เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 722

ตอนที่ 722: กลุ่มลึกลับในเทือกเขาสัตว์อสูร

“ฮุสตัน ! ” เจี้ยนเฉินร้องอุทานออกมา ในใจของเจี้ยนเฉินนั้นเขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงท่านลุงเซี่ยในร่างที่แก่ชรา

“ฮุสตัน ท่านลุงเซี่ย หัวหน้านิกายดาบโลหิตมีแซ่เดียวกันกับท่านลุงเซี่ยจากหมู่บ้านหุบเขายั่งยืน หรือบางทีพวกเขาอาจจะเป็นคนคนเดียวกัน?” เจี้ยนเฉินคิด เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงครั้งแรกตอนที่ลุงเซี่ยได้เห็นเสือตัวเล็กสีขาว

เมื่อคิดถึงเสือ เจี้ยนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ไหล่ของเขา เขาเห็นเสือขาวซึ่งกำลังนอนหลับขดตัวอยู่บนไหล่ของเขาเหมือนแมวน้อย มันกำลังย่อยยาที่อยู่ในร่างของมันที่เป็นผลมากจากการกินสมบัติสวรรค์

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็มองไปที่หวังหยานหงที่แข็งแกร่ง เขาเห็นนางจ้องมองเขาและไม่ได้สนใจเสือขาวที่ไหล่ของเขาเลย นางไม่เข้าใจถึงตัวตนที่แท้จริงของเสือขาวนี้

“เจี้ยนเฉิน เจ้าเคยพบกับหัวหน้านิกายดาบโลหิตแล้วหรือ ? ” ตาของหวังหยานหงเบิ่งออกด้วยความสงสัยและจ้องลึกลงไปในเจี้ยนเฉิน หวังหยานหงได้เห็นชายในชุดแดงสี่คนนั้นที่ปรากฏขึ้นมาที่คฤหาสน์เจียงหยาง และนางก็คาดเดาตัวตนของพวกเขาได้จากพลังหยินชั่วร้ายที่หนาแน่นที่พวกเขาปล่อยออกมา พวกเขาคือคนของนิกายดาบโลหิตที่หายสาบสูญไปเมื่อพันปีที่แล้วและพวกเขาก็ไม่ได้อ่อนแอลงเลย พวกเขายังคงสถานะเดิมในสำนัก

หวังหยานหงยังคงสงสัยเป็นอย่างมากว่าทำไมนิกายดาบโลหิตถึงได้มาที่คฤหาสน์เจียงหยาง นางต้องการที่จะรู้คำตอบ ทีแรกนางเดาว่าเจี้ยนเฉินนั้นน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับนิกายดาบโลหิต

เจี้ยนเฉินส่ายหน้า “ผู้อาวุโส ข้าเพิ่งรู้จักนิกายดาบโลหิตวันนี้เอง ข้าคงไม่รู้จักหัวหน้านิกาย” แม้ว่าเขาจะตอบไปแบบนั้น แต่ภาพของท่านลุงเซี่ยก็แว่บเข้ามาในจิตใจของเขา เจี้ยนเฉินรู้สึกมาตลอดว่าท่านลุงเซี่ยนั้นยากที่จะหยั่งถึง และเขายังใช้แซ่เดียวกันกับหัวหน้านิกายดาบโลหิต อีกทั้งเรื่องราวของครอบครัวของท่านลุงเซี่ยเหมือนกับเรื่องที่หัวหน้านิกายได้ประสบมา เขาไม่มีคู่ มีเพียงลูกชายและหลานชายเท่านั้น เจี้ยนเฉินแค่ไม่รู้ว่าเซี่ยมี่อายุเท่าไร

อีกทั้งมีแค่ท่านผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้างและท่านลุงเซี่ยเท่านั้นที่สามารถบอกถึงตัวตนของเสือขาวได้จากการเหลือบมองเพียงแค่แวบเดียว แค่นี้ก็แสดงให้เห็นเรื่องแปลก ๆ จากลุงเซี่ยแล้ว

แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะเดาว่าหัวหน้านิกายดาบโลหิตนั้นมีความเกี่ยวข้องกับท่านลุงเซี่ย แต่เขาก็ยังไม่ได้ยืนยันในเรื่องนี้

หลังจากที่ออกไปจากสวน เจี้ยนเฉินก็ได้ซื้อโลงศพน้ำแข็งพันปีทันทีและเก็บรักษาศพของพ่อและแม่ของเขาไว้ข้างใน แม้ว่าเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่ทรงพลังจะสามารถชุบชีวิตคนตายได้ แต่ร่างกายนั้นต้องอยู่ในสภาพที่ดีด้วย

เจี้ยนเฉินอยู่ที่คฤหาสน์เจียงหยางต่ออีก 7 วัน ในเจ็ดวันนั้น คฤหาสน์เจียงหยางนั้นปกคลุมไปด้วยความหดหู่และหลังจากเจ็ดวันนั้นผู้คนหลายคนที่มาแสดงความเสียใจก็ได้กลับไปแล้ว แม้แทบจะไม่มีใครเหลือแล้ว พวกเขาก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในคฤหาสน์

เจ็ดวันหลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็ได้เริ่มทำใจได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับพ่อแม่ของเขาสร้างรอยแผลที่ลบไม่หายในจิตใจของเจี้ยนเฉิน มันทำให้เขาเย็นชาขึ้น เขาดูเคร่งครึม รอยยิ้มที่เขาเคยมีก็ได้หายไป

ในวันนั้นเอง เจี้ยนเฉินลาผู้คนที่นั้น เขาไปจากคฤหาสน์เจียงหยางพร้อมกับโลงศพน้ำแข็งที่มีร่างของพ่อแม่เขาอยู่ข้างใน เขากำลังจะเดินทางไกลและสิ่งเดียวที่เขากลัวคือเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นกับร่างของพ่อแม่ของเขา ดังนั้นเขาจึงจำเป็นที่จะต้องหาที่ที่ปลอดภัยที่จะเก็บโลงศพเพื่อที่เขาจะสามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วเขาจึงจะจากไปได้อย่างไม่เป็นกังวล

แม้ว่าโลงศพน้ำแข็งนั้นจะสามารถเก็บไว้ได้ในแหวนมิติแต่เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น แม้ว่าเขาจะเป็นเซียนผู้คุมกฎที่แข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังมีศัตรูมากมายที่ทวีปเทียนหยวน อีกทั้งเซียนผู้คุมกฎทั้งห้าคนนั้นยังคงไล่ล่าเขาอยู่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขา พ่อแม่ของเขาคงไม่ได้เห็นแสงสว่างอีกเป็นแน่

เวลาจะเยียวยาทุกสิ่ง หลังจากเจ็ดวัน ความเศร้าเสียใจจากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่คฤหาสน์เจียงหยางก็เริ่มที่จะผ่อนคลายลง ในขณะนั้นเอง เจี้ยนเฉินก็นำเอาโลงน้ำแข็งไปและลอยสูงขึ้นไปบนฟ้า เขารีบไปที่อาณาจักรฉินหวงเนื่องจากเขาวางแผนที่จะเก็บร่างของพ่อแม่ของเขาไว้ที่พระราชวังฉินสวรรค์ซึ่งเป็นที่พักซึ่งเขาอยู่อาศัย

ในวันเดียวกัน ท่านลุงของเจี้ยนเฉิน ไป๋เต๋า ได้ลาออกจากการเป็นผู้บังคับบัญชาองครักษ์ของอาณาจักร เขาจากไปจากอาณาจักรเกอซุนพร้อมกับสัตว์อสูรระดับ 4 ที่เขาขี่

ในช่วงเวลานั้น ไป๋เต๋าได้คิดทุกสิ่งทุกอย่างไว้แล้ว เขาต้องการที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของเขา นอกเหนือจากการฝึกฝนและทำใจให้สงบในสถานการณ์เป็นตายแล้ว การชำระหนี้แค้นเท่านั้นที่จะช่วยเขาได้ หลานชายของเขาเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้ ถ้าเขาหลับหูหลับตาอยู่ภายในพระราชวังแล้วล่ะก็ เขาก็ไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าที่เขาจะได้เป็นเซียนสวรรค์

เจี้ยนเฉินผ่านประตูมิติที่อาณาจักรต้าโจวและกลับมาที่อาณาจักรฉินหวง หลังจากนั้น เขาก็เก็บโลงศพน้ำแข็งของพ่อแม่ของเขาไว้ที่พระราชวังฉินสวรรค์เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะถูกปกป้องโดยผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่

ราชาของอาณาจักรฉินหวงและฉินจี๋ก็รู้สึกเศร้าเสียใจต่อการตายของพ่อแม่ของเจี้ยนเฉิน พวกเขาปลอบโยนเจี้ยนเฉิน

อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความต้องการที่หนักแน่นของเจี้ยนเฉิน เรื่องที่เกิดขึ้นกับพ่อแม่ของเขาจะไม่ถูกประกาศ มีแค่ไม่กี่คนในอาณาจักรฉินหวงเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ