เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 75

ตอนที่ 75: ต่อสู้กับเซียนผู้เชี่ยวชาญ

กระบี่วายุโปรยเป็นเหมือนกับมีดร้อน ๆ ที่ตัดผ่านเนยเพราะมันได้ฟันผ่าพลังเซียนออกเป็นสองส่วน อย่างไรก็ตามพลังของมันได้ถูกลดทอนลงเมื่อทะลวงผ่านเกราะป้องกันของเขา ปลายกระบี่นั้นไม่เบี่ยงเบนแม้แต่น้อยขณะที่ยังคงทะลวงเข้าไปหาชายวัยกลางคน การป้องกันทั้งสองชั้นของชายคนนั้นถูกผ่าออกเป็นเสี่ยง ๆ แต่เมื่อถึงช่วงเวลาที่กระบี่วายุโปรยทะลวงชั้นพลัง ชายคนนั้นก็รั้งพลังเซียนธาตุลมผลักตัวเองให้ถอยไปด้านหลัง.

ชายวัยกลางคนยืนห่างออกไปไม่กี่เมตรขณะที่มองเจี้ยนเฉินอย่างดุดัน ใบหน้าของเขาแข็งกระด้างขณะพูด “เป็นความเร็วที่น่าทึ่งนัก”

เจี้ยนเฉินมองกลับไปที่ชายคนนั้นโดยไม่พูดอะไรอีก เขารู้สึกว่าไม่เป็นไรแม้ว่าจะใช้พลังถึงขีดสุดแล้ว เขาใช้ความเร็วในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่การโจมตีของเขาก็ถูกหลบได้โดยชายคนนั้น ถ้าเจี้ยนเฉินต้องการที่จะสังหารชายคนนั้น เขาก็ไม่ได้อ่อนแอกว่าเจี้ยนเฉินเลยและเขาก็เป็นเซียนธาตุลม แน่นอนว่าเขาจะต้องเชี่ยวชาญเรื่องความเร็วอย่างมาก พูดอีกอย่างคืออาจกล่าวได้ว่าเจี้ยนเฉินไม่ได้เปรียบเขาในด้านอื่น ๆ เลย

หากว่าไม่คำนึงถึงความปราณีตในการใช้กระบี่ของเขา มันก็ไม่เร็วกว่าการโต้ตอบของคู่ต่อสู้และทุกอย่างก็ไม่มีประโยชน์ นอกจากนี้เนื่องจากมีความแตกต่างอย่างมากในจุดแข็งของพวกเขา เจี้ยนเฉินจึงไม่กล้าที่จะต่อสู้กับชายกลางคนในระยะประชิด

“ความแข็งแกร่งของเจ้าอยู่ในขอบเขตเซียนผู้เชี่ยวชาญแล้ว ? ” เจี้ยนเฉินถามขณะที่จ้องมองไปยังชายคนนั้น

ชายคนนั้นไม่อาจซ่อนความตกใจได้ “ถูกต้อง ข้าอยู่ในขอบเขตเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นกลางแล้ว” หลังจากนั้นเขาก็พูดหยุดพูดก่อนที่จะจ้องมองมาที่เจี้ยนเฉินและพูด “เจ้ายังไม่ได้ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเจ้าและไม่ได้มีธาตุลม แม้ว่าตอนนี้ความเร็วของเจ้าก็ไม่ได้ช้านัก ดังนั้นข้าเลยไม่แน่ใจว่าเจ้ามีความเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร” ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็น ตอนนี้ในความคิดของเขานั้น ตัวเขาอยากจะรู้จริง ๆ ในฐานะที่เขาเป็นเซียนธาตุลมถ้าเขาอ่อนแอกว่าอีกฝ่ายในด้านอื่น ๆ มันก็ไม่เป็นไร แต่ในด้านความเร็วนั้นเขาไม่อาจยอมรับความพ่ายแพ้ได้ง่าย ๆ เจี้ยนเฉินฟันเขาอย่างรวดเร็วในขณะที่ตัวเจี้ยนเฉินนั้นอ่อนแอกว่าเขามากและไม่ได้เป็นเซียนธาตุลม ดังนั้นชายคนนี้จึงอดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็น

“ข้าขอโทษ แต่ข้าไม่ต้องการตอบในเรื่องนี้” เจี้ยนเฉินตอบ

เมื่อได้ยินอย่างนี้ชายคนนั้นก็จ้องมองอย่างเฉยเมยก่อนที่จะแค่นเสียง “ถ้าเจ้าบอกว่าเจ้าใช้ทักษะอะไรจึงได้รวดเร็วกว่าข้า ข้าก็จะปล่อยเจ้าไปออกจากที่นี่ทั้ง ๆ ที่เจ้ายังมีชีวิต ฮึ่ม เจ้าคิดว่าเจ้าจะแข่งกับข้าด้านความเร็วได้รึ ? “

“ไม่ว่าอย่างไรข้าก็เร็วกว่าเจ้า ทำไมเจ้าไม่เข้ามาทดสอบด้วยตัวเองล่ะ ? ” เจี้ยนเฉินตอบพร้อมกับคุกคามชายคนนั้น เจี้ยนเฉินไม่กลัว ตรงกันข้ามเขาพร้อมที่จะต่อสู้อย่างเต็มที่ ขณะที่เขากำกระบี่แน่นจนเส้นเลือดที่มือของเขาปูดโปน พร้อมกับปล่อยปราณกระบี่ออกมาจากปลายกระบี่อย่างต่อเนื่องและแผ่ไปทั่วทั้งร่างของเจี้ยนเฉิน

ชายคนนั้นจ้องไปที่เจี้ยนเฉิน มีประกายแสงวาบที่ตาของเขา ในใจของเขายังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความเร็วของเจี้ยนเฉิน แม้ว่าตัวเจี้ยนเฉินจะมีความเร็วที่รวดเร็วมาก แต่เขาก็ไม่ได้เป็นเซียนธาตุลม ดังนั้นเขายังไม่มีความได้เปรียบในจุดแข็งของชายกลางคน ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ต้องการประลองความเร็วของเจี้ยนเฉิน การหลบการโจมตีของกระบี่ก่อนหน้านี้มันได้ใช้พลังทั้งหมดของเขาในการเคลื่อนไหว หากเขาช้าลงกว่านี้อีกหน่อยก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากระบี่ของเจี้ยนเฉินได้แทงทะลุหัวใจของเขาไปแล้ว ด้วยเหตุนี้เขาจึงค่อนข้างกลัวที่จะต่อสู้กับเจี้ยนเฉิน

ไม่เพียงแค่นั้น มองไปที่เสื้อผ้าเนื้อหยาบของเจี้ยนเฉิน เขาสามารถเดาได้ง่าย ๆ ว่าความเร็วของเจี้ยนเฉินนั้นรวดเร็วเพียงใดในการเคลื่อนไหวโดยไม่มีแม้แต่เหงื่อ ถ้าเจี้ยนเฉินสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วต่อเนื่อง หากมันเป็นแบบนี้เขาจะต้องเครียดมากเป็นแน่แท้

เมื่อเห็นว่าชายคนนี้ไม่โจมตี เจี้ยนเฉินก็เริ่มที่จะเพิกเฉยและดูการเคลื่อนไหวทุกอย่างช้า ๆ เจี้ยนเฉินรู้ว่าในกรณีนี้เขาเร็วน้อยกว่าศัตรูของเขา ดังนั้นหากได้โอกาสเขาจะต้องลงมืออย่างรุนแรงโดยไม่ออมมือเอาไว้แม้แต่น้อย สิ่งที่เขาได้ทำตอนนี้คือขัดขวางชายคนนั้นเพื่อที่เขาจะไม่สามารถไปฆ่าทหารรับจ้างที่อ่อนแอกว่าได้ หากเขาถ่วงเวลาได้นานพอจนผู้เชี่ยวชาญของหทารรับจ้างมาและช่วยจัดการเขาแทนเจี้ยนเฉิน

การต่อสู้ยังไม่หยุดขณะที่ทั้งสองยังคงจ้องมองกัน เสียงของการต่อสู้ยังสามารถได้ยินขณะที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็เสียกำลังพลเป็นจำนวนมาก พื้นดินถูกย้อมไปด้วยสีแดงของเลือด จนถึงตอนนี้มันแทบจะเป็นบ่อน้ำแล้ว

พวกโจรยังคงต่อสู้ด้วยทุกสิ่งที่พวกเขามี คนที่สามารถรอดได้นั้นเป็นคนที่มีสองอย่างคือความแข็งแกร่งและสมอง ในขณะที่ทหารรับจ้างและโจรมีจำนวนเท่ากัน

ทั้งสองยังคงยืนอยู่ที่นั่นก่อนหน้านี้และในที่สุดก็เริ่มเคลื่อนไหว พร้อมกับสายลมใบมีดของง้าวก็ส่องแสงจนคล้ายกับพระจันทร์เสี้ยวในตอนกลางคืนขณะที่ชายคนนั้นวิ่งพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินที่ห่างจากเขาอยู่สองเมตร

เมื่อเห็นชายคนนั้นพุ่งเข้ามา ดวงตาของเจี้ยนเฉินก็แวบออกมาอย่างอันตราย ขณะที่เขาใช้กระบี่วายุโปรยยกขึ้นมาปัดป้องอย่างแผ่วเบา

ชายคนนั้นฟันง้าวลงมาที่เจี้ยนเฉินอย่างรวดเร็วพร้อมกับทิ้งเส้นแสงสีเขียวเอาไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ