เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 705

ตอนที่ 705: เกราะไหมบรรพกาล (2)

ความแข็งแกร่งที่เจี้ยนเฉินได้แสดงออกมาให้เห็นทำให้หัวหน้ากลุ่มโจรรู้สึกถูกคุกคามเล็กน้อย แม้เขาจะมั่นใจในความคิดและความแข็งแกร่งของเขาว่าเป็นรองเพียงเซียนผู้คุมกฎ แต่เขาก็ยอมรับว่าเขาไม่สามารถทำเหมือนที่เจี้ยนเฉินทำ ตอนที่เขาทำลายอาวุธเซียนได้ ถึงแม้ว่าเขาจะใช้ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ มันก็ยังยากที่จะทำลายอาวุธเซียนของเซียนสวรรค์ นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงเรียกอาวุธลับของกลุ่มโจรมังกรวารีออกมาโดยไม่ลังเล

เซียนสวรรค์ทั้ง 14 คนมีความเกี่ยวข้องกับผู้ก่อตั้งกลุ่มโจรมังกรวารี พวกเขามีพลังต่ำที่สุดอยู่ในวัฎจักรที่ 3 ของเซียนสวรรค์ พวกเขาติดตามหัวหน้ามาหลายปี และช่วงนี้กลุ่มโจรมังกรวารีมีช่วงเวลาที่สงบสุขดี ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาแยกตัวออกไปฝึกที่ด้านหลังของภูเขา เพื่อทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นมากกว่านี้ เมื่อกลุ่มโจรมังกรวารีต้องประสบกับอันตรายร้ายแรงเท่านั้น พวกเขาทั้ง 14 คนถึงจะออกมา

จอมยุทธทั้ง 14 คนข้ามภูเขาและออกมาปรากฏตัวอย่างชั่วร้าย พวกเขามาถึงที่เปิดโล่งในบริเวณนั้นในไม่ช้า สิ่งแรงที่พวกเขาทำคือมองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะไปรวมที่หัวหน้า และทักทายพร้อมกับป้องมือ “ท่านหัวหน้า ! “

การมาปรากฏตัวของจอมยุทธทั้ง 14 คนทำให้คนของกลุ่มโจรมังกรวารีรู้สึกเบาใจลงบ้าง สำหรับพวกเขาแล้ว ไม่ว่าเจี้ยนเฉินจะแข็งแกร่งสักเพียงใด ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะชนะคนจำนวนมากเพียงนี้ได้ ถ้าพวกเขาโจมตีพร้อมกัน เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะรอดไปได้

หัวหน้าจ้องมองไปที่จอมยุทธทั้ง 14 คนด้วยรอยยิ้ม การมาถึงของจอมยุทธทั้ง 14 คนทำให้เขารู้สึกมั่นใจมากขึ้นและขจัดความกดดันที่มาจากเจี้ยนเฉินออกไป

“ท่านหัวหน้า ท่านเรียกพวกเรามาที่นี่วันนี้ หมายความว่าเรากำลังเจอเรื่องอะไรร้ายแรงหรือไม่ ? ” ชายที่ดูอาวุโสที่สุดในกลุ่ม 14 คนถาม เขาดูชรามาก หน้าของเขาเหี่ยวย่นจนดูรูปหน้าที่แท้จริงไม่ออก เสียงของเขาแหบแห้งเหมือนกับว่าเขาอ่อนแอมาก มันทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเขาน่าจะนอนอยู่ที่เตียงและคงจะตายในไม่ช้านี้

“ผู้อาวุโสหลี่พูดถูกแล้ว วันนี้ กลุ่มโจรมังกรวารีของข้าเจอปัญหานิดหน่อย ไม่เพียงแต่ผู้พิทักษ์แห่งสวรรค์และโลกจะถูกฆ่า แต่ผู้อาวุโสคนอื่นก็ถูกฆ่าด้วย รวมถึงผู้อาวุโสอีก 2 คนที่บาดเจ็บหนัก ซึ่งข้าก็ไม่แน่ใจว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ นี่เป็นเหตุที่ทำให้ข้าเรียกพวกท่านมาที่นี่” หัวหน้ากลุ่มโจรอธิบาย

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาของชายชราผู้ที่ถูกเรียกว่าผู้อาวุโสหลี่ก็เปล่งประกายขึ้นมา เขาจ้องมองไปที่คนของตระกูลเทียนฉินทันที นอกจากคนของกลุ่มโจรมังกรวารีแล้วก็มีเพียงคนของตระกูลเทียนฉินเท่านั้น และจากการที่เห็นท่าทีของทั้งสองฝ่าย ผู้อาวุโสหลี่ก็บอกได้เลยว่าคนพวกนี้ต้องเป็นศัตรูของกลุ่มโจรมังกรวารีแน่ โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก

“ผู้พิทักษ์แห่งสวรรค์และโลกทั้งสี่คนนั้นไม่ใช่คนฝีมืออ่อนหัด ใครจะคิดล่ะว่าพวกเขาจะตายด้วยน้ำมือของเจ้า ใครที่ฆ่าผู้พิทักษ์ทั้งสี่ก้าวออกมา ให้ข้า หลี่กุ้ย สั่งสอนบทเรียนให้กับเจ้าเอง” จิตสังหารปรากฏขึ้นที่แววตาของผู้อาวุโสหลี่ เสียงที่แหบแห้งนั้นเย็นชาและเมื่อมันถึงหูของผู้ฟังมันก็ยิ่งฟังดูอ่อนแอลงไปอีก มันทำให้ทุกคนรู้สึกหนาวเย็น ในขณะที่อุณหภูมิรอบ ๆ ก็ลดลงทันทีขณะที่หลี่กุ้ยพูด

“หลี่กุ้ย เจ้าคือหลี่กุ้ยจริง ๆ ! ทำไมเจ้าถึงยังไม่ตาย ! ” ผู้อาวุโสสูงสุดจ้องมองหลี่กุ้ยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คุ้นกับหลี่กุ้ยที่เป็นอยู่ในตอนนี้เลยเพราะว่า 5 ศตวรรษที่แล้ว หลี่กุ้ยคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดของกลุ่มโจรมังกรวารีนอกเหนือจากหัวหน้า เขาทำแต่สิ่งที่โหดร้ายและไร้ความปราณีมากเสียยิ่งกว่าที่แม่ทัพปีศาจทั้งสี่ได้ทำไว้เสียอีก เขาสร้างชื่อไว้มากที่เดียว

สายตาของหลี่กุ้ยหยุดไปที่ท่านผู้อาวุโสสูงสุดทันที เขาเย้ยหยัน “ใครจะคิดล่ะว่าหลังจากการฝึกตนระยะยาวแล้ว ยังมีบางคนที่ยังรู้จักข้าอยู่อีก มันทำให้ข้าทึ่งจริง ๆ แย่หน่อยนะที่ข้าไม่ได้ตายง่ายขนาดนั้น”

“เซียนสวรรค์มีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 1,000 ปี หลี่กุ้ย เจ้าเหลือเวลาบนโลกนี้ไม่มากแล้วล่ะ” ผู้อาวุโสอีกคนกล่าวอย่างเฉยชา

ท่าทางของหลี่กุ้ยเริ่มตึงเครียด แต่เขาก็ยังเหยียดหยามต่อไป “แม้ว่าข้ายังไม่ได้เป็นเซียนผู้คุมกฎ แต่ข้าก็เป็น เซียนสวรรค์วัฎจักรที่ 6 ในขั้นสูงสุด อีกไม่นานข้าก็คงได้เป็นเซียนผู้คุมกฎ พวกเจ้าทั้งสามคนเป็นแค่เซียนสวรรค์วัฎจักรที่ 2 หรือ 3 เจ้ากล้าที่จะมาทำท่าทางหยิ่งยโสต่อหน้าข้าเช่นนี้ได้อย่างไร ? ช่างไม่เจียมกะลาหัว ข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าทั้งสามไปแน่” ท้องฟ้ากระเพื่อมอย่างน่ากลัว หลี่กุ้ยเริ่มควบคุมพลังธรรมชาติด้วยความมุ่งมั่นที่จะเริ่มต่อสู้

ผู้อาวุโสทั้งสามคนของตระกูลเทียนฉินกลัวหลี่กุ้ยมาก เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกัน พวกเขาก็ไม่ใช่คู่มือของหลี่กุ้ยเลยแม้แต่น้อย ทันทีที่เห็นหลี่กุ้ยกำลังจะเริ่มโจมตีนั้น ผู้อาวุโสสามก็รีบพูดออกมาอย่างรวดเร็ว “วันนี้ผู้นำทัพของตระกูลเทียนฉินคือเจี้ยนเฉิน ทุก ๆ อย่างที่ตระกูลเทียนฉินทำก็เพราะเจี้ยนเฉิน หลี่กุ้ย ถ้าเจ้ามีความสามารถจริง เจ้าต้องเอาชนะสหายน้อยของเราผู้นี้ไปก่อน”

หลี่กุ้ยกวาดสายตาไปยังเจี้ยนเฉินที่อยู่หน้าสุด แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเจี้ยนเฉินแข็งแกร่งขนาดไหน แต่ในฐานะที่เขาเป็นถึงเซียนสวรรค์วัฎจักรที่ 6 เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่ไม่ธรรมดาซึ่งออกมาจากตัวของเจี้ยนเฉิน

“เจ้าหนู เจ้ามาจากที่ไหน ? บอกชื่อของเจ้ามา” หลี่กุ้ยเข้าใจว่าการที่เซียนสวรรค์ของตระกูลเทียนฉินยอมให้เด็กหนุ่มนี้นำทัพนั้น คงเป็นเพราะคนนี้มีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาเป็นแน่ หรือบางทีเขาอาจมีพลังที่ทำให้แม้แต่เซียนสวรรค์ทั้งสามคนนี้นับถือ

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ที่เขาจะเป็นเซียนผู้คุมกฎ เรื่องนี้ก็อยู่ในใจของหลี่กุ้ยอยู่แล้ว เขาเป็นเซียนสวรรค์ วัฎจักรที่ 6 มานานจนพอจะเข้าใจว่ามันยากแค่ไหนกว่าจะตัดผ่านเป็นเซียนผู้คุมกฎได้ แต่ในท้ายที่สุด เขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่หนุ่มกว่าเขาจะเป็นเซียนผู้คุมกฎที่ทรงพลังได้

“เขามีนามว่าเจี้ยนเฉิน บางทีเขาอาจจะเป็นเจี้ยนเฉินที่ได้อันดับหนึ่งในงานชุมนุมทหารรับจ้างนั้นหรือเปล่า ? “

“บางทีเขาอาจจะใช่ราชาทหารรับจ้าง เจี้ยนเฉิน ผู้นั้นหรือไม่ ? มันมีข่าวลือที่ว่าเขาเคยกำจัดเซียนสวรรค์ พร้อมกันถึง 4 คนพร้อมกันที่นอกเมืองทหารรับจ้างด้วยตัวของเขาเอง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ