเอาแกนอสูรทั้งหมดออกมา จากนั้นค่อยคืนเข็มขัดกลับไปให้พวกเขา

ได้ยินคำพูดของเจี้ยนเฉิน ชายทั้งห้าคนบนพื้นดินก็นิ่งไปทันที ขณะที่ใบหน้าของพวกเขาซีดลง ชายไม่กี่คนในพวกเขามีสีหน้าไม่พอใจทันที เข็มขัดมิติของพวกเขามีแกนอสูรที่ได้รับมาจากช่วง 2 วันของการต่อสู้อย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะนี้ เพียงแค่ครึ่งวันของวันที่สามกำลังจะผ่านพ้นไป ถ้าพวกเขาสูญเสียแกนอสูรทั้งหมดในตอนนี้แล้วละก็ มันแน่ชัดแล้วว่าเขาจะล้มเหลวในภารกิจนั้น

เถี่ยต้าหัวเราะออกมา โดยปราศจากความลังเล เขาทำตามที่เจี้ยนเฉินสั่งออกมาทันทีและคว้าเข็มขัดมิติจากพวกเขาทั้งห้าคน เจี้ยนเฉินจ้องมองพวกเขาด้วยแท่งเหล็กที่ถูกอาบไปด้วยเลือดในมือ เฉกเช่นเสือกำลังลอบมองเหยื่อของมัน เพื่อให้ไม่ให้พวกมันได้เคลื่อนไหว

เดิมทีแล้ว ลูกศิษย์ทั้งห้าคนวางแผนที่จะกลับมาสู้อีกครั้ง แต่เมื่อพวกเขาเห็นเจี้ยนเฉินจับแท่งเหล็กที่เปื้อนเลือดพวกเขา ทันใดนั้น พวกมันทั้งหมดก็ยอมแพ้ ไม่กล้าที่จะต่อต้านออกมาแต่อย่างใด และยินยอมให้เถี่ยต้านำเข็มขัดมิติของพวกเขาไป

หลังจากรวบรวมเข็มขัดมิติทั้งหมด เถี่ยต้านำมันกลับไปให้เจี้ยนเฉิน และเริ่มที่จะนับแกนอสูรทีละอัน ๆ โดยรวมแล้วพวกเขามีเพียงแกนอสูร 12 อัน ซึ่งทั้งหมดเป็นแกนอสูรระดับ 2

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ